ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-vector/flat-design-vpn-illustration_21649711.htm
เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 2,771
เขียนโดย :
0 %E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89+VPN+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5+%3F+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B9+7+%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีแก้ปัญหาอินเทอร์เน็ตช้า จากการใช้ Virtual Private Network (VPN) (Slow VPN? Try these tips to speed it up)

การให้บริการ เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network - VPN) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ โดย VPN ช่วยให้ข้อมูลที่เราส่งผ่าน อินเทอร์เน็ต (Internet) นั้นถูกเข้ารหัส (Encrypt) และปลอดภัยจากถูกตรวจจับ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดในบางประเทศ หรือการปกป้องข้อมูลส่วนตัวจากการติดตามจากผู้ไม่ประสงค์ดี

บทความเกี่ยวกับ VPN อื่นๆ

แต่ข้อแลกเปลี่ยนที่สำคัญของการใช้ VPN ก็คือความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ลดลง ซึ่งอาจลดลงถึง 50% หรือมากกว่านั้น สาเหตุหลักมาจากการที่ข้อมูลของเราต้องถูกเข้ารหัส และส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล ซึ่งเป็นกระบวนการที่กินเวลา และทรัพยากรเครือข่าย 

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://www.keepersecurity.com/blog/2022/09/15/what-is-a-vpn/

สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป เช่น การท่องเว็บ หรือการรับส่งอีเมล การลดความเร็วอาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากเป็นกิจกรรมที่ต้องการความเร็ว และความเสถียรสูง เช่น การเล่นเกมออนไลน์, การสตรีมวิดีโอคุณภาพสูง, หรือแม้แต่ การประชุมทางวิดีโอ ความหน่วงที่เกิดขึ้นแม้เพียงไม่กี่มิลลิวินาทีก็อาจส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานได้อย่างมาก

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://edgegap.com/blog/edgegap-learner-series-what-is-latency-in-gaming

หากใครกำลังเผชิญกับปัญหาอินเทอร์เน็ตที่ช้าจากการใช้งานบริการ VPN ที่ไม่รวดเร็วตามที่คาดหวัง บทความนี้จะนำเสนอ 7 เคล็ดลับที่จะช่วยปรับปรุง VPN เพิ่มความเร็ว และประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ตให้ทันใจมากขึ้นกัน

เนื้อหาภายในบทความ

  1. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ที่อยู่ใกล้มากที่สุด
    (Connect to the Closest Server)
  2. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ที่ไม่พลุกพล่าน
    (Connect to a Server that is not Overloaded)
  3. ลองเชื่อมต่อผ่านโปรโตคอล VPN ที่แตกต่างกัน
    (Try to Connect via a different VPN Protocol)
  4. เปิดใช้งาน คุณสมบัติการแยกอุโมงค์ หากรองรับ
    (Enable Split Tunneling Features, If Available)
  5. ใช้การเชื่อมต่อ แบบมีสาย
    (Use a Wired Connection)
  6. ปิดการทำงาน ของแอปพลิเคชันพื้นหลัง ที่ไม่จำเป็น
    (Close Unnecessary Apps Running in the Background)
  7. รีสตาร์ทเราเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
    (Restart your Router and Other Devices)

1. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ที่อยู่ใกล้มากที่สุด (Connect to the Closest Server)

โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งเซิร์ฟเวอร์ VPN อยู่ใกล้กับตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้มากเท่าไหร่ ความเร็วในการเชื่อมต่อก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น เนื่องจากข้อมูลของเราจะเดินทางในระยะทางที่สั้นลงเมื่อส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่อยู่ใกล้เคียง แทนที่จะผ่านเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่อีกซีกโลกอย่างไรก็ตาม หากต้องการสตรีมเนื้อหาจากประเทศอื่น หรือเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์เกมจากตำแหน่งอื่น การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด

แต่ถ้าต้องการความเร็วที่สูงขึ้น ลองเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วทดสอบดูว่าเซิร์ฟเวอร์ใดให้ความเร็วที่ดีที่สุด VPN บางตัวมีฟีเจอร์ทดสอบความเร็วในตัวแอปฯ หากไม่มีเราก็สามารถใช้เว็บไซต์ทดสอบความเร็ว เป็นต้น

ข้อมูลเพิ่มเติม : บริการเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ต โดย Thaiware (ใช้ฟรี)

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://www.avast.com/c-vpn-servers-us

2. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ที่ไม่พลุกพล่าน (Connect to a Server that is not Overloaded)

เมื่อมีผู้คนจำนวนมากเกินไปเข้าใช้เซิร์ฟเวอร์ VPN เดียวกัน เซิร์ฟเวอร์อาจโหลดเกินพิกัด (Overload) ซึ่งส่งผลให้ความเร็วในการเชื่อมต่อของเราลดลง ผู้ให้บริการ VPN บางรายจะแสดงโหลดของเซิร์ฟเวอร์ปัจจุบันแต่ละเซิร์ฟ ไม่ว่าจะเป็นในแอปฯ เอง หรือบนเว็บไซต์ หากผู้ใช้เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่มีภาระงานเบากว่า ก็มักจะได้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้นขึ้น

หากผู้ให้บริการ VPN ที่ใช้อยู่ไม่แสดงค่าโหลดปัจจุบันของแต่ละเซิร์ฟเวอร์ ให้ลองเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่แตกต่างกันสองถึงสามตัว เพื่อดูว่าเซิร์ฟเวอร์ใดให้ความเร็วที่ดีที่สุด แล้วค่อยเลือกเซิร์ฟเวอร์นั้น นั่นเอง

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://status.ovpn.com/

3. ลองเชื่อมต่อผ่านโปรโตคอล VPN ที่แตกต่างกัน (Try to Connect via a different VPN Protocol)

สำหรับ โปรโตคอล VPN เป็นชุดคำสั่งระหว่างแอป VPN บนอุปกรณ์ของผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่กำหนดวิธีการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย มีโปรโตคอล VPN หลายประเภท และผู้ให้บริการส่วนใหญ่ ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้จากตัวเลือกที่แตกต่างกันสองถึงสามตัว ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ใช้ โปรโตคอลที่แตกต่างกันมีข้อดี และข้อเสียที่ต่างกันเช่นความเร็ว และความปลอดภัย ดังนั้นหากเราเชื่อมต่อผ่านโปรโตคอล VPN คนละตัวกัน ก็อาจเพิ่มความเร็วของ VPN ได้

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน

ภาพจาก : https://www.vpnunlimited.com/help/vpn-protocols

OpenVPN เป็นโปรโตคอลที่ได้รับการทดสอบมากที่สุดในปัจจุบัน และมีการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเร็ว, ความเสถียร และความปลอดภัย อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงมีโปรโตคอลที่สามารถให้ความเร็วสูงกว่า ในตอนนี้ผู้ให้บริการ VPN หลายรายเริ่มเสนอโปรโตคอลใหม่ ๆ เช่น WireGuard หรือโปรโตคอลเฉพาะของตนเอง เช่น Lightway ของ ExpressVPN และ NordLynx ของ NordVPN เป็นต้น

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://www.techradar.com/how-to/how-to-setup-and-use-openvpn

การเปลี่ยนไปใช้โปรโตคอลเหล่านี้ ก็อาจช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามเราต้องคำนึงว่าโปรโตคอลเหล่านี้ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างละเอียดเท่า OpenVPN ดังนั้น จึงอาจไม่เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกแรกสำหรับการใช้งานเท่าไร

แอป VPN ส่วนใหญ่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนโปรโตคอลที่ใช้เชื่อมต่อได้ในส่วนของการตั้งค่า ดังนั้นเราควรลองปรับการตั้งค่าโปรโตคอล เพื่อค้นหาโปรโตคอลที่ให้ความเร็วสูงสุดนั่นเอง

4. เปิดใช้งาน คุณสมบัติการแยกอุโมงค์ หากรองรับ (Enable Split Tunneling Features, If Available)

หากผู้ให้บริการ VPN ของเรามีฟีเจอร์การแยกอุโมงค์ (Split Tunneling) ก็ให้ลองเปิดใช้งาน เพื่อดูว่าความเร็วของ VPN นั้นเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ซึ่ง Split Tunneling เป็นฟีเจอร์ในบริการ VPN ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าแอปพลิเคชันหรือข้อมูลใดบ้างที่จะถูกส่งผ่านการเชื่อมต่อ VPN และข้อมูลใดบ้างที่จะถูกส่งผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติที่ไม่ได้เข้ารหัส

ตัวอย่างเช่น หากเรากำลังใช้ VPN สำหรับการสตรีม เราสามารถกำหนดได้ว่าให้การสตรีมผ่าน VPN เท่านั้น ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตในการเล่นเกมออนไลน์ของเรา การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของ VPN  เพราะไม่ต้องรับส่งข้อมูลส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะไม่เป็นภาระต่อแบนด์วิดท์ของเครือข่าย

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://consultdts.com/article/nist-800-171-split-tunneling/

5. ใช้การเชื่อมต่อ แบบมีสาย (Use a Wired Connection)

การใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายแน่นอนว่ามักจะเร็วกว่าการใช้งาน ไวไฟ (Wi-Fi) เนื่องจากในบ้านของเรามีอุปกรณ์หลายเครื่องที่เชื่อมต่อพร้อมกันบนเครือข่าย Wi-Fi ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นต้องแชร์ และแย่งทรัพยากรอินเทอร์เน็ต บนช่องสัญญาณไร้สายเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้การเชื่อมต่อไม่เสถียร และความเร็วลดลง หากผู้ใช้มีอุปกรณ์ที่สามารถต่อสายได้ ก็ลองเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับเราเตอร์โดยตรงผ่าน สายแลน (Ethernet Cable) จากนั้นจึงค่อยเชื่อมต่อกับ VPN ตามลำดับ

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://store.linksys.com/gb/whats-ethernet.html

6. ปิดการทำงาน ของแอปพลิเคชันพื้นหลัง ที่ไม่จำเป็น (Close Unnecessary Apps Running in the Background)

หากมีแอปพลิเคชันใด ๆ ที่ทำงานในพื้นหลังแล้วเราไม่ได้ใช้งาน แอปฯ เหล่านั้นอาจดึงเอาทรัพยากรเครื่องไปใช้ และทำให้การเชื่อมต่อนั้นช้าลง ให้ลองตรวจสอบดูว่ามีอะไรทำงานอยู่ในพื้นหลังบ้าง แล้วปิดแอปพลิเคชันเหล่านั้น ซึ่งการทำเช่นนี้อาจช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน

7. รีสตาร์ทเราเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง (Restart your Router and Other Devices)

บางครั้ง วิธีการที่ง่ายที่สุดเช่น การรีสตาร์อุปกรณ์ ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจได้ เทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ และเราเตอร์ ก็ต้องการการพักผ่อนบ้าง เมื่อรีบูตอุปกรณ์จะช่วยให้เครื่องได้รับการเริ่มต้นระบบใหม่ เพิ่มพื้นที่ว่างใน หน่วยความจำหลัก (RAM) และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นลองปิดแล้วเปิดอุปกรณ์ใหม่อีกครั้ง แล้วตรวจสอบดูว่าความเร็ว VPN ดีขึ้นบ้างหรือไม่

ใช้ VPN แล้วเน็ตช้า ทำยังไงดี ? มาดู 7 วิธีการแก้ไขกัน
ภาพจาก : https://blog.rottenwifi.com/setting-up-a-wifi-router/


การใช้บริการ VPN แม้จะมีประโยชน์ในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเรา แต่ก็อาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลงได้ แต่ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ทั้ง 7 ข้อนี้ที่ได้นำมาฝากทุกคน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ VPN และเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้ลองนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของอุปกรณ์ และการใช้งานของผู้อ่านทุกคน เพื่อให้ได้ประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุด


ที่มา : www.cnet.com

0 %E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89+VPN+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5+%3F+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B9+7+%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
นักเขียน : Editor    นักเขียน
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น