ไฟล์รีจิสทรี (Registry File หรือ Registry) ที่อยู่บน ระบบปฏิบัติการ Windows ถือเป็นฐานข้อมูลที่เต็มไปด้วยไฟล์ Entry (เอนทรี) ที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ และ ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ (Computer Hardware) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เอนทรีทั้งหลายก็อาจมีไฟล์เสีย, ไฟล์ชำรุด, หรือไม่สามารถใช้งานต่อไปได้จากการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ของคุณ
ซึ่งเราไม่แนะนำให้ใช้โปรแกรมทำความสะอาด Registry เพื่อทำการปรับแต่ง เพราะการใช้โปรแกรมเหล่านั้น อาจทำการเปลี่ยนแปลงค่าอื่น ๆ กับ Registry ที่เกี่ยวข้องไปด้วย และอาจทำให้เกิดความเสียหายตามมา ดังนั้น เราจึงมี 3 วิธีทำความสะอาด Windows Registry อย่างปลอดภัยมาฝาก ขั้นตอนไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด
ก่อนกระทำการใดใดกับ Registry เราขอแนะนำให้ทำการสำรองข้อมูล หรือแบคอัปไว้ก่อนเสมอ เผื่อในกรณีที่คุณลบอะไรในรีจิสทรีไป แล้วไม่สามารถนำกลับมาได้ หรือเกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงกับโปรแกรม จะได้สามารถกลับมาอยู่ในจุดที่มันปกติดังเดิมก่อนการแก้ไขได้
ซึ่งคุณสามารถใช้การสำรองแบบคัดลอกไฟล์ดังกล่าว ไปไว้ในอุปกรณ์สำรองข้อมูลอื่น ๆ เช่น แฟลชไดรฟ์ (USB Flash Drive) หรือสร้าง System Restore Point เพื่อสำรองข้อมูล (Backup) ทั้งระบบปฏิบัติการ ให้สามารถกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมหากผิดพลาดอะไรไป
อ่านเพิ่มเติม : วิธีเปิดใช้งาน และสร้าง System Restore Point บน Windows 11
ทั้งคำสั่ง SFC และ DISM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขไฟล์ชำรุดบนระบบปฏิบัติการ Windows ได้ รวมไปถึงเอนทรีต่าง ๆ ใน Registry ด้วย โดยเครื่องมือดังกล่าวจะทำการสแกนระบบเพื่อค้นหาไฟล์ชำรุดและไฟล์ที่เสียหาย จากนั้นก็จะจัดการแทนที่ หรือซ่อมแซมไฟล์ดังกล่าวให้ รวมไปถึง ไฟล์ System Image ที่มีทั้งไฟล์จิปาถะ, แอปพลิเคชัน, ไดรเวอร์, และการตั้งค่าต่าง ๆ รวมอยู่ในนั้น
sfc /scannow
ส่วนอีกคำสั่งที่น่าสนใจ คือคำสั่ง DISM ใช้เพื่อเรียก โปรแกรม Disk Image Servicing and Management ขึ้นมา เพื่อจัดการกับปัญหาไฟล์อิมเมจเสีย ซึ่งจะใช้ระยะเวลามากกว่าแบบแรก ดังนั้น ให้เวลามันสักหน่อยนะ
DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth
โปรแกรม Disk Cleanup จริงๆ แล้วไม่ได้ทำความสะอาด Registry โดยตรง แต่ช่วยลบโปรแกรมเศษที่เหลือตกค้างจากการทำงานของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้ถูกลบไปพร้อมกับการถอนการติดตั้ง (Uninstall) ซึ่งในบางครั้ง การเหลือไฟล์ตกค้างดังกล่าว ก็ทำให้บรรดาเอนทรีที่เหลือ ไปขัดขวางการทำงานของโพรเซสเครื่อง ทำให้คอมพิวเตอร์ของเราเกิดการขัดข้องขึ้นได้
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่รู้จุดเอนทรีหรือคีย์ที่ต้องการลบโดยตรง เพราะสามารถลงไปแก้ไข และกำหนดจุดที่ต้องการเองได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่เชี่ยวชาญในการแก้ไข Registry แนะนำให้หาผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปรับแต่งระบบมาจัดการจะดีกว่า
หากต้องการลบคีย์รีจิสทรีที่เหลือตกค้างจากโปรแกรมที่ถูกลบไปแล้วล่ะก็ สามารถไปตามลบได้จากการค้นหาชื่อโปรแกรมที่เพิ่งลบไปได้เลย โดยคลิกที่ "เมนู Edit" จากด้านบนแล้วเลือก "เมนู Find..." แล้วพิมพ์ชื่อโปรแกรมที่ต้องการลงไป
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |