การจะเลือกซื้อ Printer มาใช้งานนั้น นอกจากราคาและความคุ้มค่าในการใช้งานแล้ว เราก็น่าจะต้องพิจารณาถึงความสามารถของ Printer ชนิดนั้นๆ และจุดประสงค์ในการใช้งานควบคู่กันไปอีกด้วย ซึ่ง Printer ที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันนี้และยังคงได้รับความนิยมสูงอยู่ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท หลักๆ ดังต่อไปนี้
Dot Matrix Printer เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีพัฒนามาจากเครื่องพิมพ์ดีด เพราะหัวหมึกพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้จะมีลักษณะเป็น “หัวเข็ม” ที่จะใช้การ “จุด (Dot)” ผ่านผ้าหมึกลงบนกระดาษเพื่อพิมพ์ภาพและตัวอักษร คุณภาพของงานที่ได้จะมีความละเอียดต่ำ
เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ส่วนมากมีราคาถูก, พิมพ์ได้ช้า (สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้ราว 50 - 550 ตัวต่อวินาที) และเสียงพิมพ์ค่อนข้างดัง แต่ Dot Matrix เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดเดียวที่สามารถพิมพ์ลงบนกระดาษหลายๆ แผ่นได้ในครั้งเดียว (พิมพ์ใบคาร์บอนได้) ดังนั้นจึง นิยมใช้ในงานธนาคารหรืองานบัญชี ที่ต้องพิมพ์สำเนา
เป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) หรือ เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก ชนิดนี้จัดว่าเป็นที่ นิยมใช้งานกันทั่วไป เพราะมันสามารถรองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ สามารถสแกนเอกสาร (Scan) แฟกซ์เอกสาร (Fax) หรือ ถ่ายเอกสาร (Copy) ได้ และบางรุ่นก็รองรับกระดาษขนาด A3 อีกด้วย เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ใช้การ “ฉีด/พ่นน้ำหมึก” จากตลับหมึก (แทงค์หมึก) เพื่อพิมพ์ตัวอักษรและภาพต่างๆ ลงบนกระดาษในพื้นที่ที่เครื่องได้ทำการประมวลผลไว้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี้
เครื่องพิมพ์ระบบอิงค์เจ็ทชนิดที่จะใช้แรงดันเพื่อฉีดหมึกจากตลับหมึกลงบนกระดาษแบบต่อเนื่อง การปรินท์ในรูปแบบนี้จะมีหมึกส่วนเกินออกมาจากหัวจ่ายหมึกที่ไม่ต้องการ แต่หมึกส่วนเกินนี้ก็จะตกลงไปที่ส่วนเก็บหมึกที่รอการดึงกลับมาใช้ใหม่
นั้นจะพ่นหมึกออกมาจากหัวจ่ายหมึกเฉพาะในบริเวณที่ต้องการโดยไม่มีหมึกส่วนเกินออกมา มีทั้งการส่งผ่านความร้อนที่จะใช้แรงดันจากฟองอากาศเป็นตัวช่วย (Thermal Inkjet) และการใช้ Piezoelectric ในการดันหยดหมึกเพื่อพิมพ์ลงบนกระดาษ (Piezo Inkjet)
คุณภาพของรูปภาพและตัวอักษรที่ได้จากเครื่องพิมพ์ชนิดนี้นั้นจะมีความคมชัดและความเร็วในการพิมพ์ที่มากกว่าเครื่องพิมพ์แบบ Dot Matrix (โดยเฉลี่ยแล้วสามารถปรินท์กระดาษได้ราว 6 แผ่นต่อนาที) และเนื่องจากที่หมึกพิมพ์ของ Inkjet Printer เป็น “หมึกแบบน้ำ” จึง เหมาะกับการพิมพ์ภาพสี เพราะมีการผสมสีที่ดีกว่า และมีรายละเอียดของงานที่ชัดกว่าเครื่องพิมพ์ประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของกระดาษที่ใช้ในการพิมพ์ด้วย (แนะนำให้ใช้ Photo Paper)
แม้ว่าราคาของ Inkjet Printer จะไม่สูงมากนัก แต่ราคาหมึกเติมทั้งแบบตลับหมึกและหมึกเติมแทงค์แบบรีฟิลนั้นค่อนข้างสูง และหัวจ่ายหมึกก็ค่อนข้างตันได้ง่าย จึงควรใช้ง่ายบ่อยๆ (หากหัวจ่ายหมึกมีปัญหาหรือน้ำหมึกเริ่มแห้ง สีของหมึกพิมพ์อาจซีดจางลง ขึ้นแถบสี และสีเพี้ยนจนสังเกตเห็นได้ชัด)
เครื่องพิมพ์ประเภทนี้ มีหลักการทำงานแบบ Xerography ที่คล้ายกับการทำงานของเครื่องถ่ายเอกสาร คือใช้การพิมพ์แบบแห้ง (Dry Photocopying Technique) โดยเลเซอร์ภายในตัวเครื่องจะส่งความร้อนไปที่ตัวกระดาษและประมวลผลจากคอมพิวเตอร์เพื่อกดผงหมึกจากตลับหมึกแบบโทนเนอร์ (Toner Cartridges) หรือ Laser Toner ลงบนกระดาษ
ตัวอักษรและรูปภาพที่ได้จากเครื่องพิมพ์แบบ Laser Printer นั้นจะมีคุณภาพและความคมชัดที่สูงกว่าทั้งเครื่องพิมพ์แบบ Dot Matrix และ Inkjet นอกจากนี้ หมึกพิมพ์ยังสามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่งเพราะเป็นหมึกพิมพ์แบบผง แต่การพิมพ์งานภาพสีจาก Laser Printer นั้นยังด้อยกว่า Inkjet Printer อยู่บางส่วน เพราะ Laser Printer ใช้ระบบ RIP (Raster Image Processor) ในการกำหนดพื้นที่ภาพและกดหมึกพิมพ์ลงบนเนื้อกระดาษ จึงเหมาะกับการพิมพ์นามบัตรหรือ Brochure ส่งเสริมการขายที่ไม่เน้นรายละเอียดของงานมากนัก
เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ถึงแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่และราคาสูง แต่ด้วยความสามารถที่หลากหลายทั้งการ Scan, Fax และถ่ายเอกสาร จึงมัก ได้รับความนิยมในสำนักงาน ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังสามารถปรินท์กระดาษได้ที่ความเร็วเฉลี่ย 20 แผ่นต่อนาที และถึงแม้ว่าราคาของ Laser Toner จะสูงกว่าหมึกเติมแบบน้ำของ Inkjet Printer อยู่มาก แต่เมื่อเทียบอายุการใช้งานในระยะยาวแล้ว ราคาของการปรินท์รายแผ่นจะถูกกว่าเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทอยู่มากเลยทีเดียว
Dot Matrix Printer | Inkjet Printer | Laser Printer | |
---|---|---|---|
ราคา | ราคาถูก (ขึ้นอยู่กับรุ่น) | ราคาปานกลาง (ขึ้นอยู่กับรุ่น) | ราคาค่อนข้างแพง (ขึ้นอยู่กับรุ่น) |
ขนาด | ไม่ใหญ่มาก | ไม่ใหญ่มาก (ขึ้นอยู่กับรุ่น) | ใหญ่ |
การใช้งาน | นิยมใช้ในธนาคาร และงานบัญชี | นิยมใช้งานทั่วไป | นิยมใช้งานในสำนักงาน |
การทำงาน | จุดผ่านผ้าหมึก ลงกระดาษ | ฉีด หรือพ่นน้ำหมึกลงกระดาษ | กดผงหมึกลงกระดาษ |
การพิมพ์ภาพสี | คุณภาพต่ำ ไม่แนะนำให้ใช้พิมพ์รูป | คุณภาพสูง (ขึ้นอยู่กับรุ่น / กระดาษ) เหมาะกับการพิมพ์รูป | คุณภาพปานกลาง เหมาะกับการพิมพ์นามบัตร และโบรชัวร์ |
ชื่อเรียกของหมึก | Ribbon (ผ้าหมึก) | Cartridge | Laser Toner (เลเซอร์โทนเนอร์) |
ราคาหมึกเติม | ผ้าหมึกมีราคาถูกและใช้งานได้นาน | น้ำหมึกรีฟิลราคาสูง | Laser Toner ราคาแพง แต่สามารถใช้งานได้นาน |
ความเร็วในการพิมพ์ | 30 - 550 ตัวอักษร ต่อนาที | 6 แผ่นต่อนาที | 20 แผ่นต่อนาที |
Feature | พิมพ์ใบคาร์บอนได้ | Multifuction (สแกน, แฟกซ์, ถ่ายเอกสาร) ได้บางรุ่น | หมึกกันน้ำได้บางส่วน Multifuction (สแกน, แฟกซ์, ถ่ายเอกสาร) ได้ส่วนมาก |
ค่าซ่อมแซม | แพง (อะไหล่บางตัวหายาก) | ปานกลาง | แพง |
ปัญหาที่มักพบบ่อย | กระดาษติดอยู่ในเครื่อง (Paper Jam) | หัวจ่ายหมึกตัน หรือสีแห้ง | พิมพ์ช้าและเสียงดัง |
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |