ในอดีต เวลาที่เราเลือกซื้อการ์ดจอ (หรือกราฟิกการ์ด) เราไม่ต้องสนใจอะไรมากนัก เลือกที่ความเร็วกันเป็นหลัก แต่วิธีการเช่นนี้อาจใช้ไม่ได้แล้วในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณต้องการเล่นเกมที่ ความละเอียดสูงระดับ 4K รวมไปถึงเกมยุคใหม่ที่ใช้เอนจิ้นกราฟิกทรงพลังอย่าง Ray Tracing กันเลย
โดย หน่วยความจำการ์ดจอ VRAM นั้นถือว่าเป็น หน่วยความจำหลัก RAM ของการ์ดจอ เป็นหน่วยความจำที่มีอยู่ในตัวการ์ดจอ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการเก็บ และประมวลผลข้อมูลที่จำเป็นต่อการเรนเดอร์ภาพ และกราฟิก ให้กับคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ
ตัว VRAM นั้นแตกต่างจาก RAM ในคอมพิวเตอร์ โดย VRAM ออกแบบมาให้มีแบนด์วิธสูงมาก เพื่อรองรับกับข้อมูลกราฟิกขนาดใหญ่ที่การ์ดจอสร้างขึ้นมา
ยิ่งตัวการ์ดจอมี VRAM ขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ ก็หมายความว่ามันจะมีพื้นที่ให้เก็บข้อมูล และเรียกใช้งานได้มากขึ้น ส่งผลให้การเรนเดอร์มีความเร็วเพิ่มขึ้น และมีประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้น มันจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนเมื่อตัวกราฟิกการ์ดต้องรับมือกับการเล่นเกม หรือทำงานด้านกราฟิก
นอกจากนี้ VRAM ยังมีบทบาทสำคัญในการแสดงผลของหน้าจอที่มีความละเอียดสูง เนื่องจากภาพความละเอียดสูงจะมีจำนวนพิกเซลเป็นจำนวนมาก นั่นหมายความว่าขนาดข้อมูลที่ต้องใช้ในการเรนเดอร์ภาพจึงสูงตามไปด้วย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม VRAM ของการ์ดจอถึงมีผลต่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม 4K หรือทำงานกราฟิกที่มีความซับซ้อน
Ray Tracing คือเทคโนโลยีการจำลองแสงภายในเกมให้สมจริงเหมือนดั่งตาเห็น หลังจากที่ Nvidia เปิดตัวการ์ดจอตระกูล RTX ออกมา ตลาดการ์ดจอก็เริ่มหันแข่งขันกันที่ความสามารถในการทำ Ray Tracing
ในการจำลองแสงให้เนียนตาของ Ray Tracing จะต้องอาศัยการคำนวณข้อมูลจำนวนมหาศาล เพราะข้อมูลแสงที่เกิดขึ้นมีหลายส่วนมาก ทั้งแหล่งกำเนิดแสง, แสงสะท้อน, เงา ฯลฯ ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกเก็บพักไว้ใน VRAM เพื่อให้การ์ดจอสามารถดึงไปใช้คำนวณได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากคุณมีแผนจะเล่นเกม 4K แบบเปิด Ray Tracing ขนาดของ VRAM ของการ์ดจอเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คุณควรพิจารณาเลยล่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม : เทคโนโลยี Ray Tracing คืออะไร ? และมันทำงานอย่างไร ?
เราอธิบายไปแล้วว่า VRAM ขนาดใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นต่อการแสดงผลในความละเอียดสูง และการทำ Ray Tracing อย่างไร แต่ถ้าเราไม่ได้เล่น ความละเอียด 4K และยังมีความสุขกับ ความละเอียดแบบ Full HD อยู่ และไม่สนใจที่จะใช้ Ray Tracing หากเป็นแบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้ VRAM ขนาดใหญ่หรือเปล่า ?
คุณภาพของการเรนเดอร์ในสมัยนี้ก็ต้องการ VRAM มากกว่าในอดีตอยู่ดี เนื่องจากคุณภาพของกราฟิกในปัจจุบันก็พัฒนามาไกลกว่าในอดีต เราสังเกตง่าย ๆ ได้จากกราฟิกพื้นผิวต่าง ๆ เช่น ขนของเสื้อผ้า, เส้นผม, น้ำทะเล, ต้นไม้, หญ้า ฯลฯ ในปัจจุบันนี้จะมีความสมจริงกว่าสมัยก่อนมาก
ภาพจาก https://youtu.be/6fFpxrUbIyc
คุณภาพของกราฟิกพื้นผิวโมเดล รวมไปถึงฉากต่าง ๆ ที่มีรายละเอียดสมจริงมากขึ้น ทำให้ขนาดไฟล์ใหญ่ตามไปด้วย ส่งผลกระทบต่อความต้องการของ VRAM ที่ต้องใช้ให้สูงขึ้นมากไปด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ต่อให้คุณไม่ได้เล่นเกม 4K ไม่ได้เปิด Ray Tracing แต่หากคุณต้องการเล่นเกมระดับ AAA ที่มีกราฟิกคุณภาพสูง คุณก็ต้องการการ์ดจอที่มีขนาด VRAM สูงอยู่ดี
ในขณะที่ส่วนใหญ่แล้ว เหตุผลที่เราซื้อการ์ดจอแรง ๆ มี VRAM ขนาดใหญ่ก็เพื่อคุณภาพในการเล่นเกม แต่อันที่จริง VRAM มีประโยชน์ในการทำงานด้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน หากคุณต้องการใช้คอมพิวเตอร์เพื่องานอย่าง การทำการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning), การตัดต่อวิดีโอ, การทำโมเดล 3 มิติ ฯลฯ งานในลักษณะนี้ก็ต้องการขนาด VRAM ที่มากเช่นกัน
ภาพจาก https://github.com/NVlabs/instant-ngp
ทีนี้ ก็น่าจะเข้าใจความสำคัญของขนาด VRAM กันแล้วนะครับ ในการเลือกซื้อการ์ดจอตัวถัดไป ก็อย่าลืมพิจารณาถึงลักษณะการใช้งานของเราด้วย ว่าซอฟต์แวร์ที่เราต้องการใช้ต้องการ VRAM ขนาดเท่าไหร่ ? และอย่าซื้อพอดีเป๊ะ เพราะควรเหลือทรัพยากรเผื่อไว้ให้ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ด้วย เช่น เกมบอกว่าต้องการ VRAM 8 GB. เราก็ควรจะใช้การ์ดจอที่มี VRAM สัก 12-16 GB.
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |