การได้มาซึ่ง สิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์ (Software License) และ บริการของ Microsoft นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ
ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวว่า Microsoft Open License Program (OLP) บริการขายซอฟต์แวร์ของ Microsoft รูปแบบหนึ่ง ที่กำลังจะปิดตัวในไม่ช้าหรือในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) พร้อมกับการที่ Microsoft ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มบริการขายซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากกว่าเดิมอย่าง Microsoft Cloud Solution Provider (CSP) บริการ 2 ชนิดนี้คืออะไร และ มันแตกต่างกันอย่างไร ? ลองหาคำตอบกัน
Microsoft Cloud Solution Provider หรือ Microsoft CSP เป็นโปรแกรมรูปแบบการขายบริการบนคลาวด์ (Cloud Service) ของ Microsoft ที่มอบกรรมสิทธิ์ให้พาร์ทเนอร์ตัวแทน Microsoft CSP สามารถบริหารผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ตั้งแต่การซื้อ Licenes (จาก Microsoft) นำมาจัดแพ็กเกจ และ ตั้งราคาเพื่อนำเสนอลูกค้าองค์กรต่าง ๆ ตลอดจนเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านเทคนิคกับลูกค้าได้โดยตรง ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้บริหารจัดการผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และช่วยให้พาร์ทเนอร์ใน Microsoft CSP สามารถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยไม่ต้องผ่าน Microsoft
ภาพจาก : https://www.qbsgroup.com/news/what-is-the-microsoft-cloud-solution-provider-program/
บริการที่ครอบคลุมอยู่ใน Microsoft CSP ประกอบไปด้วย
สมมติถ้าคุณเป็นผู้ขายคุณสามารถที่จะซื้อลิขสิทธิ์ของบริการเหล่านี้จาก Microsoft และนำมันมาผสมเพื่อจัดแพ็กเกจขายให้ลูกค้า สร้างโอกาสการให้บริการที่แตกต่างจากคู่แข่งได้เลย และอาจช่วยให้ขายสินค้าได้ง่ายมากขึ้นด้วย
ส่วนผู้ซื้อ ก็สามารถควบคุมต้นทุนด้านนี้ได้ดียิ่งขึ้นเพราะความยืดหยุ่นที่ผู้ขายมอบให้ได้มากกว่า Microsoft เช่นการตกลงเรื่องบิลชำระสินค้า และ ปรับเปลี่ยนแผนบริการ ผู้ซื้อเลือกที่จะต่ออายุ หรือ เลิกใช้ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการขยายหรือลดขนาดขององค์กร แถมยังได้ราคาที่คุ้มกว่าการซื้อกับ Microsoft โดยตรง
สำหรับการเป็น Microsoft CSP สามารถเข้าร่วมได้กับ Microsoft โดยตรง หรือ เข้าร่วมกับบุคคลที่ 3 โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
ภาพจาก : https://www.qbsgroup.com/news/what-is-the-microsoft-cloud-solution-provider-program/
การอยู่ใน Model ของ Tier 2 เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเพราะไม่ต้องติดต่อกับ Microsoft โดยตรง เรียกง่าย ๆ ว่าไม่ต้องไปสอบเทียบกับ Microsoft เอง ก็สามารถเข้าร่วมเป็น CSP ผ่านบุคคลที่ 3
Microsoft Open License Program หรือ Microsoft OLP นั้นเป็นรูปแบบการขายซอฟต์แวร์ของ Microsoft รูปแบบหนึ่งที่อยู่ในประเภทของ Volume License (ซื้อใช้งานตามประเภทขององค์กร) โดยสามารถติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย หรือ Microsoft โดยตรงเพื่อขอใบเสนอราคา และ นำ Key ไปเปิดใช้หรือดาวน์โหลด ผ่านโปรแกรม Microsoft Volume Licensing Service Center เหมาะกับการซื้อครั้งละมาก ๆ สำหรับองค์กรขนาดเล็ก - กลาง ที่มีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 2 - 250 เครื่อง และรองรับได้ถึง 750 เครื่อง กันเลยทีเดียว
ภาพตัวอย่างโปรแกรม Microsoft Volume Licensing Service Center
ข้อดีของ Open License คือสามารถซื้อโปรแกรมรุ่นที่ต่ำและถูกกว่ามาใช้งานได้ เช่น Microsoft Office 2016 เป็น 2013 เป็นต้น รวมถึงได้รับส่วนลดตามประเภทขององค์กร เช่น
นอกจากนี้สิทธิ์ในการใช้งานก็ยังสามารถโยกย้ายไปตามเครื่องอื่น ๆ ได้ตราบใดที่ยังอยู่ในจำนวน License ที่ได้รับ โดยการซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 5 Licenses เมื่อซื้อครั้งแรก
ข้อเสียของ Open License คือ จะไม่สามารถอัปเกรดเวอร์ชันของผลิตภัณฑ์ และเปลี่ยนแผนบริการได้ระหว่างทาง เว้นแต่จะซื้อ License ใหม่เพิ่ม เพราะเป็นสัญญาสิทธิ์แบบซื้อขาด นอกจากนี้ก็ยังไม่ครอบคลุมบริการ Cloud Service ทั้งหมด
นอกจากนี้แล้ว ซอฟต์แวร์ Cloud Service ก็ไม่สามารถอัปเกรดเวอร์ชันได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง Microsoft 365 เป็นต้น แต่ถ้าอยากได้การอัปเกรดต้องซื้อ Add-on เสริมเป็น Software Assurance เข้าไป คล้ายกับการซื้อประกันรายปีเพื่อขออัปเกรดซอฟต์แวร์และขอรับการสนับสนุนต่าง ๆ จาก Microsoft โดยประกันก็จะมีอายุ 2 ปี สามารถต่ออายุได้ภายหลัง
ภาพจาก : https://www.mychoicesoftware.com/blogs/news/what-is-open-licensing-understanding-microsoft-volume-purchases
อย่างไรก็ตามซอฟต์แวร์รูปแบบ Microsoft OLP ก็ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นเหมือนกันเพราะสามารถซื้อสิทธิ์การใช้งานแบบผสมโปรแกรมต่าง ๆ ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมชนิดเดียวกัน แต่ความยืดหยุ่นก็ไม่ได้เทียบเท่า Microsoft CSP
Microsoft CSP |
|
Microsoft Open License |
|
ทั้งนี้เนื่องจาก Microsoft OLP กำลังจะปิดตัวในอีกไม่ช้า ทาง Microsoft จึงได้โยกย้ายบริการที่ขายอยู่ใน Open License ทั้งหมดไปยัง Microsoft CSP ซึ่งก็หมายความว่าพวก ซอฟต์แวร์แบบซื้อขาดต่าง ๆ ก็จะถูกย้ายไปยัง Microsoft CSP เช่นกัน
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |