ในตอนนี้ iOS 15 ก็ได้ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ใครที่ต้องการใช้งานก็สามารถเข้าไปอัปเดตกันได้แล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม : วิธีอัปเดต iOS 15 และ iPadOS 15 ผ่าน OTA หรือ iTunes พร้อมลิงก์ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ iOS โดยตรง
ผู้ที่อัปเดต iOS 15 แล้ว อาจจะมีความรู้สึกว่ามันแทบไม่แตกต่างไปจาก iOS 14 เลย ไม่เหมือนกับตอนที่ iOS 13 อัปเดตเป็น iOS 14 ที่มีการเพิ่มระบบอย่าง Widgets หรือ App Library เข้ามา ทำให้มันดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างชัดเจน โดยส่วนตัวก็รู้สึกว่า ถ้ามองที่เปลือก มันก็ไม่แตกต่างกันจริง ๆ นั่นแหละ อย่างไรก็ตาม ในการทำงานของมัน iOS 15 ได้ขัดเกลาคุณสมบัติหลายอย่างให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก
ในบทความนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับ และเทคนิคการใช้งานใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มมาใน iOS 15 ให้ลองนำไปใช้งานกัน
ใน iOS 15 ตัว Facetime ได้รับการปรับปรุงระบบการทำงานแบบที่เรียกได้ว่าชุดใหญ่ไฟกะพริบเลยทีเดียวล่ะ นอกจากจะมีการเปลี่ยน หน้าจอผู้ใช้งาน (User Interface - UI) ใหม่แล้ว ยังอนุญาตให้เลือกใช้กล้องหลังตัวที่สองได้ด้วย (ถ้ามี) แล้วยังมีระบบ SharePlay สุดเจ๋งให้ใช้งานอีกด้วย แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ การที่ทาง Apple ได้เปิดให้ปัจจุบันนี้ FaceTime สามารถใช้งานร่วมกับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และระบบปฏิบัติการ Windows ได้แล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม : User Interface หรือ UI คืออะไร ?
อย่างไรก็ตาม ก็สไตล์ขนมของ Apple ล่ะนะ ถึงจะบอกว่า ผู้ใช้ Android กับระบบปฏิบัติการ Windows สามารถใช้งานได้ แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่ผู้สร้างห้องวิดีโอคอลจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ของ Apple อยู่ดี สรุปง่าย ๆ คือ Apple ไม่ได้ทำแอป FaceTime ให้กับ Android กับ Windows เพียงแต่เพิ่มระบบสร้างลิงก์เข้าร่วม FaceTime ขึ้นมา เมื่อผู้ใช้ iOS เริ่มวิดีโอคอลผ่าน FaceTime ก็สามารถเอาลิงก์ให้กับผู้ใช้ Android กับ Windows เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้ามาร่วมวิดีโอคอลได้นั่นเอง
Focus เป็นคุณสมบัติใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน iOS 15 โดยมีเป้าหมายที่ต้องการช่วยให้ผู้ใช้งานมีสมาธิจดจ่อกับงานทีกำลังทำอยู่ได้มากขึ้น โดย "โหมด Focus" ใน iOS 15 เป็นสิ่งที่ถูกพัฒนาต่อจาก "โหมด Do Not Distub" ที่มีอยู่เดิม ให้ผู้ใช้สามารถกำหนดรายละเอียดการทำงานของมันได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น Work-Focus คุณสามารถปิดแจ้งเตือนจากทุกคน ยกเว้นเพื่อนร่วมงานได้ รวมไปถึงปิดแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ หรือแม้แต่การซ่อนหน้าจอโฮม (Home screen) เพื่อตัดสิ่งรบกวนสมาธิออกไปให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้แล้ว โหมด Focus ยังทำงานร่วมกับ iMessage ด้วย สามารถส่งข้อความบอกเพื่อน หรือครอบครัวให้รับรู้ว่า คุณกำลังทำงานอยู่ อย่าเพิ่งรบกวน ซึ่งทั้งหมดนี้จะ Sync การทำงานร่วมกับอุปกรณ์ทุกตัวของ Apple ด้วยนะ สะดวกมาก ไม่ต้องมาไล่เปิดโหมด Focus ในทุกอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก
Notification Summary เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน iOS 15 แนวคิดในการทำงานของมัน คือ รวบรวมข้อความแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญ หรือแจ้งเตือนที่ถูกส่งมาในช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วนมากนักมาสรุปแจ้งเตือนทีเดียวในช่วงเวลาที่ถูกกำหนดเอาไว้ มีประโยชน์ในการลดจำนวนแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นให้ลดลง
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติ Notification Summary จะถูกปิดการทำงานเอาไว้ หากต้องการใช้งานจำเป็นต้องเปิดใช้งานด้วยตนเองก่อนนะ
Live Text เป็นลูกเล่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในกล้องของ iPhone โดยเมื่อเราส่องกล้องไปที่ใดก็ตามที่มีตัวอักษร ระบบจะทำการสแกนตัวอักษรในภาพให้เราอัตโนมัติ โดยเราสามารถที่จัดคัดลอก (Copy) เอาไปใส่ใน โน้ต (Notes) เพื่อเซฟบันทึกออกไปเป็นข้อความ หรือจะส่งให้เพื่อนใน แอป LINE ก็ได้ หรือจะใช้คำสั่ง Look Up เพื่อดูคำแปลก็สะดวก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Live Text รองรับแค่ภาษาอังกฤษ, จีน, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมนี, โปรตุเกส และสเปน เท่านั้นนะครับ ยังไม่รองรับภาษาไทย และการจะใช้คุณสมบัตินี้ได้ จำเป็นต้องใช้ iPhone XS, iPhone XR หรือรุ่นที่ใหม่กว่าเท่านั้นนะครับ
ในที่สุด iOS 15 ก็อนุญาตให้เราสามารถตรวจสอบ ค่า EXIF (Exchangeable image file format จะบอกรายละเอียดของไฟล์ภาพ, กล้องที่ถ่าย, เลนส์ที่ใช้ ฯลฯ) ของภาพผ่านแอป Photos ได้สักที ทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้ แอปพลิเคชันบุคคลที่สาม (3rd-Party Application) อีกต่อไป
ก่อนหน้านี้ใน macOS Big Sur ทาง Apple ได้เพิ่มความสามารถในการตั้งภาพพื้นหลัง (Wallpaper) ให้กับ Safari ไปแล้ว ซึ่งใน iOS 15 ตอนนี้ก็สามารถทำได้แล้วเช่นกัน ใครที่เบื่อพื้นหลังสีขาว/สีดำ ก็ลองเปลี่ยนพื้นหลังกันดูได้
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser Extensions) นั้นมีหลายตัว ที่น่าใช้งานมาก ๆ อย่าง เว็บเบราว์เซอร์ Chrome จาก Google ส่วนหนึ่งที่ทำให้มันประสบความสำเร็จได้อย่างในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่มันมีส่วนขยายให้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งใน iOS 15 ตัว เว็บเบราว์เซอร์ Safari ก็รองรับการทำงานของส่วนขยายแล้วเช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีแค่ Ad-Blockers เท่านั้น
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในขณะนี้ส่วนขยายที่มีให้ดาวน์โหลดมาใช้งานยังมีน้อยอยู่นะ ก็ต้องรอทางผู้พัฒนาเขาพัฒนากันสักพักใหญ่ ๆ แหละ
ใน iOS 15 คุณสามารถ "จิ้มหน้าจอค้าง" เพื่อเลือกรูปภาพ, วิดีโอ, ข้อความ หรือไฟล์ จากแอปพลิเคชันหนึ่ง แล้วลากไปใส่ในอีกแอปพลิเคชันหนึ่งได้ทันทีเลยนะครับ อธิบายอาจจะไม่ค่อยเห็นภาพ ลองดูตัวอย่างการใช้งาน โดยเราจะlสาธิตการลากตัวอักษร และรูปภาพจาก แอป Safari ไปยังแอป Notes ให้ดูเป็นตัวอย่าง และลากจากแอป Photos ไปยัง แอป LINE ได้อีกด้วยเช่นกัน
|
|
โหมด Portrait หรือ โหมดที่คนไทยบางคนนิยมเรียกว่า "โหมดหน้าชัดหลังเบลอ" เป็นโหมดที่มีอยู่ในกล้องของ iPhone ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน iPhone X โดยความเจ๋งของโหมดนี้คือ ทำให้ภาพดูเหมือนถ่ายด้วยเลนส์ระดับสูง มีโบเก้ (ปลอม) ที่สวยงาม ซึ่งใน iOS 15 โหมด Portrait ก็ได้การปรับปรุงคุณสมบัติการทำงานให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับในเรื่องความฉลาดในการเบลอ หรือสีสัน ความคมชัดของกล้องเราคงไม่ต้องพูดถึง เพราะสิ่งเหล่านั้นมันเป็นของตายที่ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน iOS 15 คือ ในที่สุดทาง Apple ก็อนุญาตให้ใช้ โหมด Portrait ในแอปพลิเคชันบุคคลที่สาม (3rd-Party) ที่ไม่ได้พัฒนาโดย Apple ได้แล้วอีกด้วยเช่นกัน
บางเวลา แอปพลิเคชันที่เรายินยอมให้ส่งแจ้งเตือนเข้าศูนย์แจ้งเตือน (Notification Center) ได้ มันก็เกิดคึก ส่งแจ้งเตือนมาถี่ผิดปกติจนเราอาจเกิดความรำคาญได้ แล้วอยากปิดแจ้งเตือนของแอปดังกล่าวเพียงแค่ชั่วคราว หากต้องการ ใน iOS 15 สามารถทำแบบนั้นได้นะ
มีใครรู้สึกว่าการฟังเสียงคลื่นทะเล, เสียงฝนตก หรือฟังเพลงคลอไปกับเสียงธรรมชาติเหล่านี้ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้นบ้างหรือเปล่า หากใช่ เราอยากบอกว่าใน iOS 15 มีลูกเล่นในการเล่นเสียงธรรมชาติเหล่านั้นซ่อนอยู่ด้วยนะ แถมสามารถตั้งให้เล่นไปพร้อมกับการฟังเพลงผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไปพร้อมกันได้ด้วย
หลายคนนิยมใช้ Voice Memos ในการบันทึกเสียงระหว่างประชุม หรือการเลคเชอร์ ของ ครู/อาจารย์ ใน iOS 15 ได้ปรับปรุงระบบการเล่นเสียงที่ถูกบันทึกไว้ ให้สามารถฟังได้สะดวกขึ้น และช่วยลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการฟังได้อีกด้วย
อันที่จริง นี่ก็ไม่เชิงคุณสมบัติใหม่สักเท่าไหร่ เพราะ Apple ได้ใส่ Shazam เข้ามาใน iOS นานแล้วล่ะ แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นการเรียกใช้งานผ่าน Siri ด้วยการพูดกับ Siri ว่า "เฮ้ Siri นี่คือเพลงอะไร ?" อะไรประมาณนี้ แต่มันก็มีปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราอยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวนค่อนข้างดัง อาจจะทำให้การคุยกับ Siri ไม่สะดวกสักเท่าไหร่ แต่ใน iOS 15 เราสามารถใช้งาน Shazam ผ่าน Control Center ได้แล้วนะ
สำหรับคนที่ไม่รู้ว่ามันเอาไว้ทำอะไร คือ มันจะ "ฟังเพลง" แล้วบอกชื่อเพลง กับศิลปินให้กับเรา เป็นลูกเล่นที่ผู้เขียนใช้บ่อยมาก เวลาไปร้านกาแฟ, คาเฟ่ หรือคลับที่เปิดเพลง แล้วอยากรู้ว่าที่ฟังอยู่ คือ เพลงอะไร ?
การดึงหน้าจอลงมาด้านล่าง เป็นท่า Gesture ที่ในหลายแอปพลิเคชันใช้ในการสั่ง "รีเฟรช" และในที่สุด Safari บน iOS 15 ก็รองรับคำสั่ง Gesture นี้สักที วิธีใช้งานก็ไม่มีอะไรมาก แค่จิ้มจอแล้วลากลงมาแค่นั้นแหละ คุณจะเห็นสัญลักษณ์รีเฟรชหมุนอยู่ที่ด้านบนเป็นการบ่งบอกว่ากำลังรีเฟรชข้อมูลอยู่
หากใครมีเคล็ดลับอื่นๆ แนะนำก็ลองทิ้งความเห็นไว้ได้นะครับ เพื่อน ๆ คนอื่นจะได้มาลอกการบ้านไปใช้งานตามดูบ้าง
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |