ทุกวันนี้โลกของเราถูกผลักดันเข้าสู่ยุคแห่งดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราก็มักจะได้เจอคำศัพท์เกี่ยวกับเทคโนโลยีมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR), Mixed Reality (MR) และ Extended Reality (XR) คำย่อเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ก็จริง แต่บางท่านอาจจะไม่สามารถแยกความแตกต่าง และเข้าใจความหมายของคำศัพท์ที่นิยามถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ ดังนั้นบทความนี้เราจะมาช่วยแยกความแตกต่างให้ทุกท่านเห็นภาพไปพร้อมกัน
ภาพมาจาก https://www.siamvr.com/samsung-gear-vr/samsung-new-version-augmented-reality-and-mixed-reality/attachment/gear-vr-augmented-reality-cover/
เชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสมือน Virtual Reality (VR) กันดีอยู่แล้ว เราเจอมันในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็น เกม, ภาพยนตร์, การศึกษา, การแพทย์, ธุรกิจ หรือแม้แต่ประเทศที่มีความก้าวหน้าทางการทหาร นิยามของ Virtual Reality (VR) คือการสร้างภาพจำลองและสภาพแวดล้อมด้วยคอมพิวเตอร์ และให้ผู้ใช้ได้สัมผัสโลกเหล่านั้นผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ เฉกเช่นแว่น VR ที่หลายคนก็อาจจะเคยซื้อมาใช้งานแล้ว โดยการเข้าไปสัมผัสนั้นหมายถึงทั้งรูป รสชาติ สายตา กลิ่น และ เสียง แต่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของกลิ่น และ รสชาติ
สิ่งที่ก้าวหน้าที่สุดของเทคโนโลยี VR ที่เราได้เห็น ณ ตอนนี้ก็คงจะเป็น โลก Metaverse หรือ "จักรวาลนฤมิตร" โลกเสมือนในอุดมคติที่กำลังพัฒนาโดยบริษัท "Meta" หรือ Facebook นั่นเอง และที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี VR ที่มาคู่กับ Metaverse ก็คือระบบการสัมผัสสิ่งของในโลกของ VR ด้วยถุงมือ "Haptic Gloves" ที่จะทำให้เราสามารถหยิบจับของในโลกของ Metaverse ได้จริง ๆ และมีความรู้สึกในการสะท้อนแรงกลับมาที่มือของเราได้ด้วย สิ่งนี้ถือเป็นนวัตกรรมที่ทำให้โลกของ VR ก้าวไปอีกขั้น
การแบ่งประเภทของ Virtual Reality ที่พบเห็นได้และนิยมใช้จำแนกกันมากที่สุดคือเรื่องของประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับ โดยได้มีการแบ่งเอาไว้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
ภาพจาก https://learn.g2.com/virtual-reality
เรียกอีกอย่างว่า "Desktop VR" หากแปลความหมายของ Non-immersive Virtual Reality แบบตรง ๆ ก็คือ Virtual Reality ที่ไม่ใช่ Virtual Reality เพราะคุณจะไม่ได้ดื่มด่ำและสัมผัสประสบการณ์ในโลกเสมือนที่สร้างขึ้นโดยตรง คุณจะทำได้เพียงแค่มองโลกนั้นผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น ยกตัวอย่างชัด ๆ ก็เป็นเกมที่เราเล่นกันโดยทั่วไป หรือไม่ก็เกมในเครื่อง XBOX อะไรพวกนี้ ที่เราจะได้สวมบทบาทเป็นตัวละครในโลกของเกมและก็เพลิดเพลินกับมันผ่านหน้าจอ และ อุปกรณ์ควบคุมอย่าง เมาส์ คีย์บอร์ด หรือ จอยเกม
ภาพจาก https://learn.g2.com/virtual-reality
Semi-immersive Virtual Reality คือการที่คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แบบ VR ส่วนหนึ่งเท่านั้น คุณจะได้เคลื่อนไหวร่างกายตามสถานการณ์ที่จำลองขึ้นมา และได้เห็นมุมมอง หรือ เสียงที่ใกล้เคียงกับการอยู่ในโลกเหล่านั้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ตู้เกมใน Game Center ตามห้างสรรพสินค้า หรือห้องจำลองฝึกบินของนักศึกษาการบิน เป็นต้น
ภาพจาก https://learn.g2.com/virtual-reality
มันก็คือเกม VR หรือภาพยนตร์ VR ที่เราคุ้นชินกันแล้วนั่นเอง ความหมายของ Fully-immersive Virtual Reality คือการมอบความรู้สึกที่ให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์จากโลกเสมือนแบบเต็มที่ อาจจะไม่ได้ครบทั้ง 5 สัมผัสแต่หนึ่งในนั้นที่มีแน่ ๆ แล้วคือ สายตาของคุณเองจะได้เข้าไปมองดูสภาพแวดล้อมประหนึ่งตัวละครในโลกนั้น โดยเทคโนโลยีที่จำเป็นก็คือเหล่าแว่น VR สุดล้ำ หรือยกระดับไปกว่านั้นก็เช่น อุปกรณ์ตรวจจับ Sensor หรือชุด Sensor และพวก Controller ที่ใช้ควบคุมวัตถุในโลก Virtual Reality
คือโลกเสมือนที่เชื่อมต่อผู้คนเข้าถึงโลกแห่งเดียวกัน หรือเรียกอีกอย่างว่า VR Social Platform หมายถึงการที่คุณได้เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับโลกแห่ง VR ร่วมกับผู้คนมากมายโดยยกตัวอย่างเช่น Horizon World ซึ่งเป็นเกมออนไลน์แบบ VR ของ 'Meta' และหากจะบอกว่านี่คือโลกที่ 'Metaverse' ใช้เป็นต้นแบบและกำลังยกระดับตัวเองไปอีกขั้นก็ว่าได้
ภาพจาก : https://www.digitalartsonline.co.uk/features/hacking-maker/everything-you-need-know-about-designing-with-augmented-reality/
Augmented Reality (AR) ไม่เหมือนกับ Virtual Reality (VR) เพราะในขณะที่รูปแบบหนึ่ง ต้องการให้คุณได้เห็นมุมมองของโลกจำลองและเข้าไปสัมผัสกับโลกจำลองที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ แต่ Augmented Reality (AR) กลับเป็นการสร้างวัตถุ หรือ ตัวละคร 3D ให้แสดงอยู่ในสภาพแวดล้อมความจริง ผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ เป็นการผสานความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงบนโลกเข้าด้วยกัน
อุปกรณ์ที่นิยมและเราเห็นอย่างชัดเจนกับการใช้เทคโนโลยี Augmented Reality ก็คือ โทรศัพท์มือถือ ที่จะมีฟังก์ชันเหล่านั้นมาพร้อมกับกล้องหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ตัวอย่างก็เช่นเกม Pokemon GO ที่ทั่วบ้านทั่วเมืองเราเล่นกัน หรือแม้แต่ระบบนำทางแบบ Street View ของ Google Maps ก็มีการใช้เทคโนโลยี Augmented Reality อยู่เช่นกัน
เช่นเดียวกับ VR เทคโนโลยี AR ก็มีการจัดประเภทตามความสามารถเอาไว้โดยจะประกอบด้วย
มีอีกชื่อว่า "Image Recognition" เป็นระบบ AR ที่จดจำภาพหรือวัตถุ (Marker) เพื่อวิเคราะห์และใช้เป็นหลักในการทำงาน จะเห็นได้บ่อย ๆ ในเทคโนโลยีจดจำรูปภาพที่เราใช้กล้องส่องไปและจะมีข้อมูลแสดงขึ้นมา หรือ QR Code ที่ใช้กล้องส่องและแสดงภาพออกมา
เป็นระบบ AR ที่เราพบเห็นได้เยอะในปัจจุบัน ใช้งานง่ายกว่า แค่สแกนพื้นที่รอบ ๆ แทนที่จะเป็นวัตถุหรือภาพที่มันรู้จัก และสร้างวัตถุที่ต้องการซ้อนทับลงไปบนพื้นที่โดยวิเคราะห์ถึงตำแหน่งที่จะวางวัตถุในสภาพแวดล้อมความจริงด้วย ตัวอย่างที่พบได้ง่าย ๆ ก็ "Google Street View", เกม Pokemon GO หรือพวกแอปตกแต่งบ้าน วางเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
คล้ายกับ ๆ เทคโนโลยีเครื่องฉายภาพแต่อยู่ในรูปแบบของ Augmented Reality ผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โดยการสัมผัสที่พื้นผิวที่ฉายภาพลงไปและเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ตอบสนองกับผู้ใช้งาน ตัวอย่างในคลิป เช่น การฉายภาพจำลองแผนที่ภูมิประเทศ หรือ เครืองฉายโฮโลแกรมที่ใช้สั่งเมนูอาหารได้
Augmented Reality Sandbox (แบบจำลองแผนที่ภูมิประเทศบนทราย)
เครื่อง HoloLamp AR AR menu
คือ AR แบบซ้อนทับลงไปบนวัตถุ ระบบต้องจดจำวัตถุดั้งเดิมเพื่อซ้อนทับข้อมูลที่ต้องการ เช่น แอปพลิเคชันออกแบบบ้านที่จำพื้นผิวต่าง ๆ และสร้างเฟอร์นิเจอร์แบบ 3D ทับลงไป หรือที่เราเห็นนิยมกันมาก ๆ ก็คือพวกฟิลเตอร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่าง Instagram, Facebook และ TikTok ที่มันต้องจำวัตถุรูปหน้าของคนและเติมแต่งฟิลเตอร์ลงบนใบหน้า
เนื่องจาก เทคโนโลยี VR และ AR เริ่มถูกใช้อย่างแพร่หลายในเกือบทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ วิศวกรรม อสังหาริมทรัพย์ การทหาร การศึกษาหรือแม้แต่เกม ทำให้เราสามารถเทียบความแตกต่างของ VR และ AR ได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้งานและความง่ายในการเข้าถึง โดยภาพ Infographic นี้ก็จะเป็นข้อมูลที่ชี้วัดถึงการเติบโตและความแตกต่างของ VR และ AR ที่ชัดเจน
จุดเด่นของ Mixed Reality คือการผสานระหว่าง Augmented Reality และ Virtual Reality เข้าด้วยกัน ทำให้วัตถุในโลกเสมือนจริงซ้อนทับกับวัตถุโลกความจริง โดยที่เราสามารถมองเห็นและมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุเหล่านั้นได้ผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ตัวแว่น "Microsoft Hololen" ซึ่งเป็นแว่นฉายภาพโฮโลแกรมที่จะแสดงภาพ 3 มิติผ่านตัวแว่น และให้ผู้ใช้สามารถเอามือไปจับต้องและเปลี่ยนบริบทของตัววัตถุได้ตามต้องการ ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกให้คิดถึงภาพยนตร์ไซไฟต่าง ๆ หรือฉากในหนัง 'IRON MAN' เวลา Tony Stark ออกแบบชุดของตัวเองด้วยโฮโลแกรม สิ่งนั้นแหล่ะคือ Mixed Reality
โดยตัวเทคโนโลยีนี้ได้มีการเอามาปรับใช้ในเรื่องของอุตสาหกรรมซ่อมบำรุง และ การออกแบบ ซึ่งนอกจากจะช่วยเหลือธุรกิจในเรื่องของการลดความสูญเสียจากความผิดพลาดได้แล้ว มันยังทำให้คุณสามารถเห็นภาพของกระบวนการที่ชัดเจนมากกว่าการมองภาพในหน้าจอ หรือมองผ่านโลกเสมือนที่จับต้องไม่ได้
ในขณะที่ Mixed Reality (MR) ถือว่าล้ำแล้ว แต่ Extended Reality (XR) อาจจะก้าวไปอีกขั้น ในการขยายโลกของ VR, AR และ MR ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ พูดง่าย ๆ ก็คือ การนำเอาสภาพแวดล้อมจากโลกเสมือนและโลกความจริงมารวมให้กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันได้ รวมถึงมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์และเครื่องจักรในโลกแห่งความจริง
ถ้ายังไม่เห็นภาพ ให้คุณนึกถึงโลกแห่งหนังไซไฟที่วัตถุทางกายภาพ ปะปนอยู่กับวัตถุแห่งโลกเสมือน เช่น มีป้ายไฟเป็นโฮโลแกรมอยู่ตามถนนหนทางเป็นป้ายบอกทาง หรือ ร้านค้า และเมื่อคุณเดินเข้าร้านเสื้อผ้าก็มีพนักงานต้อนรับเป็น AI แสดงตัวตนออกมาผ่านภาพโฮโลแกรมพร้อมกับกล่าวต้อนรับคุณ เป็นต้น
ภาพจาก : https://vrscout.com/news/augmented-reality-and-our-world-in-2040/
หรือตัวอย่างเช่นในคลิปของช่อง The Gadget Show บน YouTube ที่ทางรายการพยายามจะนำเสนอลักษณะของสภาพแวดล้อมแบบ Extended Reality (XR) โดยในช่วงสำคัญที่อยากให้เห็นคือระหว่างนาทีที่ 4.22 - 4.59 การขยับโต๊ะทำให้โลโก้รายการซึ่งเป็นวัตถุโลกเสมือนเคลื่อนที่ไปด้วย และเมื่อพยายามเล่นกับแสงไฟ หรือ เงา วัตถุโลโก้จำลองก็จะตอบสนองต่อแสงเหล่านั้นด้วย ดังนั้นนี่คงเป็นตัวอย่างที่เราสามารถตีความหมายของ Extended Reality (XR) ได้
โดยทั้งหมดสามารถสรุปได้ว่า Virtual Reality (VR) คือการนำผู้คนเข้าสู่โลกเสมือน Augmented Reality (AR) คือการนำวัตถุหรือเนื้อหาจากโลกเสมือนมาโผล่บนโลกความจริง Mixed Reality (MR) เป็นการนำวัตถุจากโลกเสมือนมาผสานกับโลกความจริงโดยที่ตอบสนองกับสภาพแวดล้อมความจริงได้ ส่วน Extended Reality (XR) คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ผสานโลกความจริงและโลกเสมือนโดยรวมเทคโนโลยี AR, VR และ MR เข้าไว้ด้วยกัน
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |