แชร์หน้าเว็บนี้ :
วิธีติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 บนคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีชิป TPM 2.0 หรือฮาร์ดแวร์ไม่รองรับ หลังจากที่เราได้นำเสนอบทความ วิธีอัปเดต และติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ไปแล้ว ก็มีเพื่อน ๆ สมาชิกหลายคนถามกันเข้ามาหลายคนว่า "ตรวจสอบสเปกแล้วไม่ผ่าน ฮาร์ดแวร์ไม่รองรับ ทำให้ติดตั้งไม่ได้ มีวิธีแก้ไขหรือไม่ ?" คำตอบ คือ "มี" นะครับ บนหน้าเว็บไซต์ของ Microsoft เองก็มีบอกวิธีการเอาไว้
บทความเกี่ยวกับ Microsoft อื่นๆ
ภาพจาก : https://www.pcgamer.com/au/Windows-11-PC-Health-Check/
อย่างไรก็ตาม เขาก็มีคำเตือนด้วยเช่นกันว่า การฝืนติดตั้งอาจทำให้ระบบไม่มีความเสถียร และอาจได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าคิดว่าสเปกคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่น่าจะไหว อยากใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 11 จริง ๆ ก็ทำได้ครับ อย่างมากหากใช้ไม่ไหวจริง ๆ ก็แค่ถอนการติดตั้งเปลี่ยนกลับไปใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เหมือนเดิมก็ได้
สำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ลงบนคอมพิวเตอร์ที่ฮาร์ดแวร์ไม่ผ่านความต้องการของระบบ จะสามารถทำได้อยู่ 2 วิธีนะครับ เลือกวิธีที่ถนัดกันได้เลย
1. ใช้คำสั่ง AllowUpgradesWithUnsupportedTPMOrCPU วิธีการนี้ ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์แนะนำการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ของ Microsoft เลย ถือว่าทำได้ง่ายที่สุด เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ โดยก่อนที่เราจะเริ่ม ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ผ่าน Installation Assistant ให้เราทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
กด "ปุ่ม Window + r" เพื่อเปิดโปรแกรม Run ขึ้นมา พิมพ์ลงไปว่า "regedit" แล้วกด "ปุ่ม Enter"
โปรแกรม Registry Editor จะถูกเปิดขึ้นมา ให้เราไปยังตำแหน่ง "HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\Setup\MoSetup" คลิกขวาที่ "โฟลเดอร์ MoSetup" ในพาเนลด้านซ้ายมือ เลือก "เมนู New" ตามด้วย "DWORD (32-bit) Value" ตั้งชื่อไฟล์ว่า "AllowUpgradesWithUnsupportedTPMOrCPU" ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ AllowUpgradesWithUnsupportedTPMOrCPU เปลี่ยนค่าในช่อง Value data จาก "0" ให้เป็น "1"
ปิดหน้าต่างโปรแกรมแก้ไฟล์รีจิสทรี (Registry Editor) แล้วเริ่มการ ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ไปตามปกติได้เลย อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ลงบนคอมพิวเตอร์ที่ฮาร์ดแวร์ไม่รองรับ จะพบกับการแจ้งเตือนดังภาพด้านล่างนี้ ให้เราคลิก "ปุ่ม Accept" ไป เพื่อยืนยันการติดตั้ง ภาพจาก : https://support.microsoft.com/en-us/windows/installing-windows-11-on-devices-that-don-t-meet-minimum-system-requirements-0b2dc4a2-5933-4ad4-9c09-ef0a331518f1
2. เพิ่มค่า Key ตัวใหม่ในขั้นตอนการติดตั้ง (Setup) สำหรับวิธีการนี้ จะเป็นการเพิ่มค่า Key ตัวใหม่เข้าไป เพื่อบังคับข้ามการตรวจสอบ (Bypass) คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ในขั้นตอนติดตั้ง โดยจะทำได้เมื่อเราใช้วิธี ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ผ่าน Installation Media ซึ่งก็จะมีขั้นตอนการทำดังต่อไปนี้
หลังที่เราทำ USB เป็น Installation Media แล้วบูตคอมพิวเตอร์ใหม่ผ่านไดร์ฟ USB เพื่อเริ่มติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ไปตามปกติ แน่นอนว่าเมื่อฮาร์ดแวร์เราไม่รองรับ เราก็จะพบกับหน้าต่างแจ้งเตือนว่า "This PC can’t Run Windows 11" ก็กด "ปุ่ม Back" เพื่อย้อนกลับไปที่หน้า Installer ภาพจาก : https://min.news/en/tech/5ac6205ed0071f883a9e0c4fa99d4bd1.html
กด "ปุ่ม Shift + F10" เพื่อเปิดหน้าต่าง Command Prompt ขึ้นมา พิมพ์ลงไปว่า "regedit" แล้วกด "ปุ่ม Enter" โปรแกรม Registry Editor จะถูกเปิดขึ้นมา ให้เราไปยังตำแหน่ง "HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\Setup" คลิกขวาที่ "โฟลเดอร์ Setup" ในพาเนลด้านซ้ายมือ เลือก "เมนู New" ตามด้วย "Key" ตั้งชื่อ Key ใหม่นี้ว่า "LabConfig" คลิกขวาที่โฟลเดอร์ LabConfig ในพาเนลด้านซ้ายมือ เลือก "เมนู New" ตามด้วย "DWORD (32-bit) Value" ตั้งชื่อไฟล์ว่า "BypassTPMCheck" ทำตามขั้นตอนใน "ข้อ 8." ซ้ำอีกครั้ง เพื่อสร้างไฟล์ "BypassRAMCheck" และ "BypassSecureBootCheck" เราจะได้มาทั้งหมด 3 ไฟล์ ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ เพื่อเปลี่ยนค่าในช่องใส่ค่า (Value Data) จาก "0" ให้เป็น "1" ทำให้ครบทั้ง 3 ไฟล์
ปิดหน้าต่างโปรแกรม Registry Editor แล้วเริ่มติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ต่ออีกครั้งได้ทันที
3. สร้าง Key ด้วยการทำไฟล์กำหนดค่า Registry วิธีนี้จะคล้ายกับวิธีที่ 2 นะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าง่ายกว่าหรือยากกว่า เพราะมันคล้ายคลึงกัน หากไม่มั่นใจในวิธีแบบที่ 2 ก็ลองทำตามวิธีนี้ดูก็ได้
โดยก่อนที่จะติดตั้ง ให้เราสร้างไฟล์ของ โปรแกรมเขียนโน้ต อย่าง โปรแกรม Notepad ขึ้นมา (หรือจะใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นทำก็ได้) คัดลอกข้อความด้านล่างนี้ไปวางใน Notepad Windows Registry Editor Version 5.00 [HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\Setup\LabConfig] "BypassTPMCheck"=dword:00000001 "BypassSecureBootCheck"=dword:00000001 "BypassRAMCheck"=dword:00000001 "BypassStorageCheck"=dword:00000001 "BypassCPUCheck"=dword:00000001
จะได้เป็นแบบดังภาพด้านล่าง แล้วบันทึกไฟล์เป็นชื่อว่า "bypass.reg" จุดนี้สังเกตว่านามสกุลไฟล์ต้องเป็น .reg นะครับ ไม่ใช่บันทึกเป็น "bypass.reg.txt"
นำไฟล์ bypass.reg ไปใส่ไว้ใน USB ที่เราทำเป็น Installation Media แล้ว
จากนั้นก็บูตเข้า USB ไดร์ฟ เพื่อเริ่มติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 เมื่อพบกับหน้าต่างแจ้งเตือนว่า "This PC can’t Run Windows 11" ก็กด "ปุ่ม Back" เพื่อย้อนกลับไปที่หน้า Installer ภาพจาก : https://min.news/en/tech/5ac6205ed0071f883a9e0c4fa99d4bd1.html
กด "ปุ่ม Shift+f10" เพื่อเปิดหน้าต่าง Command Prompt ขึ้นมา พิมพ์ลงไปว่า regedit แล้วกด "ปุ่ม Enter" โปรแกรม Registry Editor จะถูกเปิดขึ้นมา คลิกที่ "เมนู File" แล้วเลือก "Import..." เลือกไฟล์ bypass.reg จากนั้นมันจะทำการสร้าง Key ขึ้นมาให้เราทันที (เหมือนกับการใช้วิธีที่ 2) ทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows ไปตามปกติ 4. ข้ามระบบตรวจสอบ TPM ภายในระบบปฏิบัติการ Windows วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่อัปเดตผ่านระบบอัปเดตในตัวระบบปฏิบัติการ Windows แต่อัปเดตไม่ได้เพราะตรวจสอบสเปกไม่ผ่าน หากทำตามวิธีที่ 1 ไม่สำเร็จ อาจจะลองใช้วิธีนี้ดู
เมื่อสั่งอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 11 ผ่านตัว Windows Update ให้เราคลิกที่ "เมนู Change how setup downloads updates" แล้วเลือก "Not right now" จากนั้นก็คลิก "ปุ่ม Next" รอสักครู่จนกว่าจะพบหน้าจอแจ้งเตือน "This PC doesn't currently meet Windows 11 system requirements" ภาพจาก : https://www.techpowerup.com/287584/windows-11-tpm-requirement-bypass-it-in-5-minutes
ไปที่โฟลเดอร์ "C:\$WINDOWS.~BT\Sources" แล้วลบไฟล์ "appraiserres.dll" (อย่าลบผิดไฟล์ล่ะ อ่านชื่อไฟล์ให้รอบคอบ) ภาพจาก : https://www.techpowerup.com/287584/windows-11-tpm-requirement-bypass-it-in-5-minutes
กลับไปที่ตัวอัปเดตระบบปฎิบัติการ Windows 11 อีกครั้งแล้วให้คลิกที่ "ปุ่ม Back" แล้วก็คลิก "ปุ่ม Next" เพื่อเริ่มการติดตั้งใหม่อีกครั้ง ภาพจาก : https://www.techpowerup.com/287584/windows-11-tpm-requirement-bypass-it-in-5-minutes
วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่คล้ายคลึงกับในวิธีที่ 4 แต่ต่างกันตรงที่ อันนี้เราจะเข้าไปลบตัว ติดตั้ง Appraiser ออกจาก Installation Media
เปิด "โฟลเดอร์ Sources" ที่อยู่ในตัว USB ไดร์ฟที่เราทำเป็น Installation Media แล้ว ลบไฟล์ "appraiser.dll" และ "appraiser.sdb" เริ่มติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ได้ทันที
สำหรับวิธีการสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกัน คือ การสร้างตัวติดตั้งที่ไม่มีระบบตรวจสอบฮาร์ดแวร์ขึ้นมาด้วย Universal MediaCreationTool Wrapper สิ่งที่โปรแกรมนี้ทำ คือ การเพิ่มค่า Registry ที่ใช้ข้ามการตรวจสอบให้อัตโนมัติ จึงเป็นหนึ่งในวิธีทำที่ค่อนข้างง่าย สำหรับคนไม่อยากเข้าไปซนใน Registry Editor ด้วยตนเอง
หากสนใจวิธีการนี้ ก็อ่านต่อได้เลย
ไปที่เว็บไซต์ https://github.com/AveYo/MediaCreationTool.bat คลิกที่ "ปุ่ม Code" แล้วเลือก "เมนู Download ZIP"
ทำการแตกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาให้เรียบร้อย จะมีไฟล์ที่ชื่อว่า "MediaCreationTool.bat" อยู่ คลิกขวาที่ไฟล์ "MediaCreationTool.bat" เลือก "เมนู Run as administrator" เลือก "11"
เลือก "USB"
จากนั้นจะมีหน้าต่าง Windows 11 Setup ปรากฏขึ้นมา ให้เราเลือกแฟลชไดร์ฟตัวที่จะทำเป็น Installation Media แล้วคลิก "ปุ่ม Next" แล้วรอมันดาวน์โหลดไฟล์
หากสังเกตที่หน้าต่าง MCT Create USB ก็จะพบว่ามันได้เพิ่ม Registry ลงไปในไฟล์ติดตั้งให้เราแล้ว
หากสังเกตที่หน้าต่าง MCT Create USB ก็จะพบว่ามันได้เพิ่ม Registry ลงไปในไฟล์ติดตั้งให้เราแล้ว รอจนเสร็จ แล้วคลิก "ปุ่ม Finish" ในหน้าต่าง Windows 11 Setup แล้วสามารถนำ USB ไดร์ฟไปใช้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 ได้ทันที เท่านี้ ก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะสามารถติดตั้ง ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ได้แล้วนะ แม้จะไม่มีฮาร์ดแวร์ที่ถูกต้องตรงกับความต้องการของตัวระบบก็ตาม
ที่มา : support.microsoft.com , www.techadvisor.com , winbuzzer.com , www.pcgamer.com , min.news , www.techpowerup.com , www.ghacks.net