คีย์บอร์ดแมคคานิคอล (Mechanical Keyboard) เป็นหนึ่งในคีย์บอร์ดเพื่อการเล่นเกม หรือที่นิยมเรียกกันว่า คีย์บอร์ดเกมมิ่ง (Gaming Keyboard) ที่เหล่าเกมเมอร์และนักแข่งกีฬาอีสปอร์ต (Esports Gamer) นิยมใช้งานกันมานานแล้ว เพราะมีฟังก์ชันสำหรับสนับสนุนการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น ปุ่มมาโคร หน้าจอแสดงผลของเกมโดยย่อบนคีย์บอร์ดโดนตรง (อีกชนิดจะมีพูดถึงในหัวข้อ เลือกสวิตช์ (ปุ่มกด) ให้เหมาะสมกับการใช้งาน) และน่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนหันมาสนใจกันมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กันไปยาว ๆ
โดยเฉพาะเหล่าเกมเมอร์วัยทำงาน ที่หลังเวลาเลิกงานแล้วก็คงจะกดเข้าเกมกันต่อเนื่องไป ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไป - กลับที่ทำงานกันเหมือนช่วงเวลาปกติที่เคยเป็นมา แต่ด้วยการที่เราใช้ชีวิตหน้าคอมฯ อย่างต่อเนื่องนี้เอง ที่ทำให้อาจได้ค้นพบปัญหาอะไรบางอย่างจากอุปกรณ์ที่เราเคยชินในการใช้อยู่ทุกวันอย่างเช่น "คีย์บอร์ด"
Credit : https://www.amazon.com/ANNE-PRO-Wireless-Mechanical-Keyboard/dp/B07Y4ZVP6J
เดิมที เราอาจไม่ได้สังเกตว่า คีย์บอร์ดที่ใช้อยู่มันโอเคแล้วหรือเปล่า เพราะเราใช้เวลากับมันแค่ช่วงเลิกงานและวันหยุด แต่ถ้าเราใช้อย่างต่อเนื่องมากกว่าวันละ 10 ชั่วโมงขึ้นไปด้วยการนับรวมทั้งเวลาทำงานและเวลาเล่นเกมในนี้แล้วล่ะก็ ร่างกายอาจเริ่มแสดงสัญญาณด้วยการปวดข้อมือ หรือปวดบริเวณหลังฝ่ามือ (โดยเฉพาะด้านซ้ายที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของหลาย ๆ เกม) กันบ้างแล้ว ถ้าคุณมีอาการแนว ๆ นี้เกิดขึ้นแล้วล่ะก็ นั่นแปลว่า คีย์บอร์ดที่คุณใช้อยู่อาจไม่เข้ากับลักษณะการใช้งานของคุณแล้วนะ
แล้วทีนี้ เราต้องเลือก คีย์บอร์ด ยังไงให้เข้ามือกันล่ะ ? เรามีตัวช่วยวิเคราะห์ให้คุณสามารถเลือกซื้อคีย์บอร์ดได้อย่างถูกต้องมาบอกกัน
โดยปกติแล้ว ถ้าใครไม่เคยรู้จัก หรือได้ใช้ Mechanical Keyboard มาก่อน คีย์บอร์ดที่คุณกำลังใช้อยู่ มักจะเป็นคีย์บอร์ดในประเภทที่ถูกเรียกว่า Membrane Keyboard (เมมเบรน คีย์บอร์ด) คีย์บอร์ดประเภทนี้จะมีส่วนประกอบภายในเป็นยางทรงโดมที่ยืดหยุ่น คล้าย ๆ กับบับเบิ้ลที่เอาไว้ห่อหุ้มสิ่งของเป็นชั้น ๆ จะอยู่ระหว่างคีย์แคป (ปุ่มกด) ที่คุณกดด้วยนิ้วมือ และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้คีย์แคปนั้น ซึ่งจะทำการส่งสัญญาณต่อไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นคำสั่งในการทำงานต่อ
หน้าตาภายในของ Mechanical Keyboard vs Membrane Keyboard
Credit : https://thekeyboardreviews.com/mechanical-vs-membrane-keyboard-which-one-is-right-for-you/
ส่วน Mechanical Keyboard นั้น จะมีสิ่งที่ถูกเรียกว่า สวิตช์ ที่ถูกผลิตขึ้นจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งคอยล์สปริง พลาสติก โลหะชิ้นเล็ก ๆ ประกอบขึ้นเป็นกลไก และเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็น Mechanical Keyboard ซึ่งสวิตช์แต่ละแบบ ก็จะให้ความรู้สึกและสัมผัสในการกดที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าเราใช้สวิตช์แบบไหน โดยสวิตช์หลัก ๆ สำหรับมือใหม่ที่สามารถทำความรู้จักได้ง่าย ๆ ก็คือ Linear, Clicky, และ Tactile
สวิตช์นี้เป็นสวิตช์ที่สามารถขยับขึ้นลงตามแรงกดได้แบบไม่มีกิมมิคอะไรมาก เมื่อกดสวิตช์ประเภทนี้ลงไป ก็จะรู้สึกได้ว่า กดแล้วกดเลย มีความไวต่อการสัมผัส มีความนิ่มอยู่มากแตกต่างกับอีกสองสวิตช์ที่เราจะพูดถึงต่อไป ใครที่ต้องการความรวดเร็วในการกดและการสั่งงาน เช่น คอเกม FPS มักจะนิยมใช้สวิตช์ประเภทนี้ในการเล่นเกมเป็นหลัก วิธีสังเกตในการเลือกซื้อก็คือ สวิตช์ประเภทนี้จะมี สีแดง (Red) และ สีดำ (Black) เป็นหลัก โดยสวิตช์สีดำจะแข็งกว่าสีแดง
Credit : https://www.hyperxgaming.com/th/keyboards/switches
สวิตช์แบบนี้จะมีชิ้นส่วนภายในแบ่งออกเป็นสองส่วน และจะกระทบกันเสมอเวลาที่เรากดสวิตช์ลงไป แน่นอนว่าเมื่อมันกระทบกัน ก็จะเกิดเสียงขึ้นเสมอทุกครั้งที่กดแป้น ทำให้สวิตช์นี้ถูกเรียกว่า "Clicky" ตามเสียงคลิกของมันนั่นเอง สวิตช์นี้มักจะมีสีฟ้า (Blue) และ สีเขียว (Green)
Credit : https://www.hyperxgaming.com/th/keyboards/switches
สวิตช์แบบ Tactile จะเป็นสวิตช์ที่รวมคุณสมบัติของสองสวิตช์ด้านบนเข้าด้วยกัน เมื่อกดจะรู้สึกได้ถึงแรงต้านเหมือน Clicky แต่จะมีแรงต้านน้อยกว่าและกดง่ายกว่า โดยสวิตช์แบบนี้จะหายากกว่าใครเพื่อน แต่มีชื่อเสียงมากที่สุดท่ามกลางคนที่นิยมชมชอบเรื่องคีย์บอร์ดที่มีคุณภาพสูง โดยส่วนใหญ่ สวิตช์นี้มักจะถูกทำออกมาเป็นสีน้ำตาล (Brown) และ สีใส (Clear) โดยสวิตช์สีใสจะแข็งกว่าสีน้ำตาล
Credit : https://www.hyperxgaming.com/th/keyboards/switches
นอกเหนือจากสวิตช์ยอดนิยมสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ Mechanical Keyboard มา แบบที่เราแนะนำไปด้านบนแล้ว ยังมีสวิตช์แบบอื่น ๆ ให้เลือกใช้อีก ซึ่งบางแบบก็เป็นผลงานการออกแบบโดยเฉพาะของแบรนด์นั้นๆ เอง เช่น Razer ที่มีการออกแบบกลไกของสวิตช์ให้สามารถตอบสนองได้ไวขึ้น ด้วยการใช้แสงเลเซอร์เป็นตัวกำหนดการทำงาน เมื่อกดปุ่มลงไป จะทำให้ตัวกั้นแสงเลเซอร์ถูกกดลงไป และเลเซอร์ก็จะยิงแสงไปหาอีกฝั่งเพื่อส่งสัญญาณการทำงานในทันที เป็นต้น โดยสวิตช์นี้ถูกเรียกว่า Razer Opto-Mechanical Switch
Credit : https://www.razer.com/razer-optical-switch
สวิตช์ดังกล่าวมีการผสมผสานกันระหว่างการสั่งการด้วยแสง และลักษณะเด่นของสวิตช์แบบต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาด เช่น การทำให้เป็นสวิตช์ที่มีเสียงคลิก ทำงานสองจังหวะแบบ Clicky ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Key Stabilizer Bar สร้างความเสถียรให้แก่ปุ่มกด พร้อมลดแรงเสียดทานที่จะทำให้อายุการใช้งานของปุ่มลดลงได้ ทำให้จำนวนครั้งในการใช้งานเพิ่มขึ้นและกดได้แม่นยำขึ้นด้วย
โดยคีย์บอร์ดชนิดนี้ จะมีการตอบสนองแรงกดพื้นฐานอยู่ที่ 45 กรัม และระยะปฏิบัติการเพียง 1.5 มิลลิเมตร เท่านั้น แถมด้วยแรงต้านที่ 20 กรัม ทำให้สามารถรีเซ็ตตัวเอง (ปุ่มเด้งกลับ ไม่ออกคำสั่ง) ได้ในระยะ 1.3 มิลลิเมตร เรียกว่าก่อนที่จะปล่อยนิ้วพ้นคีย์บอร์ดเลย ทำให้ภาพรวมการทำงานเร็วกว่าสวิตช์ Clicky ทั่วไปถึง 30%
Credit : https://www.razer.com/razer-optical-switch
ถ้าคุณอ่านเรื่องสวิตช์ด้านบนแล้วยังรู้สึกว่าเลือกไม่ได้ว่าจะเอาแบบไหนดี เรามีสรุปง่าย ๆ ในการเลือกให้
ส่วนใหญ่คนเล่นเกม มักจะต้องการการสั่งการที่รวดเร็ว กดแล้วไปเลย ถ้าคุณต้องการแบบนี้แล้วล่ะก็ สวิตช์แบบ Linear จะตอบโจทย์ที่สุด แต่ถ้าเอามาเพื่อใช้พิมพ์งานแล้วล่ะก็ สวิตช์แบบ Clicky จะพิมพ์มันมือมาก ๆ พิมพ์สนุกเลยล่ะ แต่เสียงจะค่อนข้างดังถึงดังมาก ไม่เหมาะกับการใช้ในที่ทำงานร่วมกับคนอื่น เพราะมีความดังในระดับที่ทำให้รำคาญได้เลย ถ้าอยากได้แบบกดไวด้วย มีเสียงคลิกด้วย ลองไปทางสายกลางด้วยสวิตช์ Brown ดู
ถ้าชอบแบบกดแล้วทันใจ สั่งแล้วไปเลย เลือกสวิตช์จังหวะเดียวอย่าง Black และ Red มาใช้ ถ้าชอบแบบปุ่มเด้งสู้มือแบบสองจังหวะ ไป Brown, Blue, และ Green ซึ่งลำดับสวิตช์แบบสองจังหวะ ที่เราบอกไปนั้น เรียงตามความดังของเสียงด้วย โดย Brown จะมีเสียงกดเบาที่สุด
กดเบา ๆ ก็ติดคือสวิตช์ Red เผลอจิ้มนิ้วผิด ชีวิตเปลี่ยนได้ ถ้าใช้แรงกดหน่อยก็จะเป็นบรรดาสวิตช์ที่เหลือทั้งหมด เรียงตามลำดับแรงกดจากเบาไปหาหนักก็จะเป็น Red > Black > Brown > Blue > Green เลือกได้ตามอัธยาศัย
เรียงระดับความนิ่มในการกดจากบนลงล่าง
Credit : https://kbgangster.com/2017/05/03/mechanical-keyboard-switch-different/
ขนาดของคีย์บอร์ด นอกเหนือจากที่จะเป็นเรื่องของการออกแบบในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อแล้ว การเพิ่ม / ลด ปุ่มบนคีย์บอร์ดในการใช้งาน ก็ถือเป็นสิ่งที่ทำให้คีย์บอร์ดนั้น ๆ มีขนาดใหญ่หรือเล็กได้ด้วย เราจะไปพาจำแนกความแตกต่างกัน
การมีแป้นพิมพ์ตัวเลข (Numeric Keypad หรือ Numpad) จะทำให้คีย์บอร์ดมีความยาวด้านข้างเพิ่มออกไปอีก โดยคีย์บอร์ดที่มี Numpad นั้น จะถูกเรียกว่า Full-Sized Keyboard เพราะเป็นคีย์บอร์ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาคีย์บอร์ดทั้งหมดที่เราจะพูดถึง และมีปุ่มฟังก์ชันการใช้งานครบครัน เหมาะสำหรับการพิมพ์งานและการทำงานที่ต้องใช้ปุ่มฟังก์ชันหลาย ๆ ปุ่มเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน รวมถึงเกมเมอร์สายเกมเก็บเวล ที่อาจมีการตั้งปุ่มมาโคร เพื่อให้สามารถเล่นได้ง่ายขึ้นด้วย
Credit : https://www.corsair.com/de/de/k95rgbplatinum
คีย์บอร์ดแบบไม่มีแป้นตัวเลข จะมีชื่อเรียกว่า TKL ที่ย่อมาจาก Ten Keyless คีย์บอร์ดแบบนี้ จะมีขนาดที่เล็กลงมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถึงจะต้องใช้ตัวเลขอยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะว่ายังคงมีแป้นสัญลักษณ์และตัวเลขอยู่เหนือแป้นตัวอักษรบนคีย์บอร์ดอยู่แล้ว ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่มีพื้นที่จำกัด แต่ถ้าใครต้องเล่นเกมที่ใช้ปุ่ม Numpad ทางขวาอย่างเกม Audition ที่ต้องใช้ลูกศรแปดทิศแล้วล่ะก็ คีย์บอร์ดนี้ก็จะไม่สามารถใช้ได้
Credit : https://mechanicalkeyboards.com/shop/index.php?l=product_detail&p=4029
คีย์บอร์ดที่ถูกตัดปุ่มฟังก์ชันออกทั้งหมด ให้เหลือเพียงแต่ตัวอักษร จะไม่เหมาะกับการทำงานสักเท่าไหร่นัก โดยปุ่มฟังก์ชันที่ว่า คือบรรดาปุ่ม F1 - F12 และพวกปุ่มฟังก์ชันอื่น ๆ อย่าง Insert, Home, End, PrintScreen, ฯลฯ ที่จะไม่มีอยู่บนคีย์บอร์ดนี้ ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่เหมาะสำหรับการเล่นเกม และการพกพาไปข้างนอกบ่อย ๆ เช่น บรรดานักแข่งเกมที่ต้องเปลี่ยนสถานที่การแข่งอยู่บ่อย ๆ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ในการพกพาแล้ว เวลาตั้งรวมกันกับเมาส์ ก็จะทำให้มีพื้นที่ลากเมาส์เพิ่มขึ้นด้วย
Credit : https://fnatic.com/gear/en/streak65
เรื่องนี้ถือเป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียน ที่เวลาซื้อคีย์บอร์ดสนใจแต่ปุ่มกดเป็นส่วนใหญ่จนลืมทดลองนั่งแล้วตั้งมือเหมือนกำลังใช้งานในทุกวัน จนกลายเป็นว่าในตอนที่หิ้วกลับบ้านมาใช้งานแล้วพบว่า แป้นสูงมากจนเริ่มเมื่อยมือเมื่อกดใช้ไปนาน ๆ ดังนั้น เพื่อสุขภาพของผู้ใช้งานในระยะยาว ต้องไม่ลืมเรื่องความสูงของคีย์บอร์ดในตอนที่เลือกซื้อด้วยนะคะ
โดยปกติแล้ว คีย์บอร์ดที่มีสวิตช์แบบ Mechanical จะมีความสูงของแป้นที่มากกว่า Membrane Keyboard อยู่แล้ว แต่จะสูงมากหรือสูงน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยตรง ดังนั้น การได้ทดลองกดแป้นนั้น ๆ หรือไปหาดูรีวิวก่อนการซื้อมาใช้งานก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากเราได้มาแต่ไม่ได้ถูกใช้งานก็คงเสียดายเงินแย่
Credit : https://geekcyborg.com/mechanical-vs-membrane-keyboards-the-bottom-line/
วิธีการสังเกตหลัก ๆ คือการมองรูปมุมข้างของคีย์บอร์ด (ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางไปดูของจริงได้) ว่ามีความสูงเมื่อวางกับโต๊ะหรือที่ตั้งโชว์สินค้ามากน้อยเพียงใด แล้วให้ลองกะคร่าว ๆ กันองศามือของเรากับคีย์บอร์ดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถ้าเราไม่ใช่คนที่มือใหญ่ หรือมีนิ้วมือยาวแล้วล่ะก็ การใช้แป้นสูงจะเป็นปัญหาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชินกับการใช้แป้นรองข้อมือ (Wrist Pad) ที่จะมาช่วยบรรเทาปัญหาในเรื่องนี้ลงไปได้ เนื่องจากอาจมีอาการปวดมือตามมาแบบผู้เขียนได้ แต่ถ้าใครมือใหญ่ล่ะก็ ความสูงของแป้นคงไม่ใช่ปัญหาอะไร
บางรุ่นเหมือนจะรู้ตัวเองว่าแป้นสูง แถมแป้นรองข้อมือมาให้เลยก็มี
Credit : https://www.pcworld.com/article/3519430/corsair-k95-platinum-xt-review.html
เมื่อคนส่วนใหญ่นึกถึง Mechanical Keyboard ก็มักจะนึกถึงคีย์บอร์ดที่มีไฟสี ๆ วิ่ง ๆ กัน จริง ๆ แล้ว ไฟไม่มีผลอะไรต่อการใช้งานมาก (มีแค่ตอนปิดไฟเล่น) แต่มีผลต่อใจล้วน ๆ ซึ่งบางคนอาจไม่รู้ว่า ไฟ RGB ที่เราเห็น ๆ กันใน Keyboard บางชิ้น มีการส่องแสงลอดใต้ปุ่มไม่เหมือนกัน เหตุเพราะตำแหน่งของไฟของแต่ละแบรนด์แต่ละรุ่นนั้นอยู่ต่างที่กัน ในบางแบรนด์นั้น ถึงขั้นชูจุดขายด้วยการใส่เรื่องตำแหน่งของไฟ RGB มาเลยทีเดียว
Credit : https://steelseries.com/gaming-keyboards/apex-3, https://fnatic.com/gear/en/streak65
ตำแหน่งของไฟ LED บนคีย์บอร์ดจะมีอยู่สองที่หลัก ๆ ที่เห็นกันบ่อย ๆ คือ ตรงกลางของปุ่ม และ ด้านบนของปุ่ม ซึ่งแบบแรก จะทำให้การส่องสว่างของปุ่ม สามารถส่องแสงได้อย่างเต็มที่ และสามารถเห็นตัวอักษรบนแป้นคีย์บอร์ดได้อย่างชัดเจนครบถ้วนในกรณีที่แป้นคีย์บอร์ดเป็นแบบสองภาษา ที่มักจะมีตัวอักษรอยู่ด้านบนและด้านล่างของคีย์แคป ส่วนแบบที่อยู่ด้านบนของปุ่ม จะเห็นแสงลอดที่ด้านบนของคีย์แคปอย่างชัดเจน แต่ด้านล่างจะมีแสงส่องสว่างออกมาได้เล็กน้อย ตอนเลือกซื้อ ถ้าใครชอบเรื่องไฟ RGB อย่าลืมพิจารณาตรงจุดนี้ด้วยนะ
หลายคนอาจจะใหม่กับเรื่องของคีย์แคป และอาจไม่เคยนึกถึงเรื่องของวัสดุที่เอามาทำคีย์แคปมาก่อน แต่เราจะมาอธิบายเรื่องนี้ให้อ่านกันพอสังเขปถึงความแตกต่างของวัสดุที่ถูกใช้กันสองแบบหลัก ๆ นั่นก็คือ PBT และ ABS ค่ะ
วัสดุ PBT มีชื่อย่อมาจาก Polybutylene Terephthalate เป็นวัสดุโพลิเมอร์เทอร์โมพลาสติก ที่นิยมใช้เป็นฉนวนในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นโพลิเมอร์แบบผลึกที่สามารถทนต่อตัวทำละลาย และมีการหดตัวน้อยมากในระหว่างการขึ้นรูป อีกทั้งยังมีความแข็งแรง สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 150 องศาเซลเซียส มีความคงทนมากกว่าวัสดุแบบ ABS โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะถูกจัดทำขึ้นในรูปแบบคีย์แคปที่ถูกขายแยกต่างหาก ไม่ค่อยมากับคีย์บอร์ดที่ผลิตสำเร็จ แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ให้คีย์แคปแบบ PBT มาเลย เช่น Ducky, Leopold, และ Vortex เป็นต้น
Credit : https://www.pinterest.com/pin/558516791274165182/
ABS ย่อมาจาก Acrylonitrile Butadiene Styrene มีคุณสมบัติเป็นโพลิเมอร์เทอร์โมพลาสติก เรียกกันแบบเข้าใจง่ายคือ พลาสติก ABS ถือเป็นแบบที่เราเจอกันมากที่สุดในชุดคีย์แคปของคีย์บอร์ด Mechanical ในปัจจุบัน เพราะเป็นพลาสติกแข็งที่มีความคงทนและลดต้นทุนในการผลิตได้ดี และไม่จำเป็นว่า คีย์บอร์ดที่ราคาแพง ๆ หลักหลายพัน จะใช้วัสดุ PBT ถ้าหน้ารายละเอียดของคีย์บอร์ดชิ้นนั้น ๆ ไม่ได้ระบุไว้ว่าใช้วัสดุอะไรในการทำคีย์แคปแล้วล่ะก็ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่ามันถูกทำมาจากพลาสติก ABS
ค่าตัวตอนเปิดตัวห้าพันกว่าบาทแต่ปุ่มยังเป็นพลาสติก ABS อยู่นะ
Credit : https://www2.razer.com/ap-en/store/razer-blackwidow-x-tournament-edition-chroma#clicky
จุดสังเกตที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนของวัสดุทั้งสองแบบคือเรื่องของน้ำหนักของปุ่ม เพราะ PBT นั้นทนทานกว่า ABS เวลากดก็จะรู้สึกหนักแน่นกว่า เสียงดังกว่า คีย์บอร์ดรุ่นไหนที่ใช้คีย์แคป PBT ก็จะมีน้ำหนักโดยรวมที่หนักกว่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการพกพาสักเท่าไหร่ และเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง คีย์แคปแบบ ABS จะเกิดอาการขึ้นเงา หรือที่เรารู้สึกว่าปุ่มมันเงา ๆ ได้ง่ายกว่า PBT ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้งานขณะที่นิ้วมือเลอะก็ตาม
Credit : https://geekhack.org/index.php?topic=74285.0
และสำหรับใครที่ชอบใช้คีย์บอร์ดสีขาวแล้วล่ะก็ จะมีอีกปัญหาหนึ่งตามมาสำหรับคีย์บอร์ดที่ใช้คีย์แคปวัสดุ ABS นั่นก็คืออาการปุ่มเหลือง ในเวลาที่เราใช้งานไปนาน ๆ และเวลาที่เจอกับแสงแดด พลาสติก ABS จะสามารถเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองได้ ดังเช่น Apple Keyboard รุ่นเก่าด้านล่าง ที่จะสังเกตเห็นได้ว่า มีอาการปุ่มเหลืองเฉพาะปุ่ม SpaceBar ทำให้เรารู้ได้เลยว่า เฉพาะปุ่ม SpaceBar เท่านั้นที่ใช้ ABS นอกนั้นเป็นปุ่ม PBT
Credit : https://www.reddit.com/r/MechanicalKeyboards/comments/95t1qa/found_an_apple_extended_keyboard_ii_for_1_and_had/
ความลาดเอียงสูงต่ำของปุ่ม หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า คีย์แคปโปรไฟล์ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คีย์บอร์ดแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น มีความแตกต่างกัน และเป็นสิ่งที่เราจะต้องคำนึงถึงเวลาที่คิดจะซื้อคีย์แคปมาเปลี่ยนกับคีย์บอร์ดที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันด้วย เพราะคีย์แคปแต่ละเซ็ต มีโปรไฟล์ที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเรารู้ว่าคีย์บอร์ดของเราใช้คีย์แคปเซ็ตไหนแล้วล่ะก็ เวลาจะหาซื้อมาเปลี่ยนก็จะทำได้ไม่ยาก
คีย์แคปที่นิยมในปัจจุบันก็ได้แก่ Cherry, DSA, SA, และ OEM ส่วนโปรไฟล์แต่ละอันจะเป็นยังไง ลองดูรูปด้านล่างประกอบกันค่ะ
Credit : https://geekhack.org/index.php?topic=83853.0
ได้รูปภาพรวมด้านข้างถึงความลาดเอียงของแต่ละโปรไฟล์กันไปแล้ว ทีนี้ เวลาที่เราต้องซื้อคีย์แคปมาเปลี่ยน ก็ต้องดูด้วยว่า จะเปลี่ยนให้มีความเอียงแบบไหน เอามาแทนแถวไหน เช่น บางคนอาจเกิดเหตุปุ่มหลุดระหว่างการขนย้าย อยากจะหาปุ่มมาใส่ทดแทน ซึ่งในปัจจุบันก็มีการขายปุ่มแยกกันอย่างแพร่หลาย แต่เราต้องรู้ก่อนว่า ปุ่มที่หายไปอยู่ในแถวอะไร ดังนั้น จึงมีการแทนที่แถวของปุ่มคีย์บอร์ด ด้วยการไล่หมายเลขจากบนลงล่าง ซึ่งบางแบบจะเรียกแถวบนเป็น R4 แล้วไล่เลขลงมา R1 เช่นแบบ OEM แต่บางโปรไฟล์จะไล่จาก R1 ขึ้นไปหา R4 แทน เช่นแบบ SA เป็นต้น
Credit : https://th.aliexpress.com/item/32781789177.html
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาจับ Mechanical Keyboard แล้วล่ะก็ คุณสามารถเริ่มต้นจากการซื้อรุ่นที่ดูแล้วถูกตาต้องใจ จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ในตลาด ด้วยการเลือกดูสวิตช์ ขนาดของคีย์บอร์ด และความสูงของแป้นเป็นหลักได้เลย ถ้าใครชอบไฟ RGB ก็อย่าลืมพิจารณาเรื่องของสี และตำแหน่งไฟลอดด้วย แต่ถ้าคุณอยู่ในวงการนี้มาสักระยะแล้ว การศึกษาและเปรียบเทียบเรื่องวัสดุคีย์แคปและโปรไฟล์ของคีย์บอร์ด ก็จะเป็นเรื่องของการปรับแต่งที่จะทำให้คุณสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการได้อย่างอิสระ
Credit : https://www.reddit.com/r/MechanicalKeyboards/comments/7m0xg8/this_is_an_iris/
อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อคีย์บอร์ดแบบ Mechanical นี้ ผู้เขียนแนะนำให้เล็งเลือกเอาไว้ล่วงหน้า แล้วไปหาลองกด ลองใช้งาน ตามร้านค้าที่มีการจัดวางตัวโชว์ไว้ให้ลองกันจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้เสียใจภายหลังนะ
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |
ความคิดเห็นที่ 1
18 ตุลาคม 2564 14:03:09
|
||
GUEST |
คนที่ชอบบทความนี้มาก
ขอบคุณนะคะ ช่วยได้เยอะเลย ละเอียดมากกกก
|
|