เนื่องจาก ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) ในไทย มี แพ็กเกจเน็ตบ้าน (Home Internet Package) ให้เลือกมากมาย นอกจากจะเลือกตามงบประมาณ ราคาที่จ่ายไหวแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่า ควรเลือกอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วเท่าไหร่ดี ? แพ็กเกจเน็ตแรง ๆ ราคาแพง ๆ ดีจริงไหม ? มาไขข้อข้องใจในการเลือกความเร็วอินเทอร์เน็ตกัน
น่าจะเป็นปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณา สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของสมาชิกในบ้าน แต่ส่วนใหญ่ก็น่าจะหนีไม่พ้นการดู สตรีมมิ่ง (Streaming) อย่าง Netflix, Disney+, VIU ฯลฯ ใช้อัปเดตเหตุการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียที่รวมทั้งโพสต์ภาพนิ่งและวิดีโอ หรือใคร ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ก็ต้องมาดูอีกว่างานหลัก ๆ ต้องอัปโหลด ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่หรือไม่ หรือเช็คอีเมล ทำงานเอกสารเป็นส่วนใหญ่ เพราะความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ใช้ย่อมแตกต่างกันแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม : เปรียบเทียบ Netflix, HBO GO, Disney+ ใช้บริการ สตรีมมิ่ง ดูหนัง ดูซีรีส์ออนไลน์ เจ้าไหนดี ?
อีกปัจจัยสำคัญอย่าง "ราคา" ค่าใช้จ่าย เพราะแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับแต่ละบ้าน ไม่ใช่แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตราคาแพงเสมอไป นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่อยู่นอกเหนือจากแพ็กเกจรายเดือน เช่น ค่าติดตั้ง เดินสาย ค่าเช่าหรือซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม แต่ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะมีโปรโมชันลดราคาหรือแถมฟรีในส่วนนี้ ก็ต้องพิจารณากันดี ๆ ก่อนตกลงเซ็นสัญญา
เนื่องจากบางพื้นที่ในประเทศไทย ผู้ให้บริการบางแห่งยังขยายพื้นที่ที่รองรับการให้บริการไม่ทั่วถึง ฉะนั้น ต้องสำรวจก่อนว่า ณ พิกัดของพื้นที่นั้น ๆ สามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตเจ้าใดได้บ้าง หรือใครที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียม นอกจากสำรวจผูเให้บริการที่รองรับแล้ว อาจต้องติดต่อสอบถามกับนิติบุคคลคอนโดมิเนียมเพิ่มเติม
ถ้าใครยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเลือกเน็ตบ้านยังไงดี ให้ลองทำแบบสอบถามที่ broadbandnow.com จะมีคำถามสำรวจความต้องการให้เลือก เช่น ภายในบ้านมีอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกี่เครื่อง, ใช้งานการประชุมออนไลน์ผ่านระบบวิดีโอ (Video Conference) บ่อยแค่ไหน, ให้ความสำคัญกับความเร็วอินเทอร์เน็ตหรือราคามากกว่ากัน ฯลฯ
ภาพจาก : https://broadbandnow.com/guides/how-much-internet-speed-do-i-need
ใครที่สงสัยว่าความเร็วระดับ Mbps หรือ Gbps นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง มาดูกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม : ความละเอียด 720p, 1080p, 1440p, 2K, 4K, 5K, 6L, 8K, HD, FHD, UHD, QHD, ของหน้าจอ คืออะไร ?
ปัจจุบัน ทางคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารสหรัฐอเมริกา (Federal Communication Commission : FCC) กำหนดไว้ว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์ มีความเร็วในการดาวน์โหลดอย่างน้อย 25 Mbps และการอัปโหลด 3 Mbps และเป็นความเร็วที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวเล็ก สมาชิก 2-3 คน ส่วนครอบครัวขนาดใหญ่ ควรใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วระหว่าง 100-200 Mbps หรือมากกว่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม : KBps กับ MBps หรือ Kbps กับ Mbps หรือ GBps กับ Gbps ต่างกันอย่างไร ?
หากใครเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแล้วสงสัยว่า ทำไมความเร็วที่ได้ไม่ตรงกับชื่อแพ็กเกจ ได้มาแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทางผู้ให้บริการหมกเม็ด ตุกติกหรือเปล่า นอกจากปัญหาความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุแล้ว ยังมีปัจจัยขณะใช้งานที่ทำให้อินเทอร์เน็ตช้าลงร่วมด้วย
แม้การเชื่อมต่อ Wi-Fi จะสะดวกในการใช้งาน สามารใช้งานได้ทุกจุดที่สัญญาณ Wi-Fi กระจายถึง แต่การเชื่อมต่อ Wi-Fi กลับมีความเร็วที่มั่นคงน้อยกว่าการเชื่อมต่อ Ethernet ผ่านสาย LAN ส่วนหนึ่งมาจากตัวบ้านมักจะมีสิ่งกีดขวางสัญญาณอย่างกำแพง บานประตู แต่การใช้สาย LAN คือการต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยตรงนั่นเอง
ภาพจาก : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Ethernet_Connection.jpg
ฉะนั้น หากใครใช้งานที่จำเป็นต้องใช้ความเร็วดาวน์โหลด/อัปโหลดที่เสถียร ไม่แกว่งหรือหลุดง่าย แนะนำให้ใช้สาย LAN ต่อเข้ากับอุปกรณ์จะดีกว่า หรือแก้ปัญหาด้วยการวางอุปกรณ์ให้อยู่ใกล้เราเตอร์ที่สุดโดยไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ
เพราะว่าสัญญาณ Wi-Fi เป็นการกระจายสัญญาณทิศทางรอบเราเตอร์ จึงทำให้สามารถใช้งานที่ไหนก็ได้ "ตราบใดที่ยังอยู่ในรัศมีสัญญาณ" นั่นแปลว่า ถ้าอยู่ใกล้เราเตอร์ก็มีโอกาสที่จะได้รับสัญญาณ Wi-Fi เมื่อยู่ไกลจากเราเตอร์ ความเข้มของระดับสัญญาณก็จะลดลง ประกอบกับตำแหน่งของเราเตอร์บางบ้านมีสิ่งของ เฟอร์นิเจอร์บดบัง ทำให้สัญญาณถูกกีดขวาง และประสิทธิภาพลดลง
ข้อมูลเพิ่มเติม : ตำแหน่งการวางเราเตอร์ ควรเป็นอย่างไร ? เพื่อให่สัญญาณ Wi-Fi กระจายได้ทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีที่ช่วยกระจายสัญญาณให้ไกลกว่าเดิม เช่น ย้ายตำแหน่งเราเตอร์ให้ห่างจากเสาบ้านและกำแพง, ติดตั้งเราเตอร์เพิ่มอีก 1 ตัว เพื่อทำเป็น อุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi (Access Point) ภายในบ้าน, และอาจจะติดตั้ง อุปกรณ์ขยายสัญญาณ (หรือทวนสัญญาณ) Wi-Fi เพิ่มอีก 1 ตัว เพื่อช่วยย้ำสัญญาณ ให้ส่งออกไปให้ไกลขึ้น เป็นต้น
ในบ้าน 1 หลัง จะต้องมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi มากกว่า 1 เครื่องอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค บางคนใช้ Wi-Fi ร่วมกับ สมาร์ททีวี (Smart TV) เครื่องเล่นเกมคอนโซล ไปจนถึงระบบ Home Automation เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน แล้วยิ่งครอบครัวใหญ่ ๆ อุปกรณ์เหล่านี้ก็จะเพิ่มทวีคูณ
หากมีการใช้งาน Wi-Fi ผ่านอุปกรณ์จำนวนมากพร้อมกัน ความเร็วก็จะถูกแจกจ่ายให้กับอุปกรณ์ทุกจุดแบบเฉลี่ย ๆ กันไป และยังไม่นับอุปกรณ์ของผู้ใช้รายอื่นที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ฉะนั้น นี่จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตได้แบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากต้องเฉลี่ยความเร็วให้ผู้ใช้และอุปกรณ์อื่นร่วมด้วย
นอกจากจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อแล้ว รูปแบบการใช้งานก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็วอินเทอร์เน็ต หากใช้งานหนักอย่างการเล่นเกมออนไลน์ ดูสตรีมมิ่ง การประชุมออนไลน์ (Online Meeting) ก็ต้องเลือกอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รองรับการใช้งานหนักพร้อมกันในคราวเดียว
นอกจากความเร็วการอัปโหลด เวลาแฝง (Latency) ตำแหน่งในการใช้งาน อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ "ความเร็วในการดาวน์โหลด/อัปโหลดเฉลี่ย" โดยทั่วไป ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานจริงจะต่ำกว่าความเร็วในแพ็กเกจหรือโฆษณา 20-50% เลยทีเดียว เนื่องจากสิ่งรบกวนสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wireless Internet) และสัญญาณที่ลดลงขณะเคลื่อนที่ หรือใช้งานด้วยอุปกรณ์ไร้สาย เคลื่อนย้ายที่ได้ รวมถึงการชะลอตัวของเครือข่ายจากต้นทาง
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นสายใยแก้วนำแสงหรือไฟเบอร์ออพติก (Fiber Optic) กันแล้ว ซึ่งมีข้อดีในแง่ของความเร็วขณะใช้งาน มีแบนด์วิธ (Bandwidth) ที่เยอะกว่า ทำให้รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันเป็นจำนวนมาก และไม่ถูกรบกวนจากสัญญาณไฟฟ้าภายนอก เนื่องจากเป็นการนำส่งข้อมูลด้วยแสงนั่นเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม : ฝนตกหนัก ลมแรง ทำให้อินเทอร์เน็ตช้า จริงหรือไม่ ?
จากการสำรวจแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการในไทย พบว่าส่วนใหญ่ความเร็วขณะอัปโหลดและดาวน์โหลดที่ 100 Mbps แต่ก็มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบางแบบที่ยังให้บริการความเร็วต่ำกว่า 100 Mbps จึงทำให้บางคนสงสัยว่า ความเร็วต่ำกว่า 100 Mbps จะใช้งานได้จริงไหม คำตอบก็คือ "ใช้งานได้จริง"
เพราะความเร็วเบื้องต้นของอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อยู่ที่ 25 Mbps ซึ่งความเร็วระดับนี้ใช้งานได้หลายอย่าง เช่น
ซึ่งแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำกว่า 100 Mbps เป็นแพ็กเกจ Super Speed Plus จาก NT Broadband หรือ C Internet by Cat มีความเร็วดาวน์โหลด/อัปโหลด 50/50 Mbps ในราคา 590 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการดูวิดีโอ เล่นเกมมากนัก
เช็คแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต เน็ตบ้านจากผู้ให้บริการอื่น ๆ ได้ที่นี่
การเลือกเน็ตบ้านสำหรับครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเลือกแพ็กเกจความเร็วสูง ราคาแพงเสมอไป แต่ยังมีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วเหมาะสมในการใช้งาน แถมราคาก็น่าคบหาให้เลือกมากมาย ประกอบกับผู้ให้บริการในไทยต่างก็มีโปรโมชันลดแลกแจกแถมเรียกลูกค้า หวังว่าวิธีการเลือกเน็ตบ้านจะมีประโยชน์และช่วยให้เลือกแพ็กเกจเน็ตบ้านโดนใจได้ง่ายขึ้น
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |