วิธีแก้ปัญหา "Windows has detected an IP Address conflict" ที่อาจเกิดจาก IP ชนกัน IP ซ้ำกัน

วิธีแก้ปัญหา "Windows Has Detected an IP Address Conflict"

หากพูดถึง หมายเลขที่อยู่ไอพี (IP Address) นั้น มันมีชื่อเต็มว่า "Internet Protocol Address" เป็นชุดตัวเลขที่ใช้ระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ในเวลาที่อุปกรณ์ดังกล่าวเชื่อมต่อไปยังระบบเครือข่าย (Network) หรือจะอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่ามันเปรียบเสมือนเลขที่บ้านก็ว่าได้ อุปกรณ์แต่ละชิ้นก็จะมีค่า IP Address เฉพาะตัว แบบที่ไม่ซ้ำกัน สำหรับคอมพิวเตอร์เองก็จะมีเลข IP Address อยู่เช่นกัน เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต (Internet) นั่นเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม : เช็คหมายเลขที่อยู่ไอพีปัจจุบันของคุณได้ที่นี่ (Check your current IP here !)

อย่างไรก็ตาม บางครั้งมันอาจเกิดปัญหาที่อุปกรณ์สองตัว (หรือมากกว่านั้น) มีค่า IP Address ซ้ำกัน ทำให้เครือข่ายไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองตัวได้ เมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้จึงพบกับข้อความแจ้งเตือนข้อผิดพลาด "Windows has detected an IP Address conflict"

ในบทความนี้ เราก็จะมาแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหานี้ เผื่อใครที่เผชิญกับปัญหานี้อยู่จะได้นำไปแก้ไขได้ ...

1. รีเฟรชการเน็ตเวิร์กด้วย Command Prompt

ปัญหาข้อผิดพลาด "Windows Has Detected an IP Address Conflict" สามารถเกิดขึ้นได้จากการตั้งค่าเน็ตเวิร์คของคอมพิวเตอร์ที่ผิดพลาด ทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตหยุดทำงานกะทันหันแบบสุ่ม

ในการแก้ไข เราสามารถใช้คำสั่ง Command-line ผ่านเครื่องมือ Command Prompt ได้ด้วยขั้นตอนดังนี้

1. กด "ปุ่ม Windows + R" เพื่อเปิด "แอป Run" ขึ้นมา
2. พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า "cmd" แล้วกด "ปุ่ม Ctrl + Shift + Enter" เพื่อเปิด "หน้าต่าง Command Prompt" ขึ้นมาใน "โหมด Administrator"
3. พิมพ์คำสั่งด้านล่างนี้ลงไป ตามลำดับ
   ipconfig /flushdns แล้วกด "ปุ่ม Enter"
   ipconfig /registerdns แล้วกด "ปุ่ม Enter"
   NETSH winsock reset catalog แล้วกด "ปุ่ม Enter"
   NETSH int ipv4 reset reset.log แล้วกด "ปุ่ม Enter"
   NETSH int ipv6 reset reset.log แล้วกด "ปุ่ม Enter"
   exit แล้วกด "ปุ่ม Enter"

4. โดย "หน้าต่าง Command Prompt" จะถูกปิดลงอัตโนมัติ
5. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์หนึ่งรอบ

2. เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ DNS

สำหรับ DNS หรือ Domain Name System คืออินเทอร์เน็ตไดเร็กทอรี (Internet directory) ที่ช่วยให้เว็บเบราว์เซอร์สามารถเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ได้

หากการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ DNS มีความผิดปกติ หรือว่าเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้งานอยู่กำลังมีปัญหา ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหา "Windows has detected an IP Address conflict" ขึ้นมาได้ แต่เราสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่ของเซิร์ฟเวอร์ DNS ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. กด "ปุ่ม Windows + i" เพื่อเปิด "แอป Settings" ขึ้นมา
2. ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู Network & internet"
3. ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู Advanced network settings"

4. เลื่อนลงมาด้านล่างสุด ใต้ "หัวข้อ Related settings" คลิกที่ "เมนู More network adapter options"

5. และ "หน้าต่าง Network Connections" ก็จะแสดงขึ้นมา
6. คลิกขวาที่ระบบอินเทอร์เน็ตที่คุณใช้งานอยู่ แล้วเลือก "เมนู Properties"

7. คลิกเลือก "เมนู Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4)" แล้วคลิก "ปุ่ม Properties"
8. คลิกที่ " ◯ Use the following DNS server address"
9. ใน "ช่อง Preferred DNS Server" ให้พิมพ์ลงไปว่า "8.8.8.8" (เป็นค่า DNS ของ Google)
   *หากต้องการใช้ DNS ของ Cloudflare ซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้กันให้ตั้งค่าเป็น "1.1.1.1"
10. ใน "ช่อง Alternate DNS Server" ให้พิมพ์ลงไปว่า "8.8.4.4" (เป็นค่า DNS ของ Google)
    *หากต้องการใช้ DNS ของ Cloudflare ซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้กันให้ตั้งค่าเป็น "1.0.0.1"
11. คลิกที่ "ปุ่ม OK" เพื่อบันทึกการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ DNS

3. Renew หมายเลข IP Address

ตามปกติแล้ว อุปกรณ์สามารถที่จะเก็บรักษาค่า IP Address ของเดิมเอาไว้ได้ตลอด แต่ด้วยข้อผิดพลาดเทคนิคทำให้มันเกิดปัญหาของ IP Address ชนกัน หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้ระบบเครือข่ายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเกิดขึ้นได้ โดยถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว เราอาจจะต้องพิจารณาการเปลี่ยนค่า IP Address ใหม่ให้กับคอมพิวเตอร์ของเรา

เมื่อเราเปลี่ยนค่า IP Address การเชื่อมต่อขั้นพื้นฐานก็จะถูกรีเซ็ตค่าตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ IP Address ได้หลายอย่าง

การเปลี่ยนค่า IP Address สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนดังนี้

1. กด "ปุ่ม Windows + r" เพื่อเปิด "แอป Run" ขึ้นมา
2. พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า "cmd" แล้วกด "ปุ่ม Ctrl + Shift + Enter" เพื่อเปิด "หน้าต่าง Command Prompt" ขึ้นมาใน "โหมด Administrator"
3. พิมพ์คำสั่งด้านล่างนี้ลงไป ตามลำดับ
   ipconfig /release แล้วกด "ปุ่ม Enter"
   ipconfig /renew แล้วกด "ปุ่ม Enter"

4. รีเซ็ต Winsock

Winsock หรือ Windows Socket API เป็น Application Programming Interface (API) ตัวหนึ่งที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows มันทำหน้าที่ในการสื่อสารระหว่าง Windows Network Software และ Network Services ทำงานอยู่บนพื้นฐานของ Transmission Control Protocol/Internet Protocol (TCP/IP) และมีรากฐานมาจาก Berkeley Unix sockets interface.

หากตัว Winsock ทำงานผิดปกติ มันสามารถส่งผลให้โปรแกรม และแอปพลิเคชันมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้เช่นกัน

ในการรีเซ็ต Winsock สามารถทำได้ด้วยขั้นตอนดังนี้

1. กด "ปุ่ม Windows + r" เพื่อเปิด "แอป Run" ขึ้นมา
2. พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า "cmd" แล้วกด "ปุ่ม Ctrl + Shift + Enter" เพื่อเปิด "หน้าต่าง Command Prompt" ขึ้นมาใน "โหมด Administrator"
3. พิมพ์คำสั่งด้านล่างนี้ลงไป 
   netsh winsock reset แล้วกด "ปุ่ม Enter"

4. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ปัญหาน่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว

5. รีสตาร์ทเราเตอร์

สำหรับ "เราเตอร์ (Router)" นั้น มีหน้าที่ในการกำหนดเส้นทางระหว่างเครือข่ายภายในของคุณ กับเครือข่ายของ ISP โดยใช้ Network Address Translated (NAT) ในการควบคุมเครือข่าย โดยมันจะทำหน้าที่มอบ IP Address ให้กับอุปกรณ์ของคุณไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านการเชื่อมต่อแบบ Ethernet (ต่อสายแลน) หรือ Wi-Fi ก็ตาม

ข้อมูลเพิ่มเติม : Modem, Router และ Network Switch คืออะไร ? และ แตกต่างกันอย่างไร ?

ถ้าเกิดเราเตอร์ทำงานผิดปกติขึ้นมา คุณก็จะพบกับข้อความแจ้งเตือนอย่าง "Windows has detected an IP Address conflict" หรือ "Windows was unable to retrieve an IP Address" ซึ่งทางแก้ก็ไม่ยาก ให้เรารีสตาร์ทเราเตอร์ หรือเปิดปิดมันสักรอบ ก็น่าจะหายแล้ว      ขั้นตอนการรีสตาร์ทเราเตอร์ จะมีดังนี้

1. มองหาปุ่มเปิดปิดบนเครื่องเราเตอร์ แล้วกดปุ่มเพื่อปิด (หรือจะถอดสายอะแดปเตอร์จ่ายไฟเลยก็ได้)
2. รออย่างน้อย 2 นาที
3. เปิดเราเตอร์ใหม่อีกครั้ง

การทำแบบนี้จะเป็นการรีเซ็ตค่า Dynamic Host Configuration Protocol (DHCP) ซึ่งมีหน้าที่ในการแจกจ่าย IP Address ให้กับเครือข่ายของเรา

ก็หวังว่า จะมีวิธีการใด วิธีการหนึ่งในบทความนี้ ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคุณผู้อ่านได้นะครับ