ผู้ให้บริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN Provider) บางราย จะมีการชูจุดเด่นว่าให้ บริการ VPN แบบ No-Log ทั้งบนหน้าเว็บไซต์ หรือประชาสัมพันธ์ในแผนการตลาด คำถามที่หลายคนคงจะสงสัย คือ Log ของ VPN คือ อะไร ? แล้ว "No-log" หรือ "Zero-log" VPN ทำอะไรได้ ?
Log File (หรือบางทีเรียกสั้นๆ ว่า Log) เป็นไฟล์ที่มีไว้เพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเซิร์ฟเวอร์ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณกำลังอ่านหน้าเว็บเพจนี้อยู่ คอมพิวเตอร์ของคุณได้เชื่อมต่อมายังเซิร์ฟเวอร์ Thaiware.com ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้บริการ (ISP) ที่คุณกำลังใช้งานอยู่ ทั้งทาง ISP และเซิร์ฟเวอร์ก็จะมีการบันทึกข้อมูลการใช้งานดังกล่าวลงใน Log ของตนเองเอาไว้ ซึ่ง ISP สามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณได้ผ่าน Log ดังกล่าว หรือหากเป็นเครือข่ายในองค์กร ผู้ดูแลระบบก็สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน
ในไฟล์ Log จะมีข้อมูล เลขที่อยู่ไอพี (IP Address), ระยะเวลา และช่วงเวลาที่คุณเชื่อมต่อ มันอาจจะดูเหมือนเป็นข้อมูลที่ไม่มีค่าอะไร แต่สำหรับนักการตลาดแล้ว ข้อมูลเหล่านี้มีค่ามาก เลขไอพีสามารถนำมาใช้ในการระบุตำแหน่งคร่าว ๆ ของผู้ใช้งาน, คาดเดาพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ว่าเราชอบเข้าเว็บไซต์อะไร เวลาไหน และใช้เวลาในเว็บเพจหน้าไหนนานที่สุด และเมื่อนำข้อมูลเหล่านี้มารวมกับ คุกกี้ที่ใช้บนเว็บไซต์ (Web Cookie) แล้วล่ะก็ การทำโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายจะมีความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิมมาก
นอกจากนี้ ข้อมูลในไฟล์ Log ยังสามารถใช้ในการสืบสวนคดีได้อีกด้วย การที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา DSI, ตำรวจ สามารถสืบหาตัวคนร้ายที่กระทำความผิดบนระบบออนไลน์ ก็อาศัยการเข้าไปตรวจสอบใน Log นี่แหละ
อย่างไรก็ตาม มันมีวิธีหลีกเลี่ยงการถูกเก็บข้อมูลได้อยู่ นั่นคือ การใช้งาน VPN นั่นเอง
ตัวอย่างไฟล์ Log
ภาพจาก : https://www.facebook.com/maestro.com.bd/posts/maestro-log-solution-for-isp-store-only-the-required-log-customer-ip-mac-url-tim/1884801555096064/
VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network หมายถึง เครือข่ายส่วนตัวเสมือน มันเป็นโปรแกรมที่จะช่วยให้เราเชื่อมต่อไปยังอินเทอร์เน็ต โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว หมายความว่าเว็บไซต์ที่คุณเข้าเยี่ยมชม จะเห็น IP address ของเซิร์ฟเวอร์ VPN แทนที่จะเป็น IP Address ของคุณ รวมไปถึงทาง ISP หรือผู้ดูแลระบบในองค์กรของคุณ ก็จะมองเห็น IP Address ของคุณที่เป็นของเซิร์ฟเวอร์ VPN เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การใช้ VPN ก็ไม่ได้ช่วยให้คุณซ่อนตัวตนได้มากอย่างที่คิดหรอกนะ ถ้าเราใช้งานแบบปกติ Cookies ก็ช่วยให้เว็บไซต์สามารถติดตามคุณได้อยู่ดี หรือหากเราเชื่อมต่อไปยัง VPN แล้วเข้าระบบบัญชี Google ทาง Google ก็รู้ทันทีว่าคุณเป็นใคร
เมื่อมีการเชื่อมต่อระหว่างสองเซิร์ฟเวอร์ ไม่ว่าเราจะต่อตรง หรือต่อผ่าน VPN ไฟล์ Log ก็จะถูกสร้างขึ้นมาอย่างแน่นอน เพียงแต่การใช้ VPN มันจะแทนที่ข้อมูลที่ถูกส่งไปหา ISP ด้วย VPN เท่านั้นเอง ดังนั้นหากต้องการจะสืบหาตัวตนจริง ๆก็สามารถไปสืบหาเอาจาก Log ที่อยู่กับผู้ให้บริการ VPN ได้
เพื่อปกป้องผู้ใช้จากประเด็นดังกล่าว ผู้ให้บริการ VPN จึงได้ให้คำมั่นสัญญาว่า พวกเขาจะไม่เก็บข้อมูล Log เอาไว้ หรืออย่างน้อยก็เก็บเฉพาะข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ในการบ่งชี้ไปยังตัวตนของผู้ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการ VPN หลายราย จะแยกเก็บ Connection Log ออกจาก Activity Log
Connection log หรือบางทีก็เรียกว่า Network Log จะบันทึกเฉพาะข้อมูลกิจกรรมที่เซิร์ฟเวอร์ VPN ได้กระทำร่วมกับเว็บไซต์ โดยทางเทคนิคแล้วการแยก Log แบบนี้ จะทำให้ไม่มีข้อมูลการใช้งานที่สามารถใช้ติดตามตัวผู้ใช้งานได้ ส่วน Activity log จะบันทึกข้อมูลว่าผู้ใช้ได้เชื่อมต่อไปที่ไหนบ้าง ผู้ให้บริการ VPN บางรายให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่เก็บข้อมูลของ Activity Log เอาไว้ แต่บางรายยืนยันว่าจะไม่มีการเก็บทั้ง Connection log และ Activity log
นโยบาย No-Log เป็นจุดแข็งที่สำคัญของผู้ให้บริการ VPN เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ระบุตัวตน อย่างไรก็ตาม มันมีข้อเท็จจริงอยู่ 2 ประการ ที่อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกวิตกกังวล แถมมันยังเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยากอีกด้วย
เรื่องแรก คือ มันค่อนข้างเชื่อได้ยากว่า จะไม่มี Log ถูกเก็บเอาไว้เลย เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานของอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อได้มากกว่า คือ เขาจะทำลาย Log ในทันทีที่มันถูกสร้างขึ้น แต่การพูดว่า "มี Log นะ แต่เราจะรีบลบให้ในทันที" มันก็ดูจะเป็นการตลาดที่ไม่เข้าท่าเท่าไหร่
เรื่องที่สอง คือ เราไม่มีทางตรวจสอบได้เลยว่า ทางผู้ให้บริการ VPN ไม่เก็บ Log อย่างที่เขาให้คำสัญญาเอาไว้จริง ๆ หรือเปล่า นอกจากเราจะขอสิทธิ์ในการเข้าไปตรวจสอบ แต่ถึงแม้เราจะได้สิทธิ์ในการตรวจสอบมา เขาก็แค่เลิกเก็บ Log ชั่วคราว ในระหว่างที่มีคนเข้ามาตรวจสอบเท่านั้นเอง
จาก 2 เหตุผลดังกล่าว ทำให้การตัดสินใจเลือกใช้บริการ VPN แบบ No-Log นั้น เป็นการเลือกโดยใช้ความไว้วางใจ คุณอาจจะดูจากชื่อเสียงความเป็นมาของบริษัท รีวิวจากผู้ใช้งาน รวมไปถึงรีวิวจากผู้ใช้ด้วย
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |