วิธีเล่น Pokemon GO กับเทคนิค ฉบับสมบูรณ์ที่ใครๆ ต้องรู้

รู้จักกับเกมส์ Pokemon Go

Pokémon GO เป็นมัลติเพลเยอร์เกมส์ ที่เล่นโดยอ้างอิงจากตำแหน่งของตัวผู้เล่น โดยผสมผสานระหว่าง Location-based กับ Augmented reality มีให้เล่นทั้งบน iOS และ Android ตัวเกมส์ดาวน์โหลดมาเล่นได้ฟรี แต่มี In-app ให้เสียเงินซื้อไอเทมได้ ในประเทศไทยเพิ่งจะเปิดให้เล่นกันไปสดๆ ร้อนๆ เลย

รูปแบบการเล่น

เกมส์เริ่มต้นมา โดยมีโปเกม่อนให้เลือก 4 ชนิด คือ Venusaur, Charizard, Blastoise และ Pikachu (วิธีเลือก Pikachu ตอนเริ่มเกมส์) เกมส์ไม่มีเนื้อเรื่องเหมือนกับภาคบนเครื่องคอนโซล ตัวเกมส์จะอ้างอิงแผนที่จากโลกจริง เราต้อง "เดิน" ไปยังตำแหน่งต่างๆ บนแผนที่เพื่อค้นหาและจับโปเกม่อน นอกจากนี้ยังมี Poke Stops ให้เราไปค้นหาไอเท็ม และ Poke Gym ให้เราไปท้าสู้และยึดตำแหน่งหัวหน้ายิมด้วย

ตอนนี้ (8/8/2559) ภายในเกมส์มีโปเกม่อนให้จับทั้งหมด 151 ตัว Pokemon ที่จับมาได้ สามารถพัฒนาความแข็งแกร่ง และแปลงร่างไปขั้นต่อไปได้ (Pokemon บางตัวอาจจะแปลงร่างไม่ได้)

วิธีเลือก Pikachu เป็นโปเกม่อนเริ่มต้น

เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของใครหลายๆ คนเลย ไม่ว่าจะแฟนบอยหรือคนทั่วไป สำหรับเจ้า Pikachu นี้ ซึ่งถ้าใครอยากถือฤกษ์งามยามดี จับเจ้าหนูไฟฟ้าเป็นตัวแรกของเกมส์ ก็สามารถไปดูวิธีการจับ Pikachu ได้ที่นี่เลย

วิธีจับโปเกม่อน

คิดว่าหลายๆ คนที่เริ่มเล่น Pokemon GO คงต้องมีปัญหากับการปา PokeBalls แน่นอน เบี้ยวบ้าง ไม่โดนบ้าง โดนแล้วไม่จับบ้าง เพราะฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า มีเรื่องอะไรที่ต้องรู้เกี่ยวกับการปาบอลจับโปเกม่อนบ้าง

• ทิศทางของการปาบอล

พื้นฐานของการปาบอลเลยก็คือทิศทาง ถ้าเราลากเส้นไปในทิศทางไหน บอลก็จะพุ่งตรงไปในทิศทางนั้น อย่างแรกที่ต้องฝึกก็คือ ลากนิ้วไปให้ตัวกับตัวโปเกม่อน

• ตำแหน่งของโปเกม่อน

บางครั้งเราปาไปตรงตัวโปเกม่อนแล้ว แต่ก็ไม่ถึงบ้าง เลยข้ามหัวไปบ้าง เป็นเพราะว่าตำแหน่งของโปเกม่อนแต่ละตัวที่เราเจอต่างกัน ส่วนใหญ่โปเกม่อนตัวเล็กๆ มักจะอยู่ใกล้ ตัวใหญ่ๆ จะอยู่ไกล และตัวที่บินได้ก็จะอยู่ไกลออกไปอีก เพราะฉะนั้น เราต้องกะแรงดีๆ เมื่อเจอตัวใหญ่ๆ ให้ลากนิ้วโยนบอลไปให้ไกลขึ้นนั่นเอง

