เมื่อต้องจัดการแก้ไขรูปภาพ ช่างภาพส่วนใหญ่มักจะเลือก โปรแกรมแต่งรูป (Image Editing Software) อย่าง โปรแกรม Adobe Photoshop มาช่วยในการทำงาน เพราะเพียงแค่คุณรู้จักเครื่องมือพื้นฐานหลัก ๆ ในโปรแกรมนี้ คุณก็จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ยอดเยี่ยมได้อย่างหลากหลายแล้ว
ในขณะที่ โปรแกรม Adobe Photoshop Express ก็กลายมาเป็นแอปพลิเคชันที่ยอดเยี่ยม สำหรับคนที่ต้องการปรับแต่งรูปภาพแบบนอกสถานที่ เพราะยังคงมีเครื่องมือในการแก้ไขจำนวนมากให้ใช้งาน และมีตัวเลือกในการส่งออกไฟล์ที่หลากหลาย ทำให้หลายคนคิดไปว่า โปรแกรม Adobe Photoshop กับ โปรแกรม Adobe Photoshop Express นั้นเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ แล้วความแตกต่างของสองโปรแกรมนี้อยู่ตรงไหนบ้าง เราจะมาแจกแจงจุดต่างตรงนี้กัน
บางที จุดที่แตกต่างกันมากที่สุดระหว่าง โปรแกรม Adobe Photoshop กับ Adobe Photoshop Express ก็อาจเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างสถานที่ที่สามารถใช้ทั้งสองโปรแกรมได้ก็ได้นะ
เพราะถ้าหากคุณทำงานกับ โปรแกรม Adobe Lightroom Classic และ Adobe Lightroom Creative Cloud แล้วล่ะก็ คุณจะรู้เลยว่า โปรแกรม Adobe Lightroom CC นั้นมีให้ใช้งานทั้งบนเดสก์ทอป, แท็บเล็ต, และสมาร์ทโฟน
แต่ทว่า โปรแกรม Adobe Photoshop นั้นไม่ใช่ เพราะเวอร์ชันหลักของ โปรแกรม Adobe Photoshop นั้นมีให้ใช้งานเพียงแค่บนคอมพิวเตอร์เท่านั้น และต้องดาวน์โหลดหลังจากที่สมัครบัญชีของ Creative Cloud ไปแล้ว โดยสามารถใช้งานเวอร์ชันที่เบากว่าบนเว็บได้ แต่ก็จะแตกต่างออกไปอีกนิดหน่อยจาก โปรแกรม Adobe Photoshop Express อยู่ดี
เครดิตภาพ : https://www.canadiannaturephotographer.com/photoshopCS6.html
ในขณะที่ โปรแกรม Adobe Photoshop Express นั้นมีให้ใช้งานแค่บนสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเท่านั้น โดยสามารถ ดาวน์โหลดตแอปพลิเคชัน ดังกล่าวได้ทั้งในเวอร์ชัน iPhone, iPad, และ Android แต่ไม่สามารถใช้งานบน เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ได้
เพราะ โปรแกรม Adobe Photoshop เป็น โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานสูง ก็เลยทำให้การเรียนรู้เครื่องมือทั้งหมดในโปรแกรมนั้นเป็นไปได้ช้า ถ้าคุณไม่เคยใช้โปรแกรมจำพวกตัดต่อรูปภาพมาก่อน อาจพบว่าจะต้องใช้เวลางมในช่วงแรกพอสมควร เพื่อเรียนรู้การสร้างเลเยอร์และการทำอย่างอื่นเพิ่มเติม แต่คุณจะเรียนรู้ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากเริ่มใช้งานเป็นประจำหรือบ่อยครั้งขึ้น
เครดิตภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=0s455x3qLwA
ในทางกลับกัน Adobe Photoshop Express จะไม่ต้องใช้การเรียนรู้อะไรมากมายสำหรับคนส่วนใหญ่ทั่วไป เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายกว่า และมีหลายเครื่องมือที่คล้ายกันกับใน Adobe Lightroom รวมทั้งมีเทมเพลตให้เลือกใช้งานมากมาย
เครดิตภาพ : https://adobe.fandom.com/wiki/Adobe_Photoshop_Express
หากคุณเป็นมือใหม่กับการใช้งาน Adobe Photoshop ลองใช้ Adobe Photoshop Express ไปสักระยะหนึ่งให้เข้าที่เข้าทางจนเริ่มคุ้นชินกับเครื่องมือก่อน และค่อยไปเวอร์ชันคอมพิวเตอร์ดูก็น่าจะช่วยให้คุณเข้าใจเครื่องมือต่าง ๆ ได้เร็วขึ้นนะ
อีกหนึ่งสิ่งที่ Adobe Photoshop และ Adobe Photoshop Express แตกต่างกันพอสมควร ก็คือเรื่องของราคา ถ้าหากคุณต้องการใช้งาน Adobe Photoshop เวอร์ชันเต็มแล้วล่ะก็ คุณจะต้องสมัครแผนบริการรายเดือนของ Adobe ที่มีโปรแกรมอื่นรวมถึง Adobe Photoshop รวมอยู่ในนี้ ในราคา 800.36 บาท / เดือน
ตัดภาพกลับมาที่โปรแกรม Adobe Photoshop Express นั้นจริง ๆ แล้วสามารถใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แค่ต้องสร้างบัญชี Adobe Creative Cloud มาใช้งานเฉย ๆ ซึ่งก็ไม่เสียเงินเหมือนเดิม ถ้าหากอยากใช้พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ ค่อยไปสมัครแผนบริการเพิ่มเติมในภายหลัง
ทั้งโปรแกรม Adobe Photoshop และ Adobe Photoshop Express ต่างก็มีเครื่องมือที่ครบครันในการปรับแต่งรูปภาพทั้งคู่ แต่ตัว Adobe Photoshop จะมีภาษีดีกว่าสำหรับการทำงานขั้นสูง
ในโปรแกรม Adobe Photoshop เวอร์ชันเต็ม คุณจะค้นพบเครื่องมือที่มีประโยชน์หลายอย่างอาทิ Lasso Tool ที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพ แล้วลากไปที่อื่นได้ เปลี่ยนสีบริเวณที่เลือกทั้งหมดด้วย Paint Bucket โดยไม่กลายเป็นสีทึบ แต่ทำให้กลมกลืนไปกับพื้นหลังทั้งแสงและเงา ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน แถมยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ให้ใช้งานอีกเพียบ
โปรแกรม Adobe Photoshop Express จะมีฟีเจอร์หลายอย่างที่คุณสามารถใช้งานได้ใน โปรแกรม Adobe Photoshop อย่างไรก็ตามแต่ มันเหมาะสำหรับการรีทัชมากกว่าการแก้ไขแบบลงลึกในรายละเอียดนะ โดยจะสามารถปรับแต่ง Exposure, แสง, และคอนทราสต์ของรูปได้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มเอฟเฟคพิเศษให้กับรูปภาพของคุณ
เมื่อคุณนึกถึง โปรแกรม Adobe Photoshop ก็อาจจะนึกถึงการตัดต่อภาพนิ่งเป็นหลัก แต่เชื่อหรือไม่ว่า ครีเอเตอร์บางคนใช้ในการทำคอนเทนท์วิดีโอด้วยนะ ซึ่งคุณสามารถใช้ โปรแกรม Adobe Photoshop ในการปรับไซส์วิดีโอสำหรับ Instagram Reels, Stories, TikTok, และแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ ได้ด้วยล่ะ
แต่การปรับแต่งวิดีโอใน โปรแกรม Adobe Photoshop ค่อนข้างมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่างพอสมควร และไม่สามารถใช้เป็นโปรแกรมแก้ไขหลังการถ่ายทำได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ถ้าแค่ปรับแต่งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอถูไถได้อยู่ ซึ่งถ้าเทียบกับ โปรแกรม Adobe Photoshop Express แล้ว Adobe Photoshop Express จะเน้นไปที่การทำภาพนิ่งอย่างเดียวมากกว่า มีออปชันสำหรับวิดีโอน้อยกว่า โปรแกรม Adobe Photoshop ลงไปอีก
หากคุณต้องการส่งออกไฟล์รูปที่ปรับแต่งเสร็จแล้วใน โปรแกรม Adobe Photoshop Express การส่งออกจะมีฟอร์แมตไฟล์ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเซฟแบบ PNG หรือ JPEG ที่ช่วยให้คงรายละเอียดของรูปไว้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการแชร์ตรงออกไปยังโซเชียลมีเดียจากในแอปอีกด้วย
เครดิตภาพ : https://helpx.adobe.com/photoshop/using/export-artboards-layers.html
ทว่า การส่งออกไฟล์จาก โปรแกรม Adobe Photoshop คุณจะพบว่า นอกจากการเซฟแบบสกุลไฟล์ด้านบนที่กล่าวมาแล้ว ยังมีการสกุลไฟล์แบบ GIF และ SVG ให้เลือกเพิ่มเติมพร้อมกับสกุลไฟล์รูปแบบอื่น ๆ ในการทำงานร่วมกับโปรแกรมในเครือ Adobe และเลือกได้ว่าจะเซฟไฟล์ไว้ที่ไหนภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
แม้ทั้งสองโปรแกรมจะมาจาก Adobe ค่ายเดียวกัน แต่ไม่สามารถทำแทนกันได้ทั้งหมดทุกฟีเจอร์ โดย โปรแกรม Adobe Photoshop นั้นจะเน้นการใช้งานปรับแต่งแก้ไขรูปภาพตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงการปรับแต่งขั้นสูง อีกทั้งยังมีสกุลไฟล์ในการส่งออกให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกสกุลไฟล์สำหรับเปิดใช้ในโปรแกรมอื่นเพื่อนำไปต่อยอดทำงานอย่างอื่นได้
ในขณะที่ โปรแกรม Photoshop Express จะเน้นไปที่ความรวดเร็วในการแต่งภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่างและความหลากหลายในการนำเสนอภาพของตนเอง รวมไปถึงการอัปโหลดขึ้นโซเชียลมีเดีย ที่สามารถเลือกอัปโหลดขึ้นไปโดยตรงได้ทันทีโดยไม่ต้องสลับแอปพลิเคชัน อีกทั้งยังมีเทมเพลตในการใช้งานให้เลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับการปรับแต่งพื้นฐานไปจนถึงระดับกลาง ๆ และมีเพียงสกุลไฟล์ยอดนิยมเช่น JEPG, PNG ให้เลือกในการส่งออกไฟล์เท่านั้น
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |