ปัจจุบันนั้น ใคร ๆ ก็พูดถึงกันแต่เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งหลายคนก็รู้สึกในแง่ดีว่า จะเป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้คนมีความสะดวกสบายมากขึ้น หลายคนก็กลัวว่าสิ่งนี้จะเข้ามาแย่งงาน แต่อันที่จริงแล้วใครที่สามารถใช้งานสิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่างหากถึงจะมีโอกาสในการแข่งขันต่อไปในอนาคต
แต่เมื่อพูดถึงการแข่งขัน ตอนนี้อะไร ๆ ก็มีการแข่งขันสูงทุกวงการ ลำบากมาจนถึงเหล่านักเขียนคอนเทนต์ที่ทำงานอยู่ดี ๆ หัวหน้าก็อยากให้ปั๊มคอนเทนต์ช่วยขายมาเป็นจำนวนมาก ซ้ำยังอยากให้โกอินเตอร์อีก ตัวเองเขียนคอนเทนต์ภาษาอังกฤษพอได้แต่คงเขียนได้ไม่เร็วแน่ ๆ เผลอ ๆ จะออกมาแปลก ๆ หรือฝรั่งไม่เก็ตด้วยซ้ำ จะทำอย่างไร ?
วันนี้เรามีเครื่องมือ AI ที่จะช่วยให้งานของคุณง่ายลงไปในพริบตา พาบริษัทของคุณโกอินเตอร์ได้สมกับที่ได้รับงานมา
- แพลนฟรี : มี (ข้อจำกัด 2,000 คำ ต่อเดือน)
- ค่าใช้จ่ายสำหรับแพลนพรีเมียม : $36 ต่อเดือน (แบบไม่จำกัดจำนวนคำ)
คำว่า "Copy" ในที่นี้อย่าพึ่งตกใจไปว่าตัว AI จะไปก็อปงานของคนอื่นมาให้คุณใช้ แต่ Copy ในที่นี้ หมายถึง Ad copy ที่เป็นการเขียนเพื่อการโฆษณาและการตลาด ฟีเจอร์การใช้งานก็ตรงตัวตามยี่ห้อเลย เพราะเครื่องมือชิ้นนี้มีฟังคํชั่นมากมายที่จะช่วยให้คุณเขียนโฆษณาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถรับมือรูปแบบการโฆษณาออนไลน์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาสำหรับเครื่องมือค้นหา (Search Engine), โฆษณาบน โซเชียลมีเดีย (Social Media) หรือ การเขียนบทความเพื่อการโฆษณาต่าง ๆ เหมาะมากสำหรับ Content Creator ที่ทำงานอยู่ในแผนกการตลาด (Marketing Department)
เท่านั้นยังไม่เพียงพอ ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณออกแบบอีเมลสำหรับการทำการตลาด หรือออกแบบอีเมลให้กับเหล่าเซลแมนในบริษัทของคุณได้อีกด้วย ราคาก็ถือว่าโอเคเลย
- แพลนฟรี : ไม่มี (มีแต่แบบทดลองใช้งานชั่วคราว)
- ค่าใช้จ่ายสำหรับแพลนพรีเมียม : $49 ขึ้นไป (เริ่มต้นที่ 35,000 คำต่อเดือน)
ภาพจาก : https://www.jasper.ai/
Jasper เป็นอีกเครื่องมือช่วยเขียนคอนเทนต์ที่โด่งดังอีกตัวหนึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา โดยในช่วงนั้นมีชื่อแบรนด์ที่สุดเท่ว่า Jarvis (ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนตัวเองเป็น Iron Man ที่ทำงานพร้อมกับ AI ที่แสนฉลาด) โดยผู้พัฒนาเองนั้นได้โฆษณาว่า สามารถช่วยคุณปั่นคอนเทนต์ได้เร็ว หลากหลาย แถมมีความ Original สูง
โดยตัว AI นั้นมาพร้อมกับ เทมเพลต (Template) ที่ให้มาในหลากรูปแบบ มันจะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณตั้งแต่การเขียนโฆษณาสั้น ๆ ยันการเขียน Ebook แต่ด้วยราคาที่จัดว่าสูงพร้อมกับการจำกัดจำนวนคำอาจทำให้นักเขียนหลายคนต้องหวั่นไหวเวลาจ่ายเงินเพื่อใช้งานหนึ่งในสุดยอด AI ตัวนี้
- แพลนฟรี : ไม่มี (มีแต่แบบทดลองใช้งานชั่วคราว)
- ค่าใช้จ่ายสำหรับแพลนพรีเมียม : $59 (สำหรับ 160,000 คำ)
ภาพจาก : https://copysmith.ai/
อีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ชื่อว่า "Copy" เหมือนกัน แต่เป็นเครื่องมือที่เน้นการเขียน Copy สำหรับการโฆษณาแบบจริงจัง เพราะเน้นการเขียนแบบบทความขนาดสั้นจริง ๆ เช่น โฆษณาบน Google, คำบรรยายหน้า Landing page แบบสั้น ๆ, อีเมลขนาดสั้น ๆ, คำบรรยายผลิตภัณฑ์สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ (E-commerce Website)
โดยถ้าคุณพยายามสั่งให้เขียนบทความยาว ๆ เครื่องมือชนิดนี้จะทำออกมาแค่เป็นไกด์ให้คุณเขียนในรูปแบบ Outline หรือ Template เท่านั้น เทียบในความคุ้มค่าถือว่าน้อยกว่าเครื่องมือตัวอื่นบนบทความนี้
- แพลนฟรี : มี (ทดลองใช้งานได้ฟรี 7 วัน และใช้งานได้ 10 queries ต่อเดือน)
- ค่าใช้จ่ายสำหรับแพลนพรีเมียม : $7,200 ต่อปี
ภาพจาก : https://www.marketmuse.com/competitive-content-analysis/
AI ตัวนี้ใช้ทำอะไร ก็ตามชื่อเลยคือ ใช้สำหรับการทำงานมาร์เก็ตติ้งด้านคอนเทนต์ แต่ว่าเจ้า AI ตัวนี้นั้นไม่ได้ใช้สำหรับงานเขียนเหมือนกับตัวที่ทางเราแนะนำก่อนหน้าหรอกนะ แต่เป็นการใช้ช่วยทำคอนเทนต์ในแนวทางอื่น
นั่นคือ การนำเอา AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ในหลากหลายแง่มุม ทั้งไอเดียด้านคำค้นหา หรือคำหลัก (Keyword), ช่วยคุณทำรูปแบบของคอนเทนต์ (Content Outline), ช่วยคุณจัดส่วน Heading ได้อย่างเป็นระบบ ส่งเสริมศักยภาพ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ ด้วยศักยภาพเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่ทำงานแบบสักแต่เขียนอีกต่อไป แต่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ดีมีคุณภาพจนติดอันดับ (Rank) บน Google และเครื่องมือค้นหา (Search Engine) ที่คุณต้องการทำการตลาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
แต่ด้วยการที่เป็นซอฟท์แวร์ที่มุ่งเน้นด้านการใช้งานเชิงธุรกิจ ราคาก็ย่อมสุดยอดเช่นเดียวกัน อาจไม่เหมาะถ้าคุณนำมาใช้งานแบบตัวคนเดียว
- แพลนฟรี : มี (แต่จะใช้งานได้เพียงฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้น)
- ค่าใช้จ่ายสำหรับแพลนพรีเมียม : $30 ต่อเดือน
ภาพจาก : https://www.grammarly.com/
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด กับแอปพลิเคชั่นที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดีอย่าง Grammarly ที่ช่วยชีวิตเด็กนักเรียนอินเตอร์มานักต่อนักแล้ว เพราะสามารถช่วยในการตรวจเช็คงานเขียน แก้ไขแกรมม่าให้ถูกต้องตามหลักภาษา แก้ไขคำสะกดผิด ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้มีชื่อเสียงมาแต่เดิมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น หลากหลายขึ้น และเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการนำเอา AI เข้ามาช่วยขัดเกลาการเขียนของคุณ รวมถึงช่วยตรวจเช็คให้คุณด้วยว่า คุณเผลอลอกงานมาอย่างไม่ตั้งใจหรือเปล่า
นอกจากนั้นแล้วคุณยังสามารถใช้เครื่องมือ Integration ในการเชื่อมต่อกับซอฟท์แวร์การเขียนที่เป็นที่นิยมอย่าง Google Doc หรือ Microsoft Office ได้ด้วย นับว่าสะดวกสบายทีเดียวสำหรับนักเขียนที่ไม่ว่าจะอยู่ในระดับ นักศึกษาทำงานส่ง หรือ นักเขียนมืออาชีพ
คุณคงได้เห็นกันแล้วว่า AI อาจจะไม่ได้เข้ามาแย่งงานคุณเสมอไป แต่เข้ามาเป็นผู้ช่วยของคุณเสมือนกับคุณมีโดราเอม่อน กับอุปกรณ์วิเศษเป็นผู้ช่วยข้างกายเชียวล่ะ แต่ AI แต่ละตัวก็ใช่ว่าจะทำงานเหมือนกันหมด ตัวหนึ่งอาจเหมาะกับการเขียนรูปแบบหนึ่ง บางตัวอาจจะไม่เหมาะกับงานเขียนโดยตรง แต่ช่วยให้คุณวางแผนงานเขียนได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณก็ต้องพิจารณาต้นทุนของคุณด้วยนะว่า ไหวไหมกับค่าใช้จ่ายรายเดือนในการใช้งาน AI แต่ละตัว เพราะราคาก็เอาเรื่องใช้ได้เลย
|