หลายคนคงทราบกันดีว่า HTML, CSS และ JavaScript ล้วนเป็นภาษาที่ใช้ในการพัฒนาเว็บเพจ ซึ่งทั้งหมดสามารถใช้งานได้ในโปรแกรมแบบเดียวกัน และแสดงผลบน โปรแกรมเปิดเว็บ หรือ เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) เหมือนกัน แล้วความแตกต่างของทั้ง 3 ภาษาคืออะไร มาดูกันเลย
ภาษา HTML หรือที่ชื่อเต็มๆ คือ "Hypertext Markup Language" เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการพัฒนาเว็บเพจ ใช้สร้างเค้าโครง หรือใส่เนื้อหาข้อความต่างๆ ในหน้าเว็บ โดยใช้ Tag <> เป็นตัวกำหนดจุดเริ่มต้น และ < / > กำหนดจุดสิ้นสุดการทำงาน
HTML เริ่มพัฒนาโดย Tim Berners Lee ในปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) เพื่อเสนอต้นแบบสำหรับนักวิจัยใน CERN สำหรับแลกเปลี่ยนเอกสาร ข้อมูลด้านการวิจัย ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) Tim ได้เขียนโปรแกรม และทดลองรันบนเซิร์ฟเวอร์ที่พัฒนาขึ้น ต่อมาเพื่อกำหนดมาตรฐานให้ดีขึ้น W3C (World Wide Web Consortium) จึงเป็นผู้กำหนดสเปกทั้งหมดของ HTML และได้พัฒนารูปแบบไปเป็น XHTML ซึ่งมีการกำหนดความสามารถและมาตรฐานที่รัดกุมมากขึ้น โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของ W3C
W3C (World Wide Web Consortium) คือ องค์กรระหว่างประเทศทำหน้าที่จัดระบบมาตรฐานที่ใช้งานบนเว็บไซต์ (WWW) โดยมีจุดมุ่งหมาย ที่จะเป็นแกนนำทางด้านพัฒนา และแนะนำวิธีการใช้งานสำหรับเว็บไซต์ทั้งหมด
รุ่น | ปีที่พัฒนา |
HTML | ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) |
HTML2 | ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) |
HTML3 | ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) |
HTML4 | ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) |
HTML5 | ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) |
XHTML | ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) |
ภาษา CSS หรือที่ชื่อเต็มๆ คือ "Cascading Style Sheets" มันเป็นภาษาที่ใช้พัฒนาลักษณะรูปแบบ ใส่พื้นหลัง หรือเพิ่มกรอบข้อความ ของหน้าเว็บ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้หน้าเว็บของเรา CSS สามารถกำหนดรูปแบบพร้อมกันทีเดียวได้ ทำให้เวลาแก้ไขไม่ต้องคอยแก้ทีละส่วน
CSS เริ่มพัฒนาในปี ค.ศ. 1994 ถูกกำหนดมาตรฐานโดย W3C การใช้ CSS ในการจัดรูปแบบการแสดงผล จะช่วยลดการใช้ภาษา HTML ในการตกแต่งเอกสารเว็บเพจ ทำให้ซอสโค้ด (Source Code) ภายในเอกสาร HTML เหลือเพียงส่วนเนื้อหา ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
รุ่น | ปีที่พัฒนา |
CSS1 | 1996 (พ.ศ. 2539) |
CSS2 | 1998 (พ.ศ. 2541) |
CSS3 | 2011 (พ.ศ. 2554) |
CSS4 | เริ่มพัฒนาตั้งแต่ 2009 (พ.ศ. 2552) แต่ยังไม่มีเบราว์เซอร์รองรับ |
เขียนแทรกลงไปในบรรทัดที่ต้องการแก้ไขที่ไฟล์ HTML ได้เลย
แยก CSS ออกจาก HTML แต่อยู่ในหน้าเดียวกันกับไฟล์ HTML โดยแทรก CSS เอาไว้ที่ < head >< /head >
สร้าง CSS เป็นไฟล์ .css ต่างหาก แล้วนำไปใช้ในหน้าเว็บด้วยการเพิ่ม < link rel="stylesheet" href="ชื่อไฟล์.css" type="text/css" / > ไว้ที่ส่วน < head >< /head > ในหน้า HTML
การตั้งค่าลักษณะนี้จะเห็นได้ว่าเราจะนำคำใน Tag HTML ด้านล่างไปใช้กำหนดใน style แล้วใช้วงเล็บปีกกากำหนดส่วนของการตั้งค่าลักษณะรูปแบบต่างๆ
เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้พัฒนาเว็บเพจร่วมกับ HTML ที่ทำให้หน้าเว็บมีความเคลื่อนไหว อาจจะใช้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ผู้ใช้งานกรอก หรือใช้เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบนหน้าเว็บ และเพิ่มลูกเล่นให้เว็บสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
JavaScript เริ่มพัฒนาโดย Brender Eich พนักงาน บริษัท เน็ตสเคป เดิม JavaScript ใช้ชื่อว่า Mocha และภายหลังได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Live Script และในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ได้ปรับปรุงแล้วตั้งชื่อใหม่ว่า JavaScript จนถึงปัจจุบัน รูปแบบการเขียนภาษาที่ใช้คล้ายคลึงกับ ภาษา C
รุ่น | ปีที่พัฒนา |
ecmascript1 | 1997 (พ.ศ. 2540) |
ecmascript2 | 1998 (พ.ศ. 2541) |
ecmascript3 | 1999 (พ.ศ. 2542) |
ecmascript4 | 2000 (พ.ศ. 2543) |
ecmascript5 | 2009 (พ.ศ. 2552) |
ecmascript6 | เริ่มปี 2015 (พ.ศ. 2558) และปรับปรุงทุกปี |
คำสั่งจะอยู่ในหน้าเดียวกับ HTML โดยจะใช้ < script >< /script > กำหนดขอบเขตคำสั่งของ JavaScript
สร้าง JavaScript เป็นไฟล์ .js ต่างหาก แล้วนำเข้าไปใช้ในหน้าเว็บด้วยการเพิ่ม
< script type="text/Javascript" src="ชื่อไฟล์.js" >< /script> ไว้ที่ส่วน < head >< /head > ของไฟล์ .html
ตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่าแท็ก script สั่งให้มี Pop Up ขึ้นว่า Hello World เมื่อมีการกดที่คีย์บอร์ด ตามคำสั่งที่กำหนดในแท็ก form
โปรแกรมสำหรับสร้างเว็บเพจ หรือช่วยเขียนโค้ดนั้น ก็มีหลากหลายโปรแกรม ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำโปรแกรมที่ใช้งานได้ง่ายเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มพัฒนาเว็บ และที่สำคัญดาวน์โหลดได้ฟรี
HTML | CSS | JavaScript |
สามารถนำไฟล์เอกสารอื่นๆ มาใช้ได้ เช่น ไฟล์ .css .js | สามารถกำหนดการตกแต่งพร้อมกันทีเดียวได้ | สามารถทำให้หน้าเว็บเพจเปลี่ยนแปลง และตรวจสอบข้อมูลที่ผู้ใช้งานกรอกได้ |
การแก้ไขรูปแบบการตกแต่งค่อนข้างยากต้องแก้ทีละจุด | มีรูปแบบการนำมาใช้งานที่หลากหลาย | การใช้คำสั่งยากกว่า HTML และ CSS ซึ่งอาจจะค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ |
เป็นภาษาที่ง่ายสำหรับนักพัฒนาเว็บมือใหม่ | ฟอนต์ของ CSS ใช้งานไม่ได้กับทุกเครื่อง | เว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะต้องมีการใช้ JavaSript เพื่อให้เว็บมีความสมบูรณ์มากขึ้น |
จากที่กล่าวมาข้างต้นหลายคนคงเข้าใจแล้วว่า HTML, CSS และ JavaScript มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน โดย HTML เป็นภาษาหลักที่ใช้ในการสร้างเค้าโครงหน้าเว็บขึ้นมา และใส่เนื้อหาต่างๆ ในเว็บ ส่วน CSS ใช้เพิ่มความสวยงามให้กับเว็บด้วยการใส่สีพื้นหลัง, สีตัวอักษร หรือกำหนดขนาดกรอบ และ JavaScript เพิ่มลูกเล่นให้เว็บเพจของเราสามารถโต้ตอบกลับผู้ใช้งานได้ ซึ่งสามารถนำทั้ง 3 ภาษามาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อให้ได้หน้าเว็บที่สมบูรณ์ตามความต้องการของเราได้
|
หนี Coding มาเขียนบทความ |
ความคิดเห็นที่ 2
3 มกราคม 2567 20:05:56
|
||
GUEST |
Iqra Technology
The statement outlines the unique roles of HTML, CSS, and JavaScript in web development, emphasizing their collaborative use for creating dynamic and visually appealing web pages. Understanding this trio is crucial for effective and comprehensive web design.HTML Training |
|
ความคิดเห็นที่ 1
3 ธันวาคม 2565 18:05:55
|
||
GUEST |
นายกิติศักดิ์ บุญขำ
อ่านคิดเขียนของเว็บไซต์ HTMLและCSS
|
|