AutoPlay (เล่นอัตโนมัติ หรือ เปิดอัตโนมัติ) เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 มีความสามารถในการช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ ในเวลาที่นำอุปกรณ์ประเภทหน่วยความจำภายนอกมาเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ มันจะแสดง "ตัวเลือก" ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่ต้องการจะทำกับอุปกรณ์ดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว อย่างเช่น แสดงข้อมูลภายในไดร์ฟผ่าน File Explorer, ตั้งค่าการทำงานของไดร์ฟ, นำเข้าไฟล์รูปภาพ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ต้องการให้ระบบทำอะไรเลย เวลาที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ประเภทหน่วยความจำภายนอก แบบเสียบแล้วจบ ไม่ต้องมาแสนรู้เสนอทางเลือกบอกให้ทำนู่นทำนี่ ก็สามารถตั้งค่าภายในระบบปฏิบัติการ Windows ได้นะ โดยวิธีในบทความนี้สามารถใช้ได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows 11 และระบบปฏิบัติการ Windows 10
มาเริ่มกันที่วิธีง่าย ๆ กันก่อน นั่นคือ ตั้งค่าผ่านแอป Settings ซึ่งเราสามารถกำหนดค่าการทำงานได้หลายแบบ
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเน้นความปลอดภัย ควรจะตั้งค่าไว้เป็น "Ask me every time" เพื่อให้มันแจ้งเตือนหากพบว่ามีโปรแกรม หรือสคริปต์อันตราย แอบแฝงอยู่
หากต้องการตั้งค่าคุณสมบัติการทำงานของ AutoPlay อย่างละเอียด แนะนำว่าควรจะตั้งค่าผ่านแผงควบคุม (Control Panel) เพราะจะมีให้ปรับได้ค่อนข้างละเอียด ไม่ได้จำกัดแค่ อุปกรณ์ที่สามารถถอดออกได้ (Removable Device) และ การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) แต่จะรวมไปถึงแผ่น DVD, Blu-ray และแผ่น CD ด้วย
หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบ และต้องการที่จะปิดคุณสมบัติ AutoPlay ให้กับคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก การจะไปไล่ทำวิธีข้างต้นทีละเครื่อง เป็นเรื่องที่เสียเวลามาก การปรับผ่าน ตัวแก้ไขนโยบายกลุ่ม (Group Policy Editor ) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่สะดวกกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือ Group Policy Editor มีให้ใช้งานแค่ในระบบปฏิบัติการ Windows 11/10 เวอร์ชัน Pro หรือสูงกว่าเท่านั้น หากใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชัน Home อยู่ จะไม่สามารถทำตามวิธีนี้ได้นะ
หาก Group Policy Editor ถูกเปิดใช้งานเอาไว้แล้ว ก็ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
เป็นอย่างไรกันบ้าง การปิด AutoPlay ในระบบปฏิบัติการ Windows ไม่ยากอย่างที่คิดใช้ไหมล่ะ ลองไปทำกันดูนะคะ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |