ทุกวันนี้เชื่อว่าโทรศัพท์มือถือคู่ใจ (โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน) น่าจะเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่หลาย ๆ คนนิยมพกติดตัวไว้แทบจะตลอดเวลาจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะร่างกายกันไปแล้ว แต่บางคนก็ยังเจอกับปัญหา มือถือหาย ไม่ว่าจะเป็นเผลอทำหล่นระหว่างเดินทาง, เพื่อนแกล้งหยิบไปซ่อน, โดนขโมยไปโดยไม่รู้ตัว หรือลืมวางทิ้งไว้ที่ไหนสักที่
และแน่นอนว่าเมื่อของสำคัญอย่างโทรศัพท์หายไปก็ทำให้เจ้าของร้อนใจอยากจะตามหามือถือเครื่องโปรดกลับคืนมา เพราะไม่เพียงแต่มันจะเป็นสิ่งของที่มีราคาเท่านั้น แต่มันยังเต็มไปด้วยความทรงจำ (และความลับ) มากมายอีกต่างหาก ดังนั้นเราจึงจะมาแนะนำวิธีการตามรอยหามือถือที่หายไปกัน
ภาพจาก : https://tommcfarlin.com/wp-content/uploads/2015/04/find-you.jpg
สำหรับใครที่ใช้งาน มือถือ iPhone อยู่ก็น่าจะต้องนึกถึง แอปพลิเคชันตัวช่วยประจำเครื่อง อย่าง "Find My iPhone" กันแน่นอน เพราะมันเป็นแอปฯ ที่เอาไว้ช่วยค้นหาอุปกรณ์ของ Apple ที่หายไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ (แต่ต้องเปิดใช้งานก่อนนะถึงจะกดค้นหาได้)
ภาพจาก : https://www.igeeksblog.com/use-find-my-app-iphone-ipad/
หรือถ้าใครไม่สะดวกใจจะยืมโทรศัพท์เพื่อนมาล็อกอิน Apple ID ของตัวเองก็สามารถขอให้เพื่อนค้นหา iPhone ของเราได้ด้วย "ฟีเจอร์ Help a Friend" ได้
ภาพจาก : https://images.macrumors.com/article-new/2019/09/how-to-let-a-friend-sign-in-to-find-my-app-ios.jpg
หรือถ้าใครที่ไม่มีคนใกล้ตัวที่ใช้งาน มือถือ iPhone ก็ยังสามารถตามหา มือถือ iPhone ที่หายไปของเราได้ในเว็บไซต์ iCloud เช่นกัน (คล้ายการใช้ "ฟีเจอร์ Help a Friend")
ภาพจาก : https://support.apple.com/lv-lv/guide/icloud/mm6b1aa045/icloud
เมื่อกดดูตำแหน่งของ มือถือ iPhone ที่หายไปแล้วจะเห็นได้ว่ามีเมนูตัวช่วยในการค้นหาทั้งการเล่นเสียง (Play Sound) ที่เมื่อกดแล้ว มือถือ iPhone (เครื่องที่หาย) ก็จะส่งเสียงออกมาให้เราสามารถเดินตามหาได้ง่าย ๆ
ภาพจาก : https://www.igeeksblog.com/use-find-my-app-iphone-ipad/
หรือหากกดดูตำแหน่งแล้วพบว่า มือถือ iPhone ของเราอยู่ไกลเกินไปก็สามารถเปิดใช้งาน "Lost Mode" เพื่อระบุข้อมูลติดต่อกลับในกรณีที่มีคนเจอ มือถือ iPhone ของเรา (เผื่อว่าจะมีคนใจดีตามหาเจ้าของเดิมจะได้เอามาคืนถูก) โดยกรอกเบอร์โทรและข้อความที่ต้องการให้ติดต่อกลับแล้วกดบันทึกได้เลย
ภาพจาก : https://www.imobie.com/icloud-unlock/does-find-my-iphone-work-if-phone-is-off.htm
แต่ถ้าพบว่า มือถือ iPhone ของเราไปอยู่ในที่แปลก ๆ หรือหายนานแล้วหาไม่เจอซักที และกลัวข้อมูลภายในเครื่องจะรั่วไหลก็สามารถกด "คำสั่ง Erase This Device" เพื่อล้างข้อมูลในเครื่องได้ (แต่ถ้าหลังจากกดล้างข้อมูลแล้ว จะไม่สามารถตาม มือถือ iPhone เครื่องเดิมเจอได้อีก เราจึงไม่อยากที่จะแนะนำเท่าไรนัก)
ภาพจาก : https://www.igeeksblog.com/use-find-my-app-iphone-ipad/
ถ้ามือถือ iPhone มี "Find my iPhone" แล้วละก็ มือถือ Android เกือบทุกรุ่นที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.0 (Ice-Cream Sandwich) ขึ้นไปก็มาพร้อมกับตัวช่วยในการค้นหาอุปกรณ์ Android อย่าง "Find My Device" เช่นกัน แถมยังสามารถค้นหามือถือที่หายไปได้ง่าย ๆ ผ่าน Google อีกต่างหาก
หรือจะลองสั่งให้ Google Assistant ค้นหาโทรศัพท์ของเราโดยพูดว่า "OK, Google. Find my phone" ดูก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ เรายังสามารถกด "ปุ่ม Play Sound" เพื่อให้โทรศัพท์ส่งเสียงร้องออกมา เพื่อให้ตามหาง่ายขึ้นได้อีกด้วย หรือจะทิ้งข้อความและเบอร์ติดต่อกลับให้ผู้พบเห็นโทรศัพท์ของเราเอากลับมาคืนก็ได้เช่นกัน (แนะนำให้กด "ปุ่ม Play Sound" หลังทิ้งข้อความติดต่อกลับเพื่อเพิ่มโอกาสการพบเห็นโทรศัพท์ของเราให้มากขึ้น)
ภาพจาก : https://www.androidcentral.com/how-track-android-phone
แต่ระบบของ Find My Device จะแสดงแผนที่ตำแหน่งล่าสุดที่จับสัญญาณโทรศัพท์ของเราได้และปักหมุดสีเขียวเอาไว้ (ตำแหน่งอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ตามความเข้ม - อ่อนของสัญญาณ) อีกทั้งระบบของ Find My Device จะสามารถใช้งานได้เฉพาะการส่งตำแหน่งล่าสุดที่มีการเคลื่อนไหว (Active) เครื่องเท่านั้น หากโทรศัพท์ของเราแบตหมดหรือถูกกดปิดเครื่องไปแล้วจะไม่สามารถตามหาตำแหน่งได้
ดังนั้นหากโทรศัพท์ของเราหายไปเป็นเวลานาน หรือมีแบตน้อยอยู่ก่อนแล้วและกลัวว่าจะมีคนขโมยไป ก็สามารถกด "ปุ่ม Erase Device" เพื่อล้างข้อมูลทั้งหมดในเครื่องได้เช่นกัน (ไม่สามารถกู้ข้อมูลใด ๆ คืนมาได้หลังกดล้างข้อมูลคล้ายการกด "ปุ่ม Delete Data" ของมือถือ iPhone)
สำหรับใครที่ใช้งาน มือถือแบรนด์ Huawei ที่ตอนนี้ยังไม่รองรับการทำงานร่วมกับ Google และยังไม่สามารถใช้งาน Google เพื่อค้นหาโทรศัพท์ของเราได้อยู่ ก็ยังสามารถตามหามือถือได้ผ่าน Huawei Mobile Cloud ได้อีกด้วยเช่นกัน
ภาพจาก : https://consumer.huawei.com/en/support/article/en-us15770794
ภาพจาก : https://consumer.huawei.com/en/support/article/en-us15770794
ถ้าพบว่ามือถือถูกขโมยไป และมันได้ถูกกดล้างค่าโรงงาน (Factory Reset) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังแค้นโจรมือดีอยู่ก็สามารถแจ้งความ และติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อยืนยันสิทธิการเป็นเจ้าของเครื่อง และขอบล็อก IMEI เพื่อไม่ให้โทรศัพท์ของเราถูกนำเอาไปขายหรือใช้งานต่อได้ (ต้องทราบเลข IMEI ก่อนจึงจะดำเนินการบล็อกได้)
โดยเราสามารถตรวจสอบหมายเลข IMEI มือถือของเราได้ด้วยตนเองได้ทั้งการกด *#06# แล้วกดปุ่มโทรออก หรือเข้าไปที่ "เมนู Settings" แล้วเลื่อนหาหมายเลข IMEI ใน "เมนู About Phone" (แนะนำให้จดไว้ในที่ปลอดภัยหรืออัปโหลดลง Cloud เพื่อป้องกันการสูญหาย)
ภาพจาก : https://www.androidcentral.com/how-find-imei-number-your-phone
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |
ความคิดเห็นที่ 1
27 กันยายน 2566 20:30:59
|
||
GUEST |
0654603849
0654603849
|
|