ยุคนี้นะครับ นอกจากเราจะสื่อสารด้วยการคุยกันปากต่อปากโดยตรงแล้ว เราก็ยังคงสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการแชทกันนั่นแหละ จนทุกวันนี้ยังไม่แน่ใจเลยว่าพูดหรือพิมพ์คุยมากกว่ากัน แต่ก่อนที่จะมาแชทกันใน แอป LINE บนมือถือ (หรือ โปรแกรม LINE บน PC) หรือทาง Facebook Messenger เรามาย้อนกลับกันไปดูหน่อยว่า ยุคแรก ๆ ที่เริ่มเข้าสู่สังคมออนไลน์เนี่ยมันเป็นยังไง โปรแกรมแชท ตัวไหนบ้างที่เราคุ้นเคยใช้แชทกัน เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังกัน
ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Pager
และ ... ต้นกำเนิดแชทในไทยที่เป็นที่แพร่หลาย หลายคนอาจจะรู้จักกันเป็นอย่างดีเครื่องเพจเจอร์ (Pager)
Pager หรือวิทยุตามตัว เป็นอุปกรณ์สื่อสารทางเดียว (One-Way Communication Device) ที่เริ่มเข้ามาใช้งานในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) และมันได้รับความนิยมแบบสุด ๆ ในช่วงปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ลากยาวมาจนถึงปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) เลยทีเดียว
คือเอาจริง ๆ ตัวผมก็ไม่เคยใช้หรอก แต่ผู้หลักผู้ใหญ่เขาก็จะมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็มักจะใช้เพจเจอร์พูดคุยกันตั้งแต่เล่าเรื่องต่าง ๆ นัดเจอ หรือแม้กระทั่งบอกรัก คิดดูต้องโทรหาคอลเซนเตอร์เพื่อที่จะฝากกลอนอันไพเราะไปให้หญิงอ่าน ก็ถือว่าเป็นแชทที่มีความเป็นเอกลักษณ์และนิยมกันสุด ๆ ในช่วงนึงเลยทีเดียว
ที่มาภาพ : https://geekswithkidspodcast.wordpress.com/2016/11/17/tbt-icq-turns-20-years/
พอคนไทยเริ่มเข้าถึงการใช้งาน อินเทอร์เน็ต (Internet) กันมากขึ้น โปรแกรมแชท โปรแกรมแรก ๆ ที่คนไทยรู้จักนั่นก็คือ โปรแกรม icq นั่นเอง
icq ล้อมาจากคำว่า I Seek You เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) แต่คนไทยนิยมเล่นกันในช่วงปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)
จุดเด่นของ icq คือต้องแอดเบอร์ที่เรียกว่า UIN ยาว ๆ กันเนี่ยแหละ เมื่อถึงชั่วโมงเรียนทุกคนต้องได้ยินเสียง “โอ๊ะโอ” ดังกันอยู่อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่านั่งแชทกันทั้งคาบเรียน
ที่มาภาพ : https://www.reddit.com/r/nostalgia/comments/7r785w/classic_icq/
หลายคนอาจจะสงสัยว่า icq หายไปไหน จริง ๆ แล้วมันไม่ได้หายไปไหนครับ มันยังมีชีวิตอยู่ แถมหน้าตามันยังดูทันสมัย มีการปรับปรุงอัปเดทเพิ่มลูกเล่นมามากมายนอกเหนือจากการแชทด้วย ใครไม่เคยเล่นหรืออยากลองก็เข้าไปโหลดกันได้เลยครับ (แต่จะมีใครแชทด้วยหรือเปล่าไม่รู้นะ 555 ลองชวนเพื่อนเล่น)
ที่มาภาพ : https://tadviser.com/index.php/Product:ICQ_New
โหลดโปรแกรมแชท icq
ที่มาภาพ : kroocomboard.com
โปรแกรม Pirch98 ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า 98 แน่นอนว่ามันเป็นโปรแกรมที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) วัยรุ่นขี้เหงาเปล่าเปลี่ยวต้องเคยเล่นกันแน่นอน
มันเปรียบดั่งโปรแกรมหาเพื่อนที่ถูกพัฒนาภายใต้เทคโนโลยี IRC (Internet Relay Chat) ที่ทำให้เราสามารถสร้างห้องแชทสาธารณะ เพื่อเข้าไปคุยกับคนอื่น ๆ หรือกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน และยังคุยกันแบบส่วนตัวได้เช่นกัน
และถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปนานพอสมควร ทุกวันนี้ก็ยังมีคนใช้อยู่นะครับ หากใครสนใจอยากลอง ในเว็บไทยแวร์เรามีโหลดนะครับ เดี๋ยวแปะลิงค์ไว้ให้
โหลดโปรแกรมหาเพื่อน PIRCH98
ที่มาภาพ : https://1000logos.net/msn-logo/
อีกหนึ่งโปรแกรมที่เป็นที่สุดแห่งยุค เต็มไปด้วยความทรงจำและ เล่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง จนมันถูกเอาไปแต่งเป็นเพลงเลยทีเดียว
โปรแกรม MSN หรือ Window Live Messenger เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) โปรแกรมจากค่าย Microsoft ที่คนสมัคร Hotmail เพราะอยากเล่น MSN เนี่ยแหละ สุดในรุ่นจริง ๆ นะครับ ถึงแม้ว่า ICQ จะเกิดก่อน แต่ MSN เนี่ยได้รับความนิยมมากกว่าแบบมาก ๆ ด้วยความที่มันมีฟังก์ชันมากมายทั้งแชท ส่งภาพ ส่งเสียง วิดีโอคอล อิโมติค่อน และปุ่ม Nudge ที่เอาไว้เรียกร้องความสนใจ
เอาเป็นว่าวัยรุ่นในตอนนั้นแลกเมลกันจ้าละหวั่น รีบกลับบ้านมาก็ไม่เป็นอันทำอะไร นั่งแชท MSN กันจนดึกดื่น รอคนที่ชอบออนไลน์มาคุยกัน แต่ ณ ตอนนี้ MSN ได้ปิดให้บริการไปแล้วเมื่อปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำอันงดงามไว้เท่านั้น
ที่มาภาพ : https://www.buzzfeed.com/remeepatel/uni-in-the-00s
ที่มาภาพ : https://www.whatphone.net/socialupdate/top-8-app-from-50-countries/attachment/18-qq/
มาดูกันที่ โปรแกรมแชท หรือ โปรแกรมสนทนา จากทางแดนมังกร หรือฝั่งประเทศจีนกันบ้าง กับโปรแกรมที่มีอวาตาร์เป็นรูปเพนกวินสุดน่ารัก QQ
เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เหมือน MSN เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Tencent ที่ทำขึ้นมาเพราะง่าย ๆ ว่า ในตอนนั้นจีนไม่มี ICQ ก็ตัดสินใจทำโปรแกรมแชทเองซะเลย
ในไทยนั้นทาง Sanook.com ก็ได้นำมาเปิดให้ใช้บริการกัน แต่ ณ ตอนนี้ในไทยก็ไม่มีแล้วนะครับ แต่ที่จีนเนี่ยก็ยังใช้กันอยู่
ที่มาภาพ : https://scroll.in/article/818100/an-ode-to-the-blackberry-the-keypad-we-loved-the-phone-we-defended-for-far-too-long
อีกหนึ่งกระแสที่โคตรนิยม มันไม่ใช่แค่โปรแกรม หากแต่มันคือโปรแกรมที่อยู่ในสมาร์ทโฟนสัญชาติแคนาดาที่มีชื่อว่า BlackBerry หรือเรียกติดปากสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า BB
ไอ้เจ้า BB เนี่ย จริง ๆ มันก็มีต้นกำเนิดมาจาก Pager ของบริษัทที่ทำเนี่ยแหละ เพราะบริษัทนี้เขาเลือกที่จะทำ Pager ให้มีแป้นพิมพ์จนได้รับความนิยมมาก ๆ และในที่สุดก็ออกมาเป็น BB
ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/BlackBerry_950
มาในไทยช่วงปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) จนอยู่ดี ๆ ก็ฮิตเปรี้ยงปร้างเกิดเป็นระดับปรากฏการณ์เลยทีเดียว เพราะในบ้านเรา ณ ตอนนั้นนะครับ หันไปซ้ายขวาหน้าหลังคุณต้องเจอคนใช้ BB 3 ใน 4 คนเลยทีเดียว มันคือราชาแห่งโทรศัพท์ ยุคสมัยแห่งการแลก PIN
การแลกหมายเลข PIN ที่คุ้นเคยและคุ้นตา ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือการบรอดแคสผ่านใน BlackBerry Messenger หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "BBM" อีกที และเนี่ยแหละคือจุดเด่นของมันกับฟีเจอร์แชท BBM ที่สามารถใช้ได้เฉพาะคนที่ใช้ BB เท่านั้น พิมพ์คุยกันง่ายสะดวกกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยแป้นพิมพ์แบบ QWERTY เหมือนคีย์บอร์ดบนคอมพิวเตอร์
ที่มาภาพ : https://www.messengerdownload.org/download-blackberry-messenger
แน่นอนว่าความนิยมมันก็ตกลงและเลือนหายไปตามกาลเวลา และเวลาที่ว่านี้มันก็ถือว่าสั้นมากเลยทีเดียว ด้วยการมาของสมาร์ทโฟนที่ตรงข้ามกับ BB อย่างสิ้นเชิง ไร้แป้นพิมพ์ ไร้ปุ่มกด หน้าจอทัชสกรีน ที่มีนามว่า iPhone จึงทำให้ BB เสื่อมความนิยมลง เพราะพวกเขายังยึดจุดเด่น BBM ที่แชทกันด้วยรุ่นตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เจ้าอื่นเค้าสามารถคุยกันได้แม้จะไม่ใช่สมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าช่วงหลังจะยอมให้ผู้ใช้งาน (User) จากทาง iOS และ Android มาใช้งานก็ตาม แต่สุดท้าย BB ก็แทบจะไม่มีคนใช้เหลือไว้แต่ความทรงจำกาลครั้งหนึ่งเท่านั้น
ที่มาภาพ : https://www.theverge.com/2013/10/25/5028204/bbm-for-iphone-and-android-review
ทุกวันนี้บริษัททำ BB ก็ยังอยู่ ยังคงทำสมาร์ทโฟนอยู่ภายใต้ระบบ Android แต่ยอดขายก็ไม่ใกล้เคียงจุดเดิมเลยแม้แต่น้อย
ที่มาภาพ : https://metro.co.uk/2019/12/16/whatsapp-updates-introduces-three-new-features-including-clever-reminders-function-11913634/
โปรแกรมที่เปรียงดั่ง King Slayer มาล้ม BBM ที่ยังไม่เลิกฮิตในตอนนั้น ก็คือโปรแกรมสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ BB อย่าง WhatsApp เนี่ยแหละ
WhatsApp เข้ามามีบทบาทอย่างมากในช่วงปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และมันลบข้อจำกัดของ BB ทิ้งหมดเลย ไม่จำเป็นต้องมีสมาร์ทโฟนค่ายเดียวกัน เพียงโหลดโปรแกรมมาก็คุยกันได้แล้ว ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก โหลดปุ๊บใช้ปั๊บ
ที่มาภาพ : https://metro.co.uk/2019/12/16/whatsapp-updates-introduces-three-new-features-including-clever-reminders-function-11913634/
ภายหลัง WhatsApp ก็โดนบริษัทเจ้าพ่อแห่งวงการ Social Network อย่าง Facebook กวาดซื้อกิจการไป ด้วยเงิน 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยราว ๆ 521,000 ล้านบาท !! เลยทีเดียว
ถึงแม้ทุกวันนี้ในไทยจะไม่นิยมใช้ WhatsApp กันสักเท่าไหร่ แต่ในต่างประเทศยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย
ที่มาภาพ : https://www.messenger.com/?locale=th_TH
หลังจากที่ Facebook ได้กลายมาเป็นสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก พวกเขาก็ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องและในที่สุดก็ออกฟีเจอร์เพิ่มมา เปิดตัวในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) นั่นคือ Facebook Messenger
Facebook Messenger คือสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน Facebook ที่มีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ ทั้ง ส่งข้อความ ภาพ วิดีโอ เสียง สติ๊กเกอร์ อีโมจิ และอีกมากมาย
ที่มาภาพ : https://magazee.in/facebook-messenger-redesign-getting-much-simpler-with-new-design/
หลักการใช้งานมันก็ง่าย ๆ เพียงแค่เปิดหน้าต่างแชทหน้า Face ที่เราเล่น ๆ กันอยู่นี่แหละ ไม่ต้องโหลดให้วุ่นวาย แต่มันก็สามารถโหลดได้แล้วทุกแพลตฟอร์มเผื่อเอาไว้คุยอย่างเดียวก็ทำได้สบาย ๆ
และแน่นอน ไม่มีใครไม่รู้จักโปรแกรมแชทสุดฮิตของคนไทยในปัจจุบันอย่าง LINE (มีทั้งแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และ โปรแกรมบน PC)
รู้ไหมครับว่าทุกวันนี้ประเทศไทยมียอดผู้ใช้งาน LINE มากกว่า 47 ล้านคน* เป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่นเท่านั้น
*ข้อมูลเมื่อ สิงหาคม ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
โดย LINE ถูกสร้างขึ้นจากบริษัท Naver Japan Corporation และ Livedoor โดยมี NHN Japan เป็นผู้พัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ ออกมามากมาย
ซึ่ง LINE มีคุณสมบัติในการแชทครบถ้วน ทำได้ทุกอย่าง แชท ส่งรูป ส่งคลิป คอลคุยกันปิดกล้องเปิดกล้อง มีจุดเด่นมากมาย ใช้งานง่าย และสนุก เต็มไปด้วยบริการต่าง ๆ อีกเยอะแยะ มีจุดเด่นอยู่ที่สติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ ยิ่งช่วงหลังพัฒนาแบบเยอะมาก และยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ที่มาภาพ : https://www.downloadlinefree.com/line-messenger-interface
และในทุกวันนี้ในบ้านเรา ก็ยังเหมือนว่าจะไม่มีโปรแกรมแชทไหนจะสามารถมาทดแทนไลน์ได้จริง ๆ
ที่มาภาพ : https://www.logo.wine/logo/Telegram_(software)
เมื่อไม่นานมานี้หลายคนคงจะได้ยินชื่อ Telegram ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง เนื่องจากมันเป็น โปรแกรมแชท ที่ได้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในฮ่องกง เพื่อนัดพบกันในสถานที่ทำกิจกรรมชุมนุมและเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ พอถึงคราวชุมนุมในบ้านเรา เหล่านักศึกษาก็ได้ใช้ Telegram ด้วยเหตุผลเดียวกัน
เหตุผลง่าย ๆ นั่นก็เพราะว่า Telegram มันปลอดภัยกว่าไม่ต้องกลัวการสอดส่องจากผู้ไม่หวังดี มันคือแอปพลิเคชันสำหรับการแชทที่เข้ารหัสแบบ End-To-End (End-To-End Encryption) ที่มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลปลอดภัย ส่งถึงคนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
ที่มาภาพ : https://www.sketchappsources.com/free-source/2824-telegram-ios-ui-kit-sketch-freebie-resource.html
และนี่คือวิวัฒนาการโปรแกรมแชทของไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมา จริง ๆ มันก็มีอีกหลายโปรแกรมที่ได้ใช้สื่อสารพูดคุยกันโดยที่เราไม่ได้พูดถึงอีกมากเช่นกัน
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเจตนาของผู้ผลิตแต่ละโปรแกรม ผมเชื่อว่าเขาคงพยายามที่จะทำให้คนไกลเหมือนได้ใกล้กันมากขึ้น สื่อสารกันได้รวดเร็วขึ้น โต้ตอบกันได้ทันทีราวกับอยู่ด้วยกันต่อหน้า เป็นการลดระยะห่างความคิดถึงหน่อย ๆ แต่แน่นอนยังไงซะการเจอหน้าได้พูดคุยกันย่อมดีกว่า อย่ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาแชทมากจนเกินไป หันมาใส่ใจคนตรงหน้าดีกว่าครับ
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |