ในตอนที่คุณกำลังอยากจะติดตั้งไฟอัจฉริยะสักดวง ก็มีทางเลือกมากมายหลากหลายรูปแบบมาให้พิจารณา ในบรรดาทางเลือกเหล่านั้น ย่อมมีตัวเลือก หลอดไฟอัจฉริยะ (Smart Bulb) และปลั๊กไฟอัจริยะ (Smart Plug) เพื่อต่อเข้ากับหลอดไฟพ่วงมาด้วยแน่นอน แล้วทีนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรใช้แบบไหน แต่ละแบบที่ว่ามา มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ? ไปลองพิจารณาถึงตัวเลือกต่าง ๆ ด้านล่างกันค่ะ
หลอดไฟอัจฉริยะ (Smart Bulb) เป็นหลอดไฟ LED ที่สามารถต่อเข้ากับเครือข่าย อุปกรณ์สมาร์ทโฮม (Smart Home Devices) และควบคุมโดยแอปพลิเคชันหรือลำโพงอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกันได้ เช่น Amazon Alexa, Google Home เป็นต้น โดยหลอดไฟอัจฉริยะ สามารถหมุนเข้ากับขั้วต่อหลอดไฟที่มีอยู่เดิมได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเปิดปิดไฟด้วยคำสั่งง่าย ๆ ผ่านลำโพงอัจฉริยะ รวมทั้งยังสามารถตั้งค่าในแอปพลิเคชันของตัวหลอดไฟอัจฉริยะนั้น ๆ เพื่อเซ็ตเวลาเปิดปิดที่ต้องการได้
เครดิตภาพ : https://www.jlhome.in.th/index.php?route=product/product&product_id=280
นอกจากนี้ หลอดไฟอัจฉริยะบางตัว ยังสามารถทำได้มากกว่าการตั้งเวลาเปิดปิด เพียงแค่เพิ่มเงินเข้าไปอีกนิด คุณก็จะได้หลอดไฟอัจฉริยะราคาแพงที่สามารถทำได้ทั้ง :
แน่นอนว่า ยิ่งหลอดไฟอัจฉริยะที่คุณเล็งไว้มีหลายออปชันมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งเพิ่มเป็นเงาตามตัว ดังนั้น หลอดไฟที่ทำได้แต่เปิดปิดกับมีสีเดียว ก็จะมีราคาถูกที่สุดในท้องตลาด (แล้วก็ไปวัดกันที่ยี่ห้ออีกที)
ปลั๊กไฟอัจฉริยะ คือปลั๊กที่สามารถเสียบเข้ากับแหล่งจ่ายไฟที่มีอยู่เดิมได้ และสามารถควบคุมได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือลำโพงอัจฉริยะได้ ปลั๊กไฟอัจฉริยะส่วนใหญ่ทำง่าย ๆ เพียงแค่ทำหน้าที่เปิด-ปิดการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์นั้น ๆ ที่ต่อไฟออกไปจากตัวมันอีกที
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ใช้ปลั๊กอัจฉริยะเพื่อควบคุมโคมไฟหรือแหล่งแสงสว่างอื่น ๆ จริง ๆ แล้ว คุณสามารถต่อปลั๊กเข้ากับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใดใดก็ได้เพื่อให้คุณสามารถเปิดปิดได้ดังใจโดยไม่ต้องเดินไปหาเต้าปลั๊ก เช่นเดียวกันกับหลอดไฟอัจฉริยะ ที่จะมีแอปฯ สำหรับควบคุมและตั้งเวลาเปิด-ปิดมาให้ใช้คู่กันด้วย
เครดิตภาพ : https://www.mercular.com/innohome-iplug
สิ่งเดียวที่ปลั๊กอัจฉริยะไม่สามารถทำได้ คือการที่จะให้มันทำอะไรสักอย่างนอกเหนือไปจากการเปิดปิดการจ่ายไฟ เช่น ปรับอุณหภูมิหลอดไฟ หรือหรี่ไฟในระดับที่ต้องการ เพราะมันมีหน้าที่เป็นเหมือนสวิตช์สำหรับเปิด-ปิดไฟระยะไกลเท่านั้น
หลอดไฟอัจฉริยะสามารถติดตั้งได้ง่ายมาก เพียงแค่ทำการหมุนมันเข้ากับโคมไฟหรือขั้วรับหลอดไฟที่ต้องการ แล้วปล่อยให้แหล่งจ่ายไฟมันเปิดไว้ตลอดเวลา แล้วคุณก็จะสามารถเปิด-ปิด รวมถึงใช้งานออปชันอื่น ๆ ผ่านแอปฯ ที่มาด้วยกัน หรือลำโพงอัจฉริยะได้เลย
หลอดไฟอัจฉริยะ จะเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ถ้าหากคุณกำลังมองหา :
ปลั๊กอัจฉริยะนั้นง่ายต่อการติดตั้ง เพียงแต่เสียบปลั๊กเข้ากับเต้าปลั๊กหรือแหล่งจ่ายไฟมาตรฐาน จากนั้นก็ทำการต่ออุปกรณ์ที่คุณต้องการควบคุมเข้ากับปลั๊กอัจฉริยะอีกที แล้วปล่อยให้แหล่งจ่ายไฟนั้น ๆ เปิดทำงานเอาไว้ (ถ้าเป็นเต้าปลั๊กก็เสียบปลั๊กอัจฉริยะคาไว้เลย) จากนั้นคุณก็จะสามารถจัดการปิดเปิดอุปกรณ์นั้น ๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชันหรือลำโพงอัจฉริยะอีกที
ปลั๊กไฟอัจฉริยะ จะเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ถ้าเกิดว่าคุณ :
ในที่นี้ เราจะมาคุยกันเรื่องของระบบไฟอัจฉริยะเป็นหลัก ว่าอุปกรณ์แบบไหนที่จะเข้ากับลักษณะการใช้งานของคุณได้มากที่สุด ระหว่าง หลอดไฟอัจฉริยะ กับ ปลั๊กไฟอัจฉริยะ โดยมีปัจจัยการพิจารณาดังต่อไปนี้
เครดิตภาพ : https://www.freepik.com/free-photo/man-changing-light-bulb_2755638.htm#query=lamp%20installing&position=41&from_view=search
ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจนำมาพิจารณาร่วมด้วยก็คือ ในกรณีของปลั๊กอัจริยะ ที่เสียบเข้ากับแหล่งจ่ายไฟอีกที จะมีขนาดของปลั๊กที่ขยายออกมาราวนิ้วหรือหลายนิ้ว ขึ้นอยู่กับโมเดลของปลั๊ก ซึ่งมันอาจจะเป็นปัญหาที่ไปบดบังรูปลั๊กอื่น ๆ ได้ ถ้าคุณมีช่องปลั๊กหรือเต้าปลั๊กไฟจำกัด หรือเกรงว่าอาจจะเดินไปชนเข้ากับปลั๊กไฟเพราะเรื่องของพื้นที่ห้องแล้วล่ะก็ การเลือกหลอดไฟอัจฉริยะก็ดูจะเป็นอะไรที่เข้าท่ากว่า
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |