เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักคำว่า "ฮาร์ดแวร์" (Hardware) และ "ซอฟต์แวร์" (Software) ซึ่งกว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ก็ต้องประกอบด้วยสองสิ่งนี้ แล้ว ฮาร์ดแวร์คืออะไร ? ความหมายและลักษณะของคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์เป็นอย่างไร ?
คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ คือ คำศัพท์อธิบายส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มีลักษณะทางกายภาพ และเป็นรูปร่างที่ชัดเจน ทั้งส่วนประกอบภายนอก และภายในที่สามารถจับต้องหรือถอดออกมาเปลี่ยนได้ โดยคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่ทุกคนคุ้นเคยมีทั้ง จอภาพ (Monitor), เมาส์ (Mouse), แป้นพิมพ์ (Keyboard), ลำโพง (Speaker), หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), แผงวงจรหลัก หรือ มาเธอร์บอร์ด (Motherboard) และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้นมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่หน้าที่ส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ คือ
แต่ก่อนจะเป็นคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ในยุคแรกถูกพัฒนามาจากหลอดสุญญากาศในปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) จนกลายเป็นวงจรรวม (Intergrated Circuit) ในและคอมพิวเตอร์ทรานซิสเตอร์ (Trancistor Computer) ในเวลาต่อมา จากคอมพิวเตอร์หลอดสุญญากาศ พัฒนากลายเป็นอุปกรณ์โซลิดสเตตที่ลดทั้งขนาดและต้นทุนการผลิต รวมถึงหน่วยความจำหลัก (Main Memory) ที่พัฒนาจากหน่วยความจำแกนแม่เหล็กเป็นหน่วยความจำเซมิคอนดัคเตอร์ จนถูกบัญญัติให้เป็นยุคที่สองของประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์
ตัวอย่างคอมพิวเตอร์จากหลอดสุญญากาศ (Vacuum Tube Computer)
ภาพจาก : https://www.flickr.com/photos/wkratz/9462060602
ส่วนยุคที่สามของประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ ในปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) Jack Kilby วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ชาวอเมริกันประดิษฐ์และจำหน่ายไมโครชิปครั้งแรกของโลก ซึ่งพัฒนามาจากวงจรรวมตั้งแต่ในยุคแรก การใช้งานในยุคแรกเป็นแบบฝังตัวไปกับคอมพิวเตอร์ Apollo Guidance สำหรับนำทางและควบคุมยานอวกาศของ NASA, ขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป, คอมพิวเตอร์ Central Air Data สำหรับควบคุมเครื่องบินขับไล่ F-14A Tomcat ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ไมโครชิปยังถูกนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ในช่วงแรก ๆ เช่น บริษัทไอทีชื่อดังอย่าง IBM นำไมโครชิปไปใช้เป็นมาตรฐานในการสั่งการ ควบคุมคอมพิวเตอร์ หรือ ICs (Incident Command System) ในคอมพิวเตอร์เมนเฟรม System/360 Model 85 หลังจากนั้นก็ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในคอมพิวเตอร์ System/370 ที่เริ่มจำหน่ายในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514)
คอมพิวเตอร์ IBM System 360/Model 85
ภากจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/IBM_System/360_Model_85
ยิ่งไปกว่านั้น เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) มีหลายบริษัทเปิดตัวและจำหน่ายคอมพิวเตอร์ 16 บิต เช่น Hewlett-Packard หรือแบรนด์ HP ในปัจจุบัน, คอมพิวเตอร์ Nova จากแบรนด์ Data General และเป็นช่วงเวลาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เริ่มมีบทบาท เช่น Illiac IV คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกที่ใช้วงจรรวม ECL, IBM ES9000 9X2, DEC VAX 9000 และ Cray T90
ประวัติศาสตร์ของคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ยุคที่สี่ เหตุการณ์สำคัญคือ การสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ (Micro Processor) จากบริษัทอินเทล (Intel) จากเดิมที่คอมพิวเตอร์ในยุคที่สาม เกิดจากการลดขนาดของคอมพิวเตอร์เมนเฟรม แต่ในยุคที่สี่จะไม่ใช่การสร้างคอมพิวเตอร์ด้วยการลดขนาด แต่เป็นการพัฒนาชิปประมวลผลและความจุของพื้นที่เก็บข้อมูล แต่เทคโนโลยีพื้นฐานยังคงเดิมจนถึงปัจจุบัน
ตารางพัฒนาการไมโครโปรเซสเซอร์
ภาพจาก : https://learn.saylor.org/mod/page/view.php?id=22020
หากอธิบายกันแบบง่าย ๆ คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ คือ ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าส่วนประกอบนั้น ๆ จะอยู่ภายนอกหรือภายใน มองได้ด้วยตาเปล่าหรือไม่ ประกอบเข้ากันจนเป็นคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง แต่คอมพิวเตอร์จะทำงานด้วยตัวเองไม่ได้ หากไม่มีระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์
ส่วนซอฟต์แวร์ ก็คือโปรแกรมต่าง ๆ ที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินการตามคำสั่งของผู้ใช้งานจนสัมฤทธิ์ผล ได้เป็นไฟล์หรือชิ้นงานที่ต้องการ ซึ่งนอกจากซอฟต์แวร์แล้ว ยังมีคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์สำหรับส่วนประมวลผล เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลจนได้ผลลัพธ์ที่ต้องการนั่นเอง
เนื่องจากคอมพิวเตอร์มีชิ้นส่วนหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นตัวเคสครอบ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU), เมาส์ (Mouse) หรือแม้แต่ แป้นพิมพ์ หรือคีย์บอร์ด (Keyboard) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ ซึ่งชนิดของฮาร์ดแวร์ก็ยังแบ่งได้อีกหลายประเภท แต่ถ้าแบ่งแบบคร่าว ๆ ก็จะแบ่งได้ 2 แบบ คือ
จะเห็นได้ว่า นี่เป็นการแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่ง่ายและชัดเจน แบบแรกก็คือชิ้นส่วน อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอกคอมพิวเตอร์ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่วนแบบที่สองก็คือชิ้นส่วนภายใน จำพวกแผงวงจร ชิปประมวลผล ระบบระบายความร้อนต่าง ๆ นั่นเอง
ตัวอย่างคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ชนิดต่าง ๆ
ภาพจาก : https://www.techtarget.com/searchnetworking/definition/hardware
สำหรับคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่เป็น Input Device ก็คือฮาร์ดแวร์ที่ใช้ป้อนข้อมูลต่าง ๆ เข้าสู่คอมพิวเตอร์ หรือกระทำการใด ๆ เพื่อให้เกิดไฟล์ ชิ้นงานในคอมพิวเตอร์ เช่น
หาก Input Device คือฮาร์ดแวร์ที่นำข้อมูลเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ Output Devices ก็คือฮาร์ดแวร์ที่นำส่งข้อมูลออกมาจากคอมพิวเตอร์นั่นเอง
ส่วนคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ภายใน ก็คือชิ้นส่วนที่อยู่ภายใต้ตัวเครื่องภายนอกนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นแผงวงจร ชิปประมวลผล ส่วนประกอบของกลไก อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่เข้าข่ายความเป็นฮาร์ดแวร์ ซึ่งคอมพิวเตอร์จะทำงานไม่ได้เลยหากขาดฮาร์ดแวร์ส่วนนี้ไป เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์นั้น ๆ มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์
ถือเป็นหัวใจสำคัญของคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว เพราะนี่คือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หลักที่เชื่อมโยงฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนประกอบของ Motherboard หลายชิ้นก็คือคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์เช่นกัน เช่น CPU, GPU, Storage เป็นต้น
ภาพจาก : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:NeXTcube_motherboard.jpg
ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลผ่านชุดคำสั่งของซอฟต์แวร์ อ่านข้อมูลจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เขียนข้อมูล ส่งผลการประมวลผล และควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ภายในและอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
หน่วยประมวลผลกราฟิก หรือ GPU ถือเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อีกจุดหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากทำหน้าที่ประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ โดยผลลัพธ์จาก GPU จะแสดงผลผ่านจอภาพผ่านพอร์ตเชื่อมต่อ ต่าง ๆ บนการ์ดจอในเครื่อง
ข้อมูลเพิ่มเติม : DisplayPort กับ HDMI พอร์ตจอคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 นี้ต่างกันอย่างไร ? เลือกใช้พอร์ตไหนดี ?
ภาพจาก : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:AMD_Radeon_HD_7970M_GPU-top_upright_PNr%C2%B00814.jpg
เป็นแผงวงจรซิลิคอนที่เสียบติดอยู่กับเมนบอร์ด ทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำหลักเพื่อเก็บข้อมูล เป็นตัวส่งผ่านข้อมูลจากอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ต่อพ่วง, อุปกรณ์รับข้อมูลเข้า (Input Devices) ไปยัง CPU และเมื่อ CPU ประมวลผลข้อมูลเรียบร้อยแล้ว RAM ก็จะเป็นที่เก็บข้อมูลส่วนนี้ แล้วส่งต่อไปยังอุปกรณ์แสดงผลภายนอก (Output Device) เช่น จอมอนิเตอร์ พรินต์เตอร์ ต่อไป
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage Device) หากสมองของคนเรามีส่วนคำนวณ ประมวลผลแล้ว นี่ก็คือส่วนของความจำ สำหรับบันทึกไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ และยังเป็นจุดที่ส่งคำสั่งไปยัง CPU เพื่อให้ CPU ประมวลผลข้อมูลต่ออีกด้วย โดย Storage Device ในคอมพิวเตอร์มีทั้งหน่วยความจำถาวร (Harddisk) รวมถึง SSD (Solid-State Drive) ที่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนิยมใช้กันมากขึ้น
เนื่องจากคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามามากมาย เช่น สั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัส ปากกา ชิปประมวลและชิปกราฟิกที่ทำงานรวดเร็ว แรงสะใจ ประกอบกับตัวเครื่องมีขนาดเล็กและราคาที่ถูกกว่าแต่ก่อนมาก ๆ แล้วอย่างนี้ อนาคตของ คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ จะเป็นไปในทิศทางใด ?
เว็บไซต์ newerapost.com ได้คาดคะเนความเป็นไปได้ของคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในอนาคตไว้ว่า
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD จะสามารถขยายความจุสูงสุดถึงระดับเอ็กซาไบต์ (1 เอ็กซาไบต์ = 1,000,000 เทราไบต์) มาพร้อมอัตราการอ่านและเขียนความเร็วสูง
เทคโนโลยีอื่น ๆ พัฒนาขึ้นจากเดิม เช่น Wi-Fi, LAN, อินเทอร์เน็ต (Internet) ที่มีค่า Latency ต่ำ ฯลฯ
คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) หรือการใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ตจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากค่าบริการถูกลง สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ การใช้งานคอมพิวเตอร์ราคาแพงจะลดลง การใช้งานคอมพิวเตอร์พื้นฐานจะเข้าถึงได้จากทุกที่
หน้าจอแสดงผลจะสามารถแสดงภาพโฮโลแกรมได้ ผ่านจอภาพชนิด Interactive Holographic Display แม้จะยังไม่เทียบเท่าการแสดงผลอันทันสมัยแบบในภาพยนตร์ไซ-ไฟ แต่สามารถสื่อสารรูปแบบใหม่ผ่านคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น
เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) จะไม่จำกัดแค่ในคอมพิวเตอร์ ในแว่น VR และโทรศัพท์มือถือ แต่จะย้ายไปอยู่ในคอนแทคเลนส์แทน
ในอนาคต คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์จะพัฒนาไปตามเนื้อหาด้านบนหรือไม่ ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบที่แน่ชัด แต่อนาคตของเทคโนโลยีล้วนมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้ต้นทุน ราคาที่ถูกลง และสิ่งที่พัฒนาตามคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ก็คือ ลักษณะการใช้งานของผู้ใช้อย่างเรา ๆ นั่นเอง ในอนาคตคอมพิวเตอร์อาจเปลี่ยนรูปร่าง รูปแบบ เทคโนโลยีไปไกลเกิดจะคาดคิดก็เป็นได้
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |