ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา

วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 50,561
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2+%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%86+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7+%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7+%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B2+%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา

หลายคนคงประสบปัญหาตาล้าจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะนอกจากเราจะต้องพึ่งพา คอมพิวเตอร์ เป็นตัวช่วยในการเรียนและการทำงานแล้ว บางคนก็ยังชื่นชอบในการเล่นเกม หรือดูหนัง ดูซีรีส์ ในเวลาว่างอีกด้วย ทำให้ดวงตาต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์ไม่ต่ำกว่า 8-10 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว

บทความเกี่ยวกับ Eyes อื่นๆ

ซึ่งการจ้องจอติดต่อกันเป็นเวลานานนั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการของโรค Computer Vision Syndrome (CVS) หรือภาวะที่ดวงตาล้า, ตาแห้ง, ตาพร่า, มองเห็นภาพไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อน จับโฟกัสได้ยาก และบางรายอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย

บุคคลที่มีอาการ CVS นี้ หากไม่แก้ไขพฤติกรรมการใช้สายตาอย่างหนักก็อาจทำให้สายตาสั้นลง หรือมีปัญหาวุ้นในตาเสื่อมที่ทำให้เราเห็นเส้นๆ หรือจุดดำๆ ลอยไปลอยมาในดวงตา และอาจนำไปสู่ปัญหาทางสายตาและการมองเห็นอื่นๆ ได้ หรือบางทียังลุกลามไปถึงการปวดหัว ได้อีกด้วยเช่นกัน 

วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา
ภาพจาก : https://www.edb.gov.hk/en/edu-system/primary-secondary/applicable-to-primary-secondary/it-in-edu/Eyecare/sec-device.html

แน่นอนว่าหลายๆ คนคงทราบดีกว่าวิธีป้องกันปัญหาและรักษาดวงตาที่ดีที่สุดคือ “ลดการใช้งาน” ลง แต่สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานก็แนะนำให้ทำตามวิธีดังนี้

วิธีลดความเสี่ยงในการเป็นโรค CSV (Computer Vision Syndrome)

ตรวจค่าสายตาเป็นประจำ

ไม่เฉพาะแค่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตา ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น, สายตายาว หรือสายตาเอียงเท่านั้น แต่บุคคลที่สายตาปกติเองก็ควรตรวจวัดสายตาทุกปีเพื่อตรวจหาความผิดปกติของค่าสายตาด้วยเช่นกัน เพราะการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ (หรือสมาร์ทโฟน) เป็นเวลานานนั้นส่งผลต่อสุขภาพของดวงตาได้ และผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตาก็ควรสวมแว่นหรือคอนแทกเลนส์ที่ตรงกับค่าสายตาของตนเองในขณะนั้นด้วย

20-20-20 (เล่น 20 พัก 20 ห่าง 20)

พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 20 นาที เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที โดยการมองออกไปในบริเวณที่ห่างจากจอคอมอย่างน้อย 20 ฟุต และควรลุกจากเก้าอี้ทุก 2 ชั่วโมงเพื่อพักสายตาและป้องกันภาวะเมื่อยล้า ลดความเสี่ยงในการเป็นออฟฟิศซินโดรม

วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา
ภาพจาก : https://www.cabvi.org/articles/20-20-20-rule-computer-vision-syndrome/

กะพริบตาบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะตาแห้ง

เนื่องจากเมื่อเรามีสมาธิในการจดจ่อกับบางสิ่งบางอย่าง อัตราการกะพริบของดวงตาเราจะลดลงจาก 15-20 ครั้งต่อนาที เหลือเพียงแค่ 6-8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น ดังนั้นจึงควรกะพริบตาให้บ่อยขึ้นเพื่อเลี่ยงภาวะตาแห้ง หรืออาจใช้น้ำตาเทียมช่วยเพื่อให้ดวงตากลับมาชุ่มชื้นดังเดิม

จัดวางตำแหน่งจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม

จัดให้ไม่อยู่ต่ำหรือสูงจนเกินไป โดยระยะห่างระหว่างดวงตาและจอภาพควรอยู่ที่ประมาณ 40-75 เซนติเมตร หรือราว 1 ช่วงแขน และจุดศูนย์กลางของคอมพิวเตอร์ (กลางจอภาพ) ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 20 องศา นอกจากนี้ยังควรวางคอมพิวเตอร์ไว้ในบริเวณที่มีแสงสว่างมากเพียงพอในการทำงานและไม่ควรวางคอมพิวเตอร์ตรงจุดที่มีการสะท้อนของแสงจากภายนอกมาสู่จอภาพได้

วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา
การนั่งในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิด CVS ได้แล้ว ยังช่วยป้องกัน Office Syndrome ได้อีกด้วย
ภาพจาก : https://specscart.co.uk/blog/computer-vision-syndrome

ปรับแสงของจอให้พอเหมาะ

บางครั้งความสว่างของหน้าจอที่มากหรือน้อยเกินไปก็ส่งผลเสียต่อดวงตาและทำให้ดวงตาต้องทำงานหนักจนเกินความจำเป็นได้ และหากไม่ได้ทำงานด้านกราฟิกที่ต้องเน้นความชัดเจนของสีจอภาพก็ควรปรับสีอุณหภูมิของหน้าจอ (Colour Temperature) ลงเพื่อหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่ทำให้ดวงตาทำงานหนัก (เปิดการทำงานฟีเจอร์ Night Light บน Windows หรือ Night Shift สำหรับ Mac) หรือเลือกใส่แว่นกรองแสงเพื่อถนอมสายตาก็เป็นการแก้ปัญหาที่ดีเช่นกัน

สไลด์รูปภาพ

 วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตาวิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตาวิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา

ปรับขนาดตัวอักษรให้สะดวกต่อการใช้งาน

บางเว็บไซต์ก็มีการกำหนดขนาดตัวอักษรที่เล็กจนเกินไป ทำให้ต้องใช้สายตาเพ่งมากขึ้นเพื่อให้อ่านข้อความในเว็บไซต์นั้นๆ ได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเราจึงควรปรับขนาดของตัวอักษรบนหน้าจอให้อ่านง่าย โดยกดไปที่เมนูเพิ่มเติมและเลือกที่ [+] (หรือใช้คีย์ลัด Ctrl [+]) 

เปลี่ยนจอคอมพิวเตอร์

ถึงแม้ว่าจอคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจะเปลี่ยนจากจอเก่าอย่าง CRT (Cathode Ray Tube) เป็นจอแบบ LED (Light-Emitting Diode) แล้ว แต่ผู้ใช้ก็ควรเลือกจอที่มีความละเอียดสูง และมีขนาดหน้าจอราว 19 นิ้วขึ้นไป (สำหรับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ) รวมทั้งมีคุณสมบัติป้องกันการสะท้อน (Anti-Glare) ด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานจอคอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายตามากขึ้น

นอกจากนี้ อาการของ CVS นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับการใช้งานดวงตาเพื่อจ้องมองคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ผู้ที่ใช้งาน สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต อยู่เป็นประจำก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน จึงควรที่จะเว้นระยะห่างการใช้งานหน้าจอให้อยู่ห่างจากดวงตาประมาณ 16 นิ้ว ขึ้นไป และอาจเปิดใช้ฟีเจอร์ช่วยลดแสงสีฟ้าอย่าง Night Shift (สำหรับ iOS) หรือ Blue Light Filter (สำหรับ Samsung) ส่วนสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีฟีเจอร์ช่วยตัดแสงสีฟ้าจากหน้าจอก็สามารถเลือกดาวน์โหลดแอปพลิเคชันช่วยปรับลดแสงได้

สไลด์รูปภาพ

 วิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตาวิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตาวิธีรักษาดวงตา เมื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้ว ปวดหัว ปวดตา แสบตา

สรุปวิธีรักษาดวงตา เพื่อป้องกันโรค CVS

อย่างไรก็ตาม วิธีข้างต้นก็เป็นเพียงแค่การช่วยลดภาระการทำงานของดวงตาได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่หากเรายังใช้สายตาอย่างหนักในการจ้องจอวันละหลายชั่วโมง หรือพักสายตาจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์มาเล่นสมาร์ทโฟนอยู่บ่อยๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการ CVS หรือมีปัญหาทางสายตาได้ในอนาคตได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยง หรือลดเวลาในการจ้องมองจอต่างๆ ลง หากไม่จำเป็น ทั้งจอคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต รวมไปถึงจอโทรทัศน์ด้วยเช่นกัน


วิดีโอประกอบจาก Youtube

ที่มา : www.webmd.com , www.allaboutvision.com , www.cabvi.org , www.edb.gov.hk , www.eyetrusteyecare.ca , support.apple.com , www.samsung.com , support.microsoft.com , support.apple.com , mspoweruser.com

0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2+%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%86+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7+%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7+%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B2+%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
10 พฤศจิกายน 2556 14:53:52
GUEST
Comment Bubble Triangle
random only
tango = กินต้นไม้ / thank you = ขอบคุณ