Apple เลือกใช้กล้องความละเอียด 12 MP บน iPhone มาเป็นเวลาหลายปี รุ่นแรกที่ใช้ก็โน่นเลย iPhone 6s ที่เปิดตัวในปี ค.ศ 2015 (พ.ศ. 2558) แต่ในที่สุด ทาง Apple ก็มีการอัปเกรดความละเอียด เปลี่ยนมาใช้กล้องความละเอียด 48 MP สักที ใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max
อย่างไรก็ตาม หากคุณได้ iPhone 14 Pro มาใช้งานแล้ว อาจจะสังเกตว่า พอถ่ายรูปออกมา มันก็ได้ความละเอียดแค่ 12 MP เหมือนเดิม
ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น ? ในบทความนี้เราจะมาอธิบายให้ฟังกัน รวมถึงวิธีการถ่ายรูปด้วยความละเอียด 48 MP บน iPhone 14 Pro ด้วย
iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max นั้น มาพร้อมกับกล้องที่ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Quad-Pixel ความละเอียด 48 MP โดยอาศัยเทคนิคการผสมพิกเซล ทำงานร่วมกับการทำ Pixel Binning ที่จะรวม 4 พิกเซลให้เป็น 1 พิกเซล เพื่อเก็บข้อมูลแสงได้ละเอียดมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ ได้ภาพที่มีความละเอียด 12 MP แต่มีคุณภาพรายละเอียดที่ดีกว่าเดิม
การทำ Pixel-binning
ภาพจาก : https://www.notebookcheck.net/Sony-s-new-IMX586-image-sensor-is-a-48-MP-stacked-Quad-Bayer-CMOS-chip.317756.0.html
นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไม Apple ถึงกล้าเคลมว่ากล้องของ iPhone 14 Pro นั้น สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่า iPhone 13 Pro ถึง 2 เท่า ทั้งนี้ เทคนิค Pixel Binning นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของฝั่ง Android มีทำมาก่อนแล้วหลายรุ่น เช่น Samsung Galaxy S22 Ultra, Google Pixel 6 Pro, OnePlus 10 Pro ฯลฯ
แม้ว่าทาง Apple จะใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 48 MP ช่วยให้การถ่ายภาพที่ความละเอียด 12 MP บน iPhone 14 Pro ได้คุณภาพที่ยอดเยี่ยม แต่หากผู้ใช้ต้องการถ่ายภาพที่ความละเอียด 48 MP ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยตัวผู้ใช้จะต้องเข้าไปตั้งค่าเปิดใช้งาน ProRAW เสียก่อน ด้วยขั้นตอนดังนี้
สำหรับคนทั่วไปแล้ว การถ่ายภาพแบบ Apple ProRAW แทบไม่จำเป็นเลย แต่สำหรับช่างภาพที่ต้องการนำภาพถ่ายมาแก้ไขค่าสี และค่าแสงต่าง ๆ การบันทึกรูปเป็นไฟล์ RAW นั้นจะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก
การที่ไฟล์ RAW มีขนาดใหญ่นั้น ก็เพราะตัวไฟล์จะมีการเก็บข้อมูลของสัญญาณภาพทั้งหมดเอาไว้อย่างละเอียด เพื่อให้การแก้ไขภาพในภายหลังทำได้ง่ายขึ้น สามารถดึงโทนมืด โทนสว่าง โดยที่ไม่สูญเสียรายละเอียดไป
ตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ ภาพซ้ายได้ถูกถ่ายมาเป็นไฟล์ RAW ส่วนภาพขวาเป็นภาพที่นำไฟล์ RAW มาแก้ไข สังเกตว่ารายละเอียดของตึกที่อยู่ในเงามืด ยังสามารถดึงรายละเอียดของก้อนอิฐออกมาได้อย่างสวยงาม
ภาพจาก https://www.alessandromichelazzi.com/everything-about-apple-proraw-a-full-complete-review/ |
แม้การถ่ายรูปด้วยความละเอียด 48 MP บน iPhone 14 Pro จะทำได้ดี คุณสามารถนำภาพมาครอป, แก้ไข, พิมพ์ภาพขนาดใหญ่ออกมาได้อย่างสวยงาม แต่มันก็มีข้อเสียเช่นกัน
ประการแรก การถ่ายรูป 48 MP บน iPhone 14 Pro ระบบจะบันทึกรูปเป็นมาตรฐาน Apple ProRAW หรือ .DNG ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ช่างภาพน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่สำหรับคนธรรมดาแล้ว มันไม่ได้เปิดดู หรือแก้ไขภาพได้ง่ายเหมือนกับไฟล์ JPEG ในการเปิดไฟล์ .DNG คุณจะต้องใช้โปรแกรมเฉพาะทาง หรือหาทางแปลงไฟล์จาก .DNG เป็น .JPEG เสียก่อน
ประการที่สอง ไฟล์รูปภาพแบบ Apple ProRAW นั้น เป็นไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก ไฟล์ RAW ความละเอียดv 12 MP มีขนาดไฟล์ประมาณ 25 MB ส่วนไฟล์ RAW ความละเอียด 48 MP จะมีขนาดประมาณ 75 MB เลยทีเดียว เทียบกับไฟล์ JPEG ที่มีขนาดเพียง 1-5 MB ต่อภาพแล้ว การถ่ายรูป 48 MP บน iPhone 14 Pro นั้นจะเปลืองพื้นที่เป็นอย่างมาก
ท้ายที่สุดแล้ว จะถ่ายแบบไหน ? ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในวันที่แสงดี ๆ ถ่ายขำ ๆ ก็ถ่ายแบบธรรมดา แต่ถ้าเจอสถานการณ์ที่สภาพแสงมีความซับซ้อน ต้องการถ่ายแล้วมาแก้ไขภาพในภายหลัง ก็ค่อยเลือกถ่าย Apple ProRAW ก็ได้
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |