โหมดง่าย (Easy Mode), โหมดปานกลาง (Moderate Mode), และโหมดยาก (Hard Mode) สามโหมดนี้เป็นโหมดที่มีให้เลือกเล่นเกือบทุกเกม จนแทบจะเป็นมาตรฐานสำหรับเกมที่สามารถเลือกความยาก-ง่าย ได้กันไปแล้ว เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับกลุ่มผู้เล่นที่มีระดับความสามารถในการเล่น หรือมีความต้องการในการเล่นที่แตกต่างกันออกไป
ถ้าปกติแล้วคุณเป็นคนที่ชอบเลือกเล่นในโหมดความยากระดับปานกลาง หรือระดับยาก คุณอาจจะเคยสงสัยว่า ทำไมถึงมีโหมดง่ายมาให้เลือก ใครจะไปเลือกเล่นโหมดง่ายกัน จริง ๆ แล้วมันมีเหตุผลเบื้องหลังอยู่มากมายที่คุณควรลองเล่นโหมดง่ายเป็นโหมดเริ่มต้นดูสักหน่อย ซึ่งเหตุผลด้านล่างที่เราจะพูดถึง เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นไม่มากก็น้อย
เกมหลายเกมในปัจจุบันมักทำของสะสมในรูปแบบต่าง ๆ ชนิดที่เรียกว่าร้อยแปดพันเก้า รอคุณมาค้นพบ โดยคุณสามารถวิ่งเก็บสะสมไปเรื่อย ๆ ในระหว่างที่เรียนรู้เนื้อเรื่องหลักไปพร้อมกันได้ด้วย หรือจะเก็บของสะสมไว้ทีหลัง แล้วค่อยแวะมาเก็บอีกทีตอนจบเกมก็ไม่ใช่ปัญหา บ่อยครั้งที่มันจะง่าย และกินเวลาน้อยกว่ามาก ถ้าคุณเลือกระดับความยากเป็นระดับง่ายแทนเพื่อการนี้
เครดิตภาพ : https://www.ign.com/wikis/resident-evil-7/Old_House
และนี่คือคำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สามารถรับมือกับความยากระดับปานกลาง หรือ ยากได้ เพราะถ้าคุณต้องการโฟกัสไปการเก็บของพวกนี้โดยเฉพาะแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นงานช้างอยู่สักหน่อยถ้าคุณต้องหลบการโจมตีจากศัตรูไปด้วยในระหว่างที่สายตากำลังสอดส่องหาของมีค่าภายในฉากอยู่
บางที คุณอาจรู้สึกว่าเริ่มไม่ค่อยมีเวลาเล่นมาก ๆ เหมือนที่เคยมีในอดีต อาจเพราะงานล้นมือ หรือต้องให้เวลากับครอบครัวเพิ่มขึ้น หรืออาจเป็นเพราะงานอดิเรกใหม่ที่ทำให้คุณต้องใช้เวลากับมันมากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ หรืออะไรก็ตามแต่ ล้วนเป็นเหตุผลที่บ่งบอกได้ว่า คุณกำลังมีเวลาให้เกมน้อยลงกว่าที่เคยในการเล่นโหมดปกติหรือโหมดยาก
ด้วยความยากระดับง่าย จะทำให้คุณใช้เวลาน้อยลงในการเล่นเกม และเรียนรู้กลไกแต่ละอย่างในการผ่านด่านไปสู่ช่วงถัดไปของเกม บ่อยครั้งที่โหมดง่าย ทำให้คุณสามารถผ่านฉากนั้น ๆ ได้เร็วขึ้น และไม่ต้องใช้การทดสอบจิตใจอะไรมากมาย (บางเกมเล่นโหมดยากนี่ก็เหมือนทำสงครามประสาทกับผู้พัฒนากลาย ๆ) ทำให้คุณสามารถผ่อนคลายได้มากขึ้น และสามารถผ่านเกมได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องเปลืองแรงกายแรงใจมากนัก
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเล่นเกมเก่ง และถ้าคุณเล่นเกมไม่เก่ง ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องรู้สึกเสียใจหรือน้อยเนื้อต่ำใจที่เราเล่นไม่เก่งเหมือนชาวบ้านเขาแต่อย่างใด และไม่จำเป็นที่จะต้องพยายามเล่นโหมดธรรมดาหรือโหมดยากให้ได้ด้วย
ระดับความยากของเกมที่แตกต่างกัน มีไว้เพื่อช่วยให้คุณ ๆ ทั้งหลายได้สนุกกับเกมไม่ว่าคุณจะมีทักษะการเล่นเกมอยู่ในระดับไหนก็ตาม อย่างน้อย ๆ คุณสามารถเล่นเกมในโหมดง่ายให้ผ่านได้แน่นอน หนำซ้ำบางครั้งคุณอาจจะสนุกกับการเล่นในระดับนี้มากกว่าไปฝืนเล่นในโหมดที่ยากกว่านี้นะ (ถ้าเราเล่นเกมแล้วไม่สนุก เราจะเล่นเกมไปทำไมกันล่ะ ?)
เครดิตภาพ : https://forums.warframe.com/topic/1109944-difficulty-settings-per-mission/
ผู้เล่นหลายคนมักพยายามฝืนตัวเองให้เล่นไปในโหมดธรรมดาและโหมดยาก ทั้ง ๆ ที่เล่นไปก็ไม่สนุกเอาเสียเลย ซึ่งบางครั้ง ก็เป็นเพราะเพื่อนตัวดีเป็นต้นเหตุด้วยที่ไม่ยอมให้เพื่อนตัวเอง (ตัวเรา) เล่นในความยากที่ต่ำกว่าโหมดธรรมดา
และถ้าจะว่ากันถึงข้อเท็จจริงที่คุณเองก็จะสามารถพัฒนาทักษะการเล่นเกมได้ ด้วยการเล่นที่มากขึ้น หรือท้าทายมากขึ้นแล้วล่ะก็ คุณก็ต้องไม่ลืมว่าตัวคุณเองต้องรู้สึกสนุกไปกับมันด้วย และไม่ถูกบั่นทอนไปโดย AI ของเกมซะก่อน ซึ่งแทนที่จะได้พัฒนา จะกลายเป็นรู้สึกท้อถอยและหมดไฟไม่อยากเล่นไปแทน
มีเกมหลายเกมออกใหม่อยู่เนือง ๆ ทำให้อุตสาหกรรมเกมมีเกมใหม่เพิ่มเข้ามาแทบจะทุกวัน แม้กระทั่งเกมที่จัดว่ายอดเยี่ยมในระดับ AAA ก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคุณยังมีงานที่ต้องทำ มีการบ้านที่ต้องเคลียร์ หรือแม้แต่ครอบครัวที่ต้องใส่ใจดูแล เวลาเล่นเกมของคุณก็ย่อมมีน้อยลง และทำให้การจบเกมของคุณล่าช้าออกไปเป็นธรรมดา
เครดิตภาพ : https://gameranx.com/features/id/226995/article/21-best-aaa-video-games-releasing-in-2021/
ดังนั้นในกรณีแบบนี้ การเลือกโหมดความยากเป็น ระดับง่าย ทำให้คุณสามารถเคลียร์เกมได้ไวขึ้น แถมบางเกม ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนความยากได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการเลยด้วย ดังนั้นถ้าคุณมาถึงจุดที่เคลียร์เกมไปในระดับที่พอใจแล้ว ค่อยมาปรับระดับความยากเอาทีหลังก็ได้
ถ้าโหมดง่ายไม่ใช่โหมดเริ่มต้นของคุณ ลองถอยมาเป็นโหมดง่ายดูสักครั้ง คุณอาจจะค้นพบความจริงว่า บางทีกลไกของเกม (Game Mechanic) อย่างเช่น Call of Duty การเล่นกับบอทในโหมดง่าย จะสามารถฝึกทักษะได้ง่ายกว่าโดยที่ไม่ต้องเผชิญกับการตายซ้ำตายซาก และสามารถสะสม Killstreaks เพื่อเอาไว้ทดลองอุปกรณ์ตัวช่วยตามระดับต่าง ๆ ที่ปลดล็อกมาให้ใช้ได้ง่ายกว่า แถมยังทำให้คุณสามารถเล่นแบบบ้าระห่ำได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย
เครดิตภาพ : https://www.techradar.com/how-to/call-of-duty-modern-warfare-killstreaks-list-of-every-cod-killstreak-reward
ในขณะที่คุณกำลังเล่นโหมดธรรมดาหรือโหมดยาก คุณอาจจะพลาดการองค์ประกอบของการดำเนินเรื่องอะไรบางอย่างไปถ้าหากต้องไปโฟกัสอยู่ที่การเอาตัวรอดเป็นหลัก การตัดสินใจเล่นในโหมดง่าย จะทำให้คุณมีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลว่าศัตรูจะมือหนักกับเรามาก ทำให้เราไม่ตายง่าย ๆ และสามารถโฟกัสกับเนื้อเรื่องของเกมได้มากขึ้นไปโดยปริยาย
เครดิตภาพ : https://guides.gamepressure.com/thief/guide.asp?ID=23977
ฉะนั้น ถ้าคุณชอบดื่มด่ำไปกับความสนุกหรือความเข้มข้นของเนื้อเรื่องที่ผู้พัฒนาใส่ให้มาแล้วล่ะก็ การเล่นโหมดง่ายน่าจะดูเข้าท่ากว่า
เหตุผลนี้อาจจะใช้ไม่ได้ถ้าคุณเป็นคอเกมคอนโซลหรือมี PC ที่แรงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีเกมจำนวนมากที่มักใช้การเพิ่มศัตรูเข้ามา และบางครั้งมีระเบิดเป็นอาวุธหลักร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับระดับความยากที่คุณเลือกไว้ ซึ่งในเกมลักษณะนี้ คุณจะค้นพบว่าไม่สามารถเล่นโหมดยากได้อย่างเต็มที่ เหตุผลเพียงเพราะว่าเครื่องของคุณมันรันได้ไม่ดีพอที่จะรองรับสิ่งที่เกมปรับเพิ่มเข้ามาตามระดับความยากที่คุณเลือกไว้
ในเคสแบบนี้ การเปลี่ยนไปเล่นโหมดง่าย อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้ PC ของคุณต้องรับภาระหนักเกินไปในการรันเกม ถึงแม้ว่าจะดูเป็นปัญหาที่น่ารำคาญใจใช้ได้ แต่ถ้าคุณยังไม่สามารถอัปเกรด PC หรือขอคืนเงินได้แล้วล่ะก็ ทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ก็คือการลดระดับความยากลง เพื่อให้เกมสามารถรันได้อย่างลื่นไหลแทน
เครดิตภาพ : https://www.carls-fallout-4-guide.com/difficulty.php
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |