แชร์หน้าเว็บนี้ :
วิธีป้องกันตัวเองในโลกออนไลน์ อาชญากรรมทางไซเบอร์ในระดับบุคคล องค์กร รัฐบาล (How to protect yourself from Cybercrime ?)
ในช่วงที่การทำงาน, การเรียน หรือการทำธุรกรรมและอะไรหลาย ๆ อย่างนั้นต้องพึ่งพิงแพลตฟอร์มออนไลน์ไปเสียหมดแบบนี้ก็อาจทำให้หลาย ๆ คนเกิดความรู้สึกระแวงและกังวลว่าข้อมูลความลับสำคัญต่าง ๆ ของตนเองจะรั่วไหลออกไป หรืออาจโดน แฮกเกอร์ (Hacker) และผู้ไม่หวังดีมาหลอกเอาเงินหรือข้อมูลสำคัญของเราไปขายให้กับบุคคลอื่น และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือการแพร่กระจาย มัลแวร์ (Malware) อย่าง ไวรัส (Virus) หรือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) ต่าง ๆ สู่คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ ของเราจนเกิดความเสียหายขึ้นมาได้
บทความเกี่ยวกับ Ransomware อื่นๆ
และจากผลสำรวจของ Google ก็พบว่าในช่วงปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่ผ่านมานี้นั้นมีการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ ฟิชชิง (Phishing) สูงขึ้นถึง 350% เลยทีเดียว มันจึงยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิด อาชญากรรมทางไซเบอร์ ขึ้นสูงตามไปด้วย ทำให้ผู้ที่ไม่คุ้นชินกับระบบออนไลน์อาจตกเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดีเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
ภาพจาก : https://atlasvpn.com/blog/google-registers-a-350-increase-in-phishing-websites-amid-quarantine
ดังนั้นหากเราทราบวิธีการในการป้องกันการโจมตีออนไลน์หรืออาชญากรรมเหล่านี้ในระดับหนึ่งก็น่าจะช่วยให้รู้สึกสบายใจมากขึ้นและสามารถเล่นโซเชียลหรือทำงานได้อย่างไร้กังวล แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวเราเท่านั้นที่ต้องระมัดระวังตนเอง เพราะองค์กรที่เราทำงานด้วยและหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ เองก็ควรที่จะมีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยของเราจากภัยคุกคามทางออนไลน์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน
การป้องกันระดับบุคคล (Protect Personal from Cybercrime)
แน่นอนว่าอันดับแรกสิ่งที่ต้องทำก็คือการเริ่มต้นที่ตนเองอย่างที่หลาย ๆ คนได้บอกเอาไว้ ซึ่งการป้องกันการโจมตีจาก Hacker ต่าง ๆ ของตัวเราเองนั้นก็ได้แก่
- อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพราะซอฟต์แวร์ที่เราใช้งานนั้นเมื่อมีการแจ้งเตือนให้ทำการอัปเดตก็มักเป็นการแก้บัค (Bug) และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากขึ้น ทำให้นอกจากจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้แล้วยังเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้นอีกด้วย
- ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีประสิทธิภาพ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสกันอยู่แล้ว ทั้งโปรแกรมที่ติดมากับเครื่องและโปรแกรมที่ซื้อเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานไปอีกขั้นหนึ่ง แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะซื้อโปรแกรมที่ถูกลิขสิทธิ์ที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ด้วยเช่นกัน
- พิจารณาให้รอบคอบก่อนคลิกไปที่ลิงก์น่าสงสัย เช่น เว็บไซต์ที่บอกว่าจะแจกรางวัล, แบนเนอร์โฆษณาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ลิงก์ไปยังเว็บอื่นและดาวน์โหลดไวรัสลงเครื่องโดยไม่รู้ตัว รวมไปถึงเว็บไซต์ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีที่มี "ปุ่มดาวน์โหลด" หลายอันจนไม่รู้ว่าควรกดปุ่มใดกันแน่ (ทางที่ดีเลือกดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ออฟฟิเชียลน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด)
ดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ : https://download.thaiware.com/
- ใช้รหัสผ่านที่มีความซับซ้อน และใช้การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน 2FA (2 Factors Authentication) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
การป้องกันระดับองค์กร (Protect Corporate from Cybercrime)
นอกเหนือไปจากตัวเราเองควรระมัดระวังเวลาใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้ว องค์กรหรือบริษัทที่เราทำงานด้วยก็ควรให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบริษัทและข้อมูลส่วนตัวของพนักงานเช่นกัน โดยทางบริษัทต่าง ๆ อาจใช้วิธีเหล่านี้ในการเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน เช่น
- ใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์และอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัว คอมพิวเตอร์ของบริษัทเองก็ควรใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์เพื่อความปลอดภัยด้วยเช่นกัน
- เลือกใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ถูกลิขสิทธิ์ น่าเชื่อถือ และหมั่นอัปเดตโปรแกรมและสแกนไวรัสภายในเครื่องเป็นประจำ โดยสำหรับองค์กรที่มีจำนวนพนักงานเยอะ ๆ แล้วก็อาจเลือกใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีแพ็กเกจการซื้อ License เฉพาะสำหรับการใช้งานร่วมกันภายในองค์กรเพื่อประหยัดงบประมาณก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจเช่นกัน
สำหรับองค์กร หรือบริษัทใดที่สนใจก็สามารถเลือกซื้อโปรแกรมแอนตี้ไวรัสสำหรับการใช้งานในองค์กร (และโปรแกรมถูกลิขสิทธิ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานขององค์กร) ผ่าน Thaiware Shop ได้เลย
- คอยอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับการโจมตีเจาะข้อมูลทางไซเบอร์อยู่เสมอ โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรของเราและกำชับพนักงานให้ช่วยเป็นหูเป็นตาในการรายงานสิ่งที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นไวรัสหรือมัลแวร์แฝง เช่น อีเมลแปลก ๆ จากองค์กรอื่นหรือจากประเทศอื่นที่ไม่เคยมีการติดต่อสื่อสารด้วย เป็นต้น
- กำชับพนักงานว่าไม่ควรเข้าใช้งานเว็บไซต์แปลก ๆ ที่น่าสงสัย หรืออาจบล็อกการใช้งานบางเว็บไซต์ที่อาจลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ได้
การป้องกันระดับรัฐบาล (Protect Government from Cybercrime)
ไม่ใช่แค่ประชาชนคนทั่วไปและองค์กรบริษัทต่าง ๆ เท่านั้นที่สามารถป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ แต่ภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเองยังสามารถให้ความช่วยเหลือในการป้องกันการเกิดภัยคุกคามทางออนไลน์ที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนและประเทศชาติได้ด้วย
- สร้างความตระหนักรู้ให้กับบุคคลภายในประเทศเกี่ยวกับความสำคัญของความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ต อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ คอยติดตามและแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับภัยคุกคามทางออนไลน์ให้ประชาชนเกิดความตื่นรู้และหาวิธีทางในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามอคัญที่สุดคือการตอนไลน์อยู่เสมอ
- ไม่เพิกเฉยกับการแจ้งความเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางออนไลน์และมีขั้นตอนการดำเนินคดีที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้
- ร่วมมือกับรัฐบาลของประเทศอื่นในการสร้างเครือข่ายที่ปลอดภัยต่อการใช้งานของประชาชนภายในประเทศต่าง ๆ ร่วมมือกันร่างกลยุทธ์ในการสร้างความปลอดภัยการใช้เครือข่ายไซเบอร์นานาชาติ (National Cyber Security Strategy) ขึ้นมา
ที่มา : us.norton.com , www.cybsafe.com , www.weforum.org , home.kpmg , www.kaspersky.com , www.thesslstore.com