ในการถ่ายทำวิดีโอ มักจะต้องมีการถ่ายฟุตเทจเก็บไว้เป็นจำนวนมาก ศัพท์พื้นฐานสำคัญ ที่มักจะได้ยินบ่อย ๆ เมื่อพูดถึงตัวฟุตเทจก็คือ การถ่าย A-Roll และ B-Roll (บ้างก็เรียกว่า Reel แทนคำว่า Roll)
สองคำนี้ เป็นคำเก่าแก่ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยที่เรายังตัดต่อกันบนฟิล์ม ซึ่งผู้ตัดต่อจะใช้ฟิล์ม 2 ม้วน ที่มีเนื้อหาเหมือนกัน เรียกว่า A-Roll และ B-Roll แต่ยุคนี้การตัดต่อวิดีโอเราทำผ่านคอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ฟิล์ม 2 ม้วนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม คำว่า A-Roll และ B-Roll ก็ยังนิยมใช้งานกันอยู่แม้ความหมายในการใช้งานจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ตาม
ในบทความนี้เราเลยจะมาอธิบายว่า A-Roll กับ B-Roll คืออะไร ?
สำหรับ A-Roll เราสามารถอธิบายง่าย ๆ ว่า มันคือฟุตเทจที่ใช้ในการ "เล่าเนื้อหาหลัก" ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสียง และวิดีโอ ของตัวละครหลักที่ทำหน้าที่เล่าเรื่อง หรือเป็นการสนทนาหัวข้อของเนื้อหาระหว่างคนมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป
A-Roll เป็นวิธีการที่นิยมใช้ในวิดีโอที่เน้นการเล่าเรื่องเป็นหลัก เช่น สารคดี, รายการข่าว, ทอล์กโชว์, เรียลลิตี้โชว์ ฯลฯ คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ เป็นตัวอย่างการถ่ายทำฟุตเทจที่ใช้ A-Roll เป็นหลัก
A-Roll ช่วยให้การเล่าเรื่องเข้าใจง่าย เพราะมันมีการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา แต่ปัญหาของ A-Roll คือ ความน่าเบื่อแบบสุด ๆ มันยากที่จะดึงดูดให้ผู้ชมสามารถทนรับชมจนจบได้ ต้องอย่าลืมว่า ผู้ชมคาดหวังที่จะได้เห็นว่าเรื่องราวในวิดีโอมันเป็นอย่างไร มากกว่าแค่การมีคนมาเล่าให้ฟังเฉย ๆ
อีกปัญหาหนึ่งคือ หากใช้ A-Roll แค่เพียงอย่างเดียว ซึ่งฟุตเทจมักจะเป็นแค่คนคุยกัน แน่นอนว่าในการสนทนา มันไม่ได้ราบรื่นตลอดทั้งฟุตเทจอยู่แล้ว มันมักจะมีการพูดผิด, พูดสะดุด, จังหวะพักหายใจ, สำลักไอ ฯลฯ เกิดขึ้นได้ ซึ่งช่วงเวลานี้จะถูกตัดต่อออกไป ในการเติมช่วงที่หายไปให้ดูลื่นไหล ฟุตเทจ B-Roll ก็คือทางออกนั่นเอง
ในปัจจุบันนี้ คำว่า A-Roll แทบจะไม่มีใครใช้งานกันอีกแล้ว เหลือแค่คำว่า B-Roll ที่ยังนิยมใช้งานกันอยู่
B-Roll คือ ฟุตเทจเสริมที่ใช้ในการสนับสนุนการเล่าเรื่องของ A-Roll ยกตัวอย่างเช่น ในฟุตเทจ A-Roll ที่ต้องการเล่าเรื่องสภาพแวดล้อมในตัวเมือง เมื่อผู้เล่าพูดถึงทิวทัศน์ หรือสถาปัตยกรรม ก็จะตัดภาพไปยังสถานที่นั้น ๆ เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นภาพอย่างชัดเจน ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้การเล่าเรื่องมีความน่าสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ B-Roll ยังนิยมใช้ช่วยในการลบฟุตเทจที่ไม่ต้องการออก (Cutaway) เช่น ต้องการลบวิดีโอบางส่วนของ A-Roll ทิ้ง แต่อยากใช้เสียงมา Voiceover อยู่ ก็จะใช้ภาพจาก B-roll มาแทรกแทนได้
อย่างที่เราได้อธิบายไปแล้วว่า B-Roll เป็นฟุตเทจที่ใช้ส่งเสริมการเล่าเรื่องของฟิล์มหลัก (A-Roll) ซึ่งเราก็สามารถแยกย่อยประเภทของ B-Roll ออกมาได้หลายประเภท ดังนี้
มาสรุปกันครั้งสุดท้าย ในการถ่ายทำวิดีโอจะมี A-Roll เป็นฟุตเทจหลักที่ถูกใช้ในการบอกเล่าหัวข้อหลัก และ B-Roll ที่เป็นฟุตเทจเสริมที่ใช้สร้างความน่าสนใจให้กับฟุตเทจหลัก
หากเปรียบกับอาหาร A-Roll ก็คือ ข้าวไข่เจียว ถ้าเรากินแต่ข้าวไข่เจียวเปล่า ๆ เราก็จะรู้สึกเลี่ยนกินได้ไม่หมดจาน ดังนั้น เราจึงต้องมีน้ำจิ้มเข้ามาช่วยแก้เลี่ยน เช่น พริกน้ำปลา, ซอสแม็กกี้ หรือซอสพริก ซึ่งนั่นก็คือ B-Roll นั่นเอง
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |