ในระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 จะมี "เมนู Advanced System Settings" ที่ให้เราสามารถเข้าไปตั้งระบบปฏิบัติการเริ่มต้น (Default Operating System) ที่จะบูตได้ และยังสามารถแสดงระบบปฏิบัติการที่มี รวมไปถึงตัวเลือกในการกู้คืนระบบ (Recovery) ด้วย
การเข้าไปตั้งค่าใน "เมนู Advanced system settings" สามารถช่วยแก้ปัญหาได้เช่นกัน เราสามารถตั้งค่าได้ด้วยขั้นตอนดังนี้
กด "ปุ่ม Windows + i" เพื่อเปิด "แอป Settings" ขึ้นมา
ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู System"
ในพาเนลด้านขวา คลิกที่ "เมนู About"
สังเกตตรง "หัวข้อ Related Links" ให้คลิกที่ "Advanced System Settings"
และ "หน้าต่าง System Properties" จะเปิดขึ้นมา
ใต้ "หัวข้อ Startup and Recovery" คลิกที่ "ปุ่ม Settings"
ใน "หน้าต่าง Startup and Recovery" ตรง "หัวข้อ System Startup" จะมีเมนูดรอปดาวน์ให้เลือกอยู่ ให้คลิกเลือกระบบปฏิบัติการที่คุณต้องการใช้งานเป็นหลัก
ตรง "หัวข้อ Time to Display List of Operating Systems" ให้ตั้งเวลาเป็น 30 วินาที
คลิก "ปุ่ม OK" เพื่อบันทึกการตั้งค่า
3. ปิดคุณสมบัติ Fast Startup ของระบบปฏิบัติการ Windows
Fast Startup เป็นคุณสมบัติหนึ่งในระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถรีสตาร์ตใหม่ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว โดยมันจะทำการบันทึกไฟล์ไว้ให้อยู่ในสถานะ โหมดจำศีล (Hibernate Mode) เพื่อให้การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ครั้งถัดไปทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัตินี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน เมื่อเราเปิดใช้งาน Fast Startup ตัวระบบปฏิบัติการ Windows จะล็อกการทำงานของไดรฟ์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการเอาไว้ ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการ Windows ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีหลายระบบปฏิบัติการติดตั้งเอาไว้อยู่ ทำให้ Windows Boot Manager ไม่ทำงาน
ดังนั้น หากคุณใช้หลายระบบปฏิบัติการ ก็ควรปิดคุณสมบัติ Fast Startup เอาไว้ ด้วยขั้นตอนดังนี้
กด "ปุ่ม Windows + r" เพื่อเปิด "แอป Run" ขึ้นมา
พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า "control" แล้วกด "ปุ่ม OK" เพื่อเปิด Control Panel ขึ้นมา
ใน Control Panel ให้คลิกที่ "เมนู Power Options"
ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู Choose what the power buttons do"
คลิกที่ "เมนู Change settings that are currently unavailable" จะสังเกตเห็นว่าเมนูที่เป็นสีเทา จะสามารถคลิกเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าได้แล้ว
เอาเครื่องหมาย ☑ ออกจาก "เมนู Turn on fast startup (recommended)"
คลิกที่ "ปุ่ม Save changes" เพื่อบันทึกการตั้งค่า
4. ตั้งค่าใน System Configuration Tool
หากทำมาหลายวิธีแล้วยังไม่ได้ผล ลองมาตั้งค่าใน System Configuration Tool ดู ด้วยขั้นตอนดังนี้
กด "ปุ่ม Windows + r" เพื่อเปิด "แอป Run" ขึ้นมา
พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า "msconfig" แลวกด "ปุ่ม OK" เพื่อเปิด System Configuration ขึ้นมา