• จังหวะของการจับ

บางที เราก็ปาไปโดนแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงยังไม่จับล่ะ? โปเกม่อนทุกตัวจะมีจังหวะในการต่อต้านอยู่ (ช่วงที่เคลื่อนไหวแปลกๆ หรือกระโดดหลบบอล) ซึ่งถ้าบอลโดนในช่วงนั้น ก็จะไม่สามารถจับได้ ต้องหาจังหวะการปาดีๆ

นอกจากจังหวะของโปเกม่อนแล้ว เพื่อนๆ จะสังเกตเห็นวงกลมสีเขียว รอบๆ ตัวโปเกม่อน ซึ่งเป็นคะแนนโบนัสของผู้เล่น เมื่อปาบอลได้แม่นยำเข้าเป้าเป๊ะๆ นั่นเอง โดยวงกลมจะแบ่งออกเป็น 3 ขนาด (Nice, Great และ Excellent) ยิ่งวงเล็ก ก็จะยิ่งได้รับคะแนน XP โบนัสสูงขึ้น

• ระดับความยากของโปเกม่อนที่พบ

ระหว่างที่เรากำลังถือบอลเตรียมจับโปเกม่อน จะมีวงกลมล้อมรอบโปเกม่อนแต่ละตัวอยู่ (จากข้อที่แล้ว) สีเขียวบ้าง เหลืองบ้าง แดงบ้าง ซึ่งสีเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกความยากในการจับ (วัดจากค่า CP ของโปเกม่อนกับเลเวลของผู้เล่น) จับได้ง่ายจะเป็นสีเขียว ระดับความยากจะเพิ่มขึ้น เมื่อเป็นสีเหลืองและแดง ตามลำดับ

• ปาบอลด้วยลูกโค้ง

นอกจากการปาบอลตรงๆ แล้ว ยังมีการปาด้วยลูกโค้งที่ทำให้ได้คะแนนพิเศษและเพิ่มโอกาสในการจับโปเกม่อนให้สำเร็จมากขึ้นอีกด้วย โดยวิธีการปาก็คือ หมุน Poke Balls เป็นวงกลมก่อนปา วิถีโค้งจะเป็นไปตามทิศทางที่เราหมุน หากหมุนตามเข็มนาฬิกา บอลจะโค้งขวา สลับกัน หากหมุนทวนเข็ม บอลจะโค้งไปทางซ้าย

ซึ่งการปาด้วยลูกโค้ง เราต้องเผื่อแรงกว่าการปาปกติ เพื่อให้ได้ระยะทางที่เท่ากัน เมื่อจับโปเกม่อนด้วยการปาลูกโค้งสำเร็จ จะได้รับ XP โบนัสเพื่อเติมเล็กน้อยด้วย

• ตัวช่วยในการจับโปเกม่อน

เกมส์นี้มีไอเทมทั่วไปในการจับโปเกม่อนอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ Poke Balls, Great Balls, Ultra Balls และ Razz berry ซึ่งลูกบอล 3 อย่างแรกมีไว้จับโปเกม่อนที่ CP สูงๆ ได้ง่ายขึ้น ตามลำดับ ส่วน Razz berry มีไว้สำหรับเพิ่มโอกาสไม่ให้โปเกม่อนหนีไป อยู่กับเรานานขึ้น

นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยล่อโปเกม่อนอีก 2 รูปแบบ ก็คือ Incense และ Lure Module ที่ความสามารถก็คือภายใน 30 นาที โปเกม่อนในบริเวณนั้นๆ จะวิ่งเข้ามาให้เราได้จับกัน โดยเมื่อเรายืนเฉยๆ อยู่กับที่ ทุกๆ 3 นาที จะมีโปเกม่อนโผล่มาหา 1 ตัว แต่ถ้าเรายิ่งเดินเยอะ โปเกม่อนก็จะโผล่ขึ้นมามากขึ้น

ความแตกต่างในการใช้งานของไอเทม 2 ชิ้นนี้ ก็คือ Incense จะใช้กับตัวผู้เล่นเอง ส่วน Lure Module จะใช้กับ Poke Stop เป็นหลัก และผู้เล่นคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ Poke Stop จะได้รับผลไปด้วยเช่นกัน

วิธีการวิวัฒนาการโปเกม่อน

เกมส์ Pokemon GO มี 2 วิธีที่ทำให้โปเกม่อนที่มีอยู่แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการ Power Up และ Evolve (หรือที่เรียกว่าวิวัฒนาการ) ที่ต้องใช้ Candy เป็นวัตถุดิบ ซึ่งในส่วนของการ Evolve โปเกม่อนส่วนใหญ่สามารถวิวัฒนาการได้ 1 - 2 ครั้งด้วยกัน และต้องใช้ Candy จำนวนมากพอสมควร แล้วเราจะหา Candy จากไหนล่ะ?

สมมติว่า ผู้เล่นต้องการที่จะ Evolve โปเกม่อน Psyduck ที่ต้องใช้ Psyduck Candy จำนวน 50 เม็ดด้วยกัน สิ่งที่ต้องทำก็คือไปทำการจับ Psyduck ตัวอื่นๆ เพิ่ม ผู้เล่นก็จะได้รับ Psyduck Candy เพิ่มมา 3 เม็ด

นอกจากนี้ หากผู้เล่นทำการ Transfer ส่งโปเกม่อนตัวนั้นๆ กลับไปหา Professor ผู้เล่นก็จะได้รับ Candy เพิ่ม 1 เม็ดอีกด้วย และในเมนูที่เลือก Transfer จะสามารถตั้ง Favorite โปเกม่อนตัวโปรด ไม่ให้เราเผลอกด Transfer ลบทิ้งไปได้ อย่าลืมใช้งานกันนะครับ

ค่า CP คืออะไร

ในภาคนี้จะต่างจากโปเกม่อนภาคอื่นๆ ในภาคอื่นจะมีการวัดค่าความเก่งของโปเกม่อนจากค่า IV (Individual values) แต่ใน Pokemon Go จะวัดกันที่ CP (Combat Point) แทนซึ่งมันคือค่าพลังโจมตีของตัวโปเกม่อน ยิ่งค่านี้สูงเท่าไหร่ โปเกม่อนของเราก็แข็งแกร่งเท่านั้น ดูได้จากตัวเลขใต้ชื่อโปเกม่อน

เราสามารถพิจารณาว่าโปเกม่อนของเราแข็งแกร่งขนาดไหนได้โดยดูจากหลอดสีขาวใต้ตัวเลข  หากมันเกือบเต็มครึ่งวงกลมแสดงว่าค่า CP ของโปเกม่อนตัวนี้แข็งแกร่งเกือบสุดแล้ว

อย่างไรก็ตามค่า CP สูงสุด จะขึ้นอยู่กับเลเวลของตัวผู้เล่นเองด้วยนะครับ ค่าพลังสูงสุดสามารถเพิ่มได้ เมื่อเลเวลของเราสูงขึ้นด้วย

แปลงร่างโปเกม่อนอย่างไรให้ได้ค่า CP สูงๆ / วิธีคำนวนค่า CP

ยิ่งเลเวลตัวละครของเราสูงเท่าไหร่ การจะมีโอกาสพบเจอโปเกม่อนที่มีค่า CP สูงๆ ก็จะเยอะตามครับ แต่ว่าค่า CP นี้สามารถเพิ่มเองได้ โดยมีอยู่ 2 วิธี คือ POWER UP และ EVOLVE 

งานนี้เราต้องมีไอเท็มที่จำเป็นต้องใช้ คือ STARDUST และ POKEMON CANDY 

เราสามารถคำนวนค่า CP คร่าวๆ เมื่อ EVOLVE ได้ด้วยการใช้บริการของ https://pogotoolkit.com/ แค่เข้าไปเลือกชนิดของโปเกม่อน แล้วใส่ค่า CP เข้าไป เว็บจะคำนวนให้เราอัตโนมัติ ซึ่งค่าที่ได้นี้จะมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากครับ ทีนี้เราก็สามารถคิดได้ละว่า เราควรเอาโปเกม่อนตัวไหนมา EVOLVE ให้กรณีที่เรามีตัวนั้นซ้ำกัน แต่คนละร่าง 

STARDUST และ POKEMON CANDY หาจากที่ไหน

STARDUST นั้นเราสามารถหาได้จาก 3 ช่องทาง

1. เมื่อเราจับโปเกม่อนสำเร็จ
2. เมื่อคุณฟักไข่สำเร็จ
3. เมื่อป้องกันยิมได้สำเร็จ

POKEMON CANDY นั้น จะได้มาเมื่อเราจับโปเกม่อนได้สำเร็จ หรือทำการ Transfer ส่งโปเกม่อนให้ศาสตราจารย์
*เมื่อกดส่งแล้วโปเกม่อนตัวนั้นจะหายไปถาวรนะครับ เราต้องเก็บตัวซ้ำๆ มาส่งให้นั่นเอง

วิธีการ POWER UP ให้ได้ค่า CP สูงๆ

ในกรณีที่ Pokemon มีหลายร่าง เราควรเริ่ม Power Up ที่โปเกม่อนร่างสุดท้าย เพื่อให้ได้ค่า CP สูงที่สุดเท่าที่เป็นได้ แต่ถ้าโปเกม่อนตัวนั้นแปลงร่างไม่ได้ ก็ไม่ต้องคิดเยอะกด Power Up ไปได้เลย

วิธีหา Pokeball และน้ำยาเติมเลือด ฟรี

ไอเท็มต่างๆ เราสามารถหาได้ฟรีไม่ต้องเสียเงินซื้อจาก Poke Stops ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ๆ มักมีคนไปรวมตัวกันเยอะอยู่แล้ว และข่าวดี คือ ศาลพระภูมิส่วนใหญ่เป็น Poke Stops และบ้านเรานั้นก็มีศาลพระภูมิเยอะมาก ทำให้การหาไอเท็มฟรีนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เก็บกันจนล้นกระเป๋าเลยทีเดียว

วิธีเก็บของจาก Poke Stops ก็ง่ายๆ ให้เราเดินไปจนใกล้ๆ กับจุด Poke Stops และกดแตะเข้าไป ปัดไปทางไหนก็ได้เพื่อหมุนป้ายตรงกลางหน้าจอ แล้วไอเท็มก็จะหล่นออกมาให้เก็บครับ

ไอเทมมาตรฐานภายในเกม Pokemon Go

• Poton ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 5 ใช้เติมเลือดให้โปเกม่อน 20 หน่วย
• Super Potion ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 10 ใช้เติมเลือดให้โปเกม่อน 50 หน่วย
• Hyper Potion ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 15 ใช้เติมเลือดให้โปเกม่อน 200 หน่วย
• Max Potion ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 25 ใช้เติมเลือดให้โปเกม่อนจนเต็มหลอด
• Revive ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 5 ใช้ชุบชีวิตโปเกม่อนและเติมเลือดให้ครึ่งหลอด
• Max Revive ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 30 ใช้ชุบชีวิตโปเกม่อนและเติมเลือดให้เต็มหลอด
• Lucky Egg เพิ่มค่าความสุขให้ผู้เล่น ทำให้ได้ค่าประสบการณ์ (Exp) สองเท่า เป็นเวลา 30 นาที
• Incense สร้างกลิ่นหอมยั่วยวนให้โปเกม่อนปรากฏตัวขึ้น เป็นเวลา 30 นาที
• Poke Ball บอลมาตรฐานสำหรับจับโปเกม่อน
• Great Ball ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 12 บอลชั้นดีสำหรับจับโปเกม่อน เพิ่มค่าความสำเร็จในการจับโปเกม่อนให้สูงขึ้น
• Ultra Ball ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 20 บอลคุณภาพสูงสำหรับจับโปเกม่อน เพิ่มค่าความสำเร็จในการจับโปเกม่อนให้สูงมากขึ้น
• Lure Module ใช้สำหรับดึงดูดให้โปเกม่อนปรากฏตัวใกล้กับ Poke Stop มีผลสำหรับทุกคนในแผนที่
• Razz Berry ปลดล็อกไอเทมเมื่อตัวละครมีเลเวล 8 โยนให้โปเกม่อนกิน จะเพิ่มค่าความสำเร็จในการโยนบอลครั้งถัดไป
• Egg Incubator เครื่องฟักไข่ ใช้งานได้ 3 ครั้ง ต่อ 1 ชิ้น

ทีมในเกมส์ Pokemon GO

เมื่อเราเล่นเกมส์จนมีเลเวลถึง 5 ให้ทำการกดที่ Gym ใกล้ตัว (ไม่ต้องเดินไปให้ถึงก็ได้) Professor จะบอกให้เราเลือกทีม โดยเกมส์นี้แบ่งออกเป็น 3 ทีมด้วยกัน ซึ่งได้แก่ Instinct (สีเหลือง), Mystic (สีน้ำเงิน) และ Valor (สีแดง) ซึ่งหากเราเล่นอยู่ทีมเดียวกับเพื่อนหลายๆ คน ก็สามารถช่วยกันไปตี Gym เพื่อยึดเป็นป้อมของทีมตนเองได้

พาโปเกม่อนออกไปต่อสู้ที่ Gym (ตีป้อม)

เมื่อจับโปเกม่อนมาซักพัก และเลือกทีมเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาออกไปต่อสู้กัน มองหาเสา Gym ของทีมอื่น แล้วบุกกันเลย

เมื่อเราเลือกต่อสู้ จะเป็นการเลือกโปเกม่อนในทีม 6 ตัว และรุมโปเกม่อนตัวที่เฝ้า Gym อยู่ (สามารถเข้ามาตีหลายๆ คนพร้อมกันได้) โดยวิธีการควบคุมจะแบ่งออกเป็น การกดที่หน้าจอเพื่อโจมตีธรรมดา, ปัดซ้าย-ขวา เพื่อหลบการโจมตีและกดค้างเพื่อใช้ท่าไม้ตาย (ต้องมีพลังในเกจตามที่กำหนด) ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวโปเกม่อนได้ตลอดเวลา หรือจะหนีเมื่อรู้ว่า สู้ไม่ได้ก็ได้

เมื่อเราปราบทีมฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว เสา Gym ก็จะว่าง ให้ทำการฝากโปเกม่อนของเรา เฝ้า Gym เอาไว้ได้ โดย Gym จะมีระดับเลเวลของมันอีกด้วย ยิ่งเลเวลสูง ก็จะสามารถใส่โปเกม่อนไว้เฝ้าป้อมได้มากขึ้น

วิธีแปลงร่าง Eevee (อีวุย) ให้ได้ธาตุที่ต้องการ

ภาพจาก https://attackofthefanboy.com/guides/pokemon-go-guide-which-eeveelution-will-your-eevee-evolve-into/

Eevee เป็นโปเกม่อนที่มีความพิเศษตรงสามารถแปลงร่างได้ 3 ธาตุ ซึ่งปกติแล้วจะสุ่ม แต่เราสามารถควบคุมให้ได้ธาตุที่ต้องการได้ ด้วยการตั้งชื่อมันก่อนแปลงร่าง โดยตั้งชื่อตามนี้ 

• Jolteon ธาตุสายฟ้า ให้ตั้งชื่อว่า Sparky
• Flareon ธาตุไฟ ให้ตั้งชื่อว่า Pyro
• Vaporeon ธาตุน้ำ ให้ตั้งชื่อว่า Rainer

วิธีเล่น Pokemon Go ในแนวนอน

ปกติแล้วเกมนี้จะเล่นได้ในโหมดหน้าจอแนวตั้งเท่านั้น แต่มีบัคที่ทำให้เราเล่นในแนวนอนได้บน iOS ทำง่ายๆ ครับ

1. จับมือถือในแนวนอน
2. กดแตะที่ Poke Ball
3. เลือก Settings
4. เลือก Report High-Priority Issue แล้วกด yes
5. มันจะเปิด Safari ขึ้นมา ช่างมันไปได้เลย กด Home แล้วเข้า Pokemon Go อีกครั้ง เกมจะอยู่ใน Landscape mode ทันที

ส่วน Android สามารถใช้แอปฯ ฟรี ที่มีชื่อว่า Set Orientation มาช่วยได้ครับ