ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

หากติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชัน บน Windows ไม่ได้ ทำอย่างไร ? มาดู 9 วิธีแก้ไขกัน

หากติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชัน บน Windows ไม่ได้ ทำอย่างไร ? มาดู 9 วิธีแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-vector/tiny-programmers-upgrading-operation-system-computer-isolated-flat-illustration_11235955.htm
เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 39,170
เขียนโดย :
0 %E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1+%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99+%E0%B8%9A%E0%B8%99+Windows+%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B9+9+%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีแก้ปัญหาเมื่อไม่สามารถติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชัน
ลงบนระบบปฏิบัติการ Windows ได้

ทาง Microsoft ได้ออกแบบระบบปฏิบัติการ Windows มาให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่ต้องการเพิ่มเติมลงในระบบได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งผู้ใช้อาจประสบปัญหาในการติดตั้งได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวติดตั้ง (Installer) ไม่ยอมทำงาน, ติดแจ้งเตือนข้อผิดพลาด (Error), ไม่สามารถติดตั้งจนจบขั้นตอนได้อย่างสมบูรณ์ ฯลฯ

บทความเกี่ยวกับ Microsoft อื่นๆ

ในบทความนี้ เราก็มีวิธีแก้ปัญหาการที่ไม่สามารถติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันลงบน ระบบปฏิบัติการ Windows ได้มาฝาก ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธีให้ลองนำไปปฏิบัติตาม

เนื้อหาภายในบทความ

  1. รีบูตคอมพิวเตอร์ของคุณ
    (Reboot your computer)
  2. ตรวจสอบการตั้งค่าใน "เมนู Choose where to get apps"
    (Check choose where to get apps settings)
  3. ตรวจสอบพื้นที่ว่างของระบบ
    (Check the system free space)
  4. รันตัวติดตั้งด้วย "คำสั่ง Run as Administrator"
    (Run installer by using run as administrator command)
  5. ตรวจสอบการรองรับ Windows แบบ 64 บิต
    (Check Windows 64 bits compatibility)
  6. ใช้เครื่องมือ Troubleshooter ของ Windows
    (Use Windows Troubleshooting Tools)
  7. ลบโปรแกรมเวอร์ชันเก่าออกก่อน
    (Delete an earlier version first)
  8. ปิดการทำงานของ โปรแกรมป้องกันไวรัส ชั่วคราว
    (Disable antivirus software temporarily)
  9. ตรวจสอบการรองรับ กับเวอร์ชันของ Windows ที่ใช้งานอยู่
    (Check active Windows compatibility)

1. รีบูตคอมพิวเตอร์ของคุณ
(Reboot your computer)

ไม่ว่าคุณจะประสบปัญหาอะไรก็ตามในขณะที่ใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ บ่อยครั้ง ที่ปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดจากข้อผิดพลาดแบบชั่วคราว (Temporary glitch) ภายในระบบ ซึ่งการติดตั้งแอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมไม่ได้ ก็มีโอกาสเกิดจากสาเหตุนี้ได้ด้วยเช่นกัน วิธีแก้ไขปัญหานี้ง่ายมาก เพียงแค่เรารีบูตระบบคอมพิวเตอร์ใหม่เท่านั้นเอง

รีบูตคอมพิวเตอร์ของคุณ (Reboot your computer)

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่ารีบูตแล้วยังไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมได้อยู่เหมือนเดิม ก็ลองวิธีการแก้ปัญหาขั้นถัดไปต่อ

2. ตรวจสอบการตั้งค่าใน "เมนู Choose where to get apps"
(Check choose where to get apps settings)

ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 และ Windows 10 นอกจากโปรแกรมที่เป็น Desktop แบบดั้งเดิมแล้ว ทาง Microsoft ได้เพิ่มอีกทางเลือกใหม่เข้ามา คือการติดตั้งในรูปแบบของแอปพลิเคชัน โดยดาวน์โหลดได้จาก Microsoft Store 

ซึ่งในจุดนี้จะมีการตั้งค่าที่กำหนดให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มได้จาก Microsoft Store เพียงเท่านั้น ดังนั้น ผู้ใช้ควรเข้าไปตรวจสอบการตั้งค่าในเมนูดังกล่าว ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows+i" เพื่อเปิดแอปพลิเคชัน Settings ขึ้นมา
  2. ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู Apps"
  3. ในพาเนลด้านขวา คลิกที่ "เมนู Apps & Features"
  4. ตรงหัวข้อ "Choose where to get apps" จะมีเมนูดรอปดาวน์ (Dropdown) อยู่ หากว่ามันถูกเลือกไว้เป็น "The Microsoft Store only (recommended)" เราจะไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมที่เป็น Desktop แบบดั้งเดิมได้
  5. ให้เราคลิกที่เมนูดรอปดาวน์ แล้วเลือกเป็น "Anywhere"

ตรวจสอบการตั้งค่าใน "เมนู Choose where to get apps" (Check choose where to get apps settings)

3. ตรวจสอบพื้นที่ว่างของระบบ
(Check the system free space)

หากพื้นที่ว่างบนฮาร์ดไดรฟ์เหลือน้อยเกินไป ก็จะส่งผลให้ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมเพิ่มได้เช่นกัน แม้คุณอาจจะคิดว่าโปรแกรมที่ต้องการจะติดตั้งมันมีขนาดเล็กกว่าพื้นที่ที่เหลืออยู่ มันก็ควรจะติดตั้งได้นี่ แต่ในความเป็นจริง หลาย ๆ โปรแกรมมักจะมีการสำรองพื้นที่บนฮาร์ดไดรฟ์เผื่อไว้ในขณะทำงานด้วย แม้แต่ระบบปฏิบัติการ Windows เองก็มีการใช้เทคนิคนี้ในขณะที่ทำงานด้วยเช่นกัน

ตรวจสอบพื้นที่ว่างของระบบ (Check the system free space)

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้จะไม่ค่อยเกิดขึ้นโปรแกรมขนาดเล็กสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับโปรแกรมขนาดใหญ่ อย่างเช่น Microsoft Office และโปรแกรมในตระกูล Adobe

ทางแก้ปัญหา ก็ให้เราทำการลบไฟล์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช้แล้วบนฮาร์ดไดรฟ์ออก เพื่อกู้คืนพื้นที่กลับคืนมา

อ่านวิธีต่าง ๆ ในการเอาพื้นที่บนฮาร์ดไดรฟ์กลับคืนมา

4. รันตัวติดตั้งด้วย "คำสั่ง Run as Administrator"
(Run installer by using run as administrator command)

ในระบบปฏิบัติการ Windows จะมีระบบควบคุมสิทธิ์ของผู้ใช้งานอยู่ เรียกว่าคุณสมบัติ User Account Control  (UAC) ซึ่งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันบางตัว จำเป็นจะต้องใช้สิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ (Admin privileges) จึงจะสามารถติดตั้งได้ นั่นเป็นสาเหตุให้ บางครั้งที่คุณติดตั้งโปรแกรม จะพบกับหน้าต่างแจ้งเตือน UAC prompt เพื่อยืนยันการสิทธิ์อนุญาตในการติดตั้งโปรแกรมลงในระบบ

รันตัวติดตั้งด้วย "คำสั่ง Run as Administrator" (Run installer by using run as administrator command)
หน้าต่าง UAC prompt
ภาพจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/User_Account_Control

เวลาที่เราติดตั้งโปรแกรม ตามปกติแล้ว หากเลือกให้โปรแกรมดังกล่าวใช้งานได้เฉพาะกับบัญชีที่เข้าระบบอยู่ ก็จะไม่ต้องขออนุญาตการติดตั้งจากผู้ดูแลระบบ (Administrator Permission) อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้ทุกบัญชีสามารถใช้งานโปรแกรมดังกล่าวได้ ก็ต้องได้รับการอนุญาตจากบัญชีผู้ดูแลระบบเสียก่อน

ปัญหาที่เกิดขึ้น คือบางครั้งหน้าต่าง UAC Prompt อาจจะทำงานผิดพลาด ไม่ปรากฏขึ้นมาให้ทางผู้ใช้ยืนยัน ทำให้เมื่อเริ่มติดตั้งโปรแกรม ตัวติดตั้งไม่สามารถเขียนไฟล์ลงในโฟลเดอร์ที่ต้องการได้ หรือปฏิเสธที่จะดำเนินการติดตั้งต่อ ทางออก คือให้ผู้ใช้เลือกติดตั้งโปรแกรมโดยใช้ "เมนู Run as administrator" กับตัวติดตั้ง (Installer) ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

คลิกขวาที่ไฟล์ตัวติดตั้ง (Installer) แล้วเลือก "เมนู Run as administrator"

รันตัวติดตั้งด้วย "คำสั่ง Run as Administrator" (Run installer by using run as administrator command)

5. ตรวจสอบการรองรับ Windows แบบ 64 บิต
(Check Windows 64 bits compatibility)

ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้มักจะพัฒนามาให้สามารถทำงานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows แบบ 32 บิต และ 64 บิต ข้อควรรู้ คือ

  • ซอฟต์แวร์แบบ 64 บิต ทำงานได้บนระบบปฏิบัติการ Windows แบบ 64 บิต เท่านั้น
  • ซอฟต์แวร์แบบ 32 บิต ทำงานได้บนระบบปฏิบัติการ Windows แบบ 32 บิต และแบบ 64 บิต

เชื่อว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ก็น่าจะใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 11 หรือไม่ก็ระบบปฏิบัติการ Windows 10 กัน และส่วนใหญ่ก็น่าจะใช้งานเวอร์ชัน 64 บิต กันอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คือ Windows 11 นั้นมีเพียงเวอร์ชันเดียว คือเวอร์ชัน 64 บิต ส่วน Windows 10 จะมีทั้งเวอร์ชัน 32 บิต และเวอร์ชัน 64 บิต

ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่อาจจะมีเวอร์ชันเดียว สามารถติดตั้งได้ 2 เวอร์ชัน แต่ซอฟต์แวร์บางตัวจะมีให้เลือกดาวน์โหลดได้ 2 เวอร์ชันแยกออกจากกัน ยกตัวอย่างเช่น โปรแกรม 7-Zip หากคุณเลือกดาวน์โหลดเวอร์ชัน 64 บิต มาติดตั้งบน Windows เวอร์ชัน 32 บิต มันก็จะไม่สามารถติดตั้ง หรือทำงานได้

ดาวน์โหลดโปรแกรม 7-Zip
ภาพจาก : https://www.7-zip.org/download.html

ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำ คือเลือกดาวน์โหลดตัวติดตั้งโปรแกรมให้ตรงกับเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการที่เราใช้ โดยเราสามารถตรวจสอบรายละเอียดเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการได้ใน "เมนู System Type" ที่อยู่ใน "แอป Settings"

ตรวจสอบการรองรับ Windows แบบ 64 บิต (Check Windows 64 bits compatibility)

6. ใช้เครื่องมือ Troubleshooter ของ Windows
(Use Windows Troubleshooting Tools)

บางทีการตั้งค่าบางอย่างของตัวระบบปฏิบัติการ Windows อาจส่งผลให้มีปัญหาในการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงในระบบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่า ๆ ซึ่งเราสามารถใช้ "เครื่องมือ Program Compatibility Troubleshooters" ในการแก้ไขปัญหานี้ได้ 

เรียกใช้ เครื่องมือ Troubleshooting ได้ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + i" เพื่อเปิด "แอป Settings" ขึ้นมา
  2. ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู System"
  3. ในพาเนลด้านขวา คลิกที่ "เมนู Tourbleshoot" ตามด้วย "เมนู Other Troubleshooters"
  4. ตรง "เมนู Program Compatibility Troubleshooter" คลิกที่ "ปุ่ม Run"

หากติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชัน บน Windows ไม่ได้ ทำอย่างไร ? มาดู 9 วิธีแก้ไขกัน

7. ลบโปรแกรมเวอร์ชันเก่าออกก่อน
(Delete an earlier version first)

บางครั้งเมื่อเราต้องการติดตั้งโปรแกรมที่เป็นเวอร์ชันใหม่ เพื่อใช้งานแทนที่โปรแกรมเวอร์ชันเก่าที่ใช้งานอยู่ มันอาจมีปัญหาในขั้นตอนติดตั้งเกิดขึ้น หากเราไม่ได้ลบโปรแกรมเวอร์ชันเดิมที่มีอยู่ออกจากระบบให้เรียบร้อยเสียก่อน

หากปัญหาที่คุณเจอเกิดขึ้นเมื่อพยายามติดตั้งโปรแกรมเพื่ออัปเดตเวอร์ชันของโปรแกรมเดิม การลบโปรแกรมเวอร์ชันเดิมออก แล้วติดตั้งใหม่ทั้งหมดแทนการอัปเดตจะช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้

โดยสามารถถอนการติดตั้งโปรแกรมเดิมออกที่มีอยู่ ได้ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + i" เพื่อเปิด "แอป Settings" ขึ้นมา
  2. ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู Apps"
  3. ในพาเนลด้านขวา คลิกที่ "เมนู Apps & Features" 
  4. ค้นหาโปรแกรมที่ต้องการลบ คลิกที่ "ปุ่ม ⋮" แล้วเลือก "เมนู Uninstall"

ลบโปรแกรมเวอร์ชันเก่าออกก่อน (Delete an earlier version first)

8. ปิดการทำงานของ โปรแกรมป้องกันไวรัส ชั่วคราว
(Disable antivirus software temporarily)

บางโปรแกรมที่การทำงาน หรือตอนติดตั้งมันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับไฟล์ที่สำคัญภายในระบบ หรือมีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับการทำงานของมัลแวร์ ตัว โปรแกรมป้องกันไวรัส (Antivirus Software) ก็จะทำการปิดกั้นไม่ให้เราสามารถติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม หากเรามั่นใจว่า โปรแกรมดังกล่าวมีความปลอดภัยแน่นอน โปรแกรมป้องกันไวรัส แค่เข้าใจผิดไปเองเนื่องจากเหตุผลบางอย่าง ก็ให้ลองปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันไวรัส ไปก่อนเพื่อติดตั้งโปรแกรมให้เรียบร้อย แล้วค่อยตั้งค่าเปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันไวรัส ใหม่อีกครั้ง ภายหลังที่ติดตั้งโปรแกรมเสร็จสิ้น

สำหรับการปิดโปรแกรมป้องกันไวรัส แต่ละค่ายก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป ลองค้นหาข้อมูลขั้นตอนการปิดได้จากเว็บไซต์ของผู้พัฒนาโปรแกรมป้องกันไวรัส ที่คุณใช้งานอยู่ได้เลย

แต่ถ้าคุณใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส ที่มากับระบบปฏิบัติการ Windows จะสามารถปิดได้ตามขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + i" เพื่อเปิด "แอป Settings" ขึ้นมา
  2. ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู Privacy & Security"
  3. ในพาเนลด้านขวา คลิกที่ "เมนู Windows Security" ตามด้วย "เมนู Virus & Threat Protection"
  4. ในหน้าต่าง Windows Security คลิกที่ "เมนู Manage Settings"
  5. ใต้ "หัวข้อ Real-time Protecion" คลิกเปลี่ยนจาก "On" เป็น "Off"
  6. หลังติดตั้งโปรแกรมเสร็จสิ้น ก็กลับมาเปลี่ยนให้เป็น "On" เหมือนเดิม หรือรีสตาร์ตคอมพิวเตอร์ก็ได้เช่นกัน

ปิดการทำงานของ โปรแกรมป้องกันไวรัส ชั่วคราว (Disable antivirus software temporarily)

9. ตรวจสอบการรองรับ กับเวอร์ชันของ Windows ที่ใช้งานอยู่
(Check active Windows compatibility)

แม้ว่าระบบปฏิบัติการ Windows จะออกแบบมาให้รองรับการใช้งานกับโปรแกรมเก่า ๆ ที่หยุดอัปเดตให้รองรับการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชันใหม่ได้ (Backward Compatibility) แต่บางโปรแกรมมันอาจจะไม่สามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชันล่าสุดได้จริง ๆ

อย่างไรก็ตาม มันก็มีตัวช่วยที่ลองทำดูก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาให้คุณได้ นั่นคือ "Compatibility Mode" โดยตั้งค่าได้ดังนี้

  1. คลิกขวาที่ตัว Installer แล้วเลือก "เมนู Properties"
  2. คลิกที่ "แท็บ Compatibility"
  3. คลิก "☑ Run this program in compatibility mode for:"
  4. ในเมนูดรอปดาวน์ เลือกเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชันเก่า ที่ตรงยุคกับความเก่าของโปรแกรมที่คุณต้องการติดตั้ง
  5. คลิก "ปุ่ม OK" แล้วลองติดตั้งโปรแกรมดูอีกครั้ง

ตรวจสอบการรองรับ กับเวอร์ชันของ Windows ที่ใช้งานอยู่ (Check active Windows compatibility)


หวังว่า ปัญหาการไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมลงในระบบปฏิบัติการ Windows ของคุณผู้อ่านจะได้รับการแก้ไขได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งที่เรารวบรวมมานำเสนอในบทความนี้นะ


ที่มา : www.makeuseof.com

0 %E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1+%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99+%E0%B8%9A%E0%B8%99+Windows+%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B9+9+%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น