หากพูดถึง สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ส่วนมากอาจจะนึกถึง Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากยุคนี้เทรนด์การลงทุนในกลุ่มเหล่านี้ถือว่ามาแรงจนฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แท้จริงคำว่า สินทรัพย์ดิจิทัล ยังสามารถตีความได้กว้างกว่านั้น บทความนี้เราจะมานิยามถึงความหมายของสินทรัพย์ดิจิทัลกัน รวมทั้งอะไรบ้าง ที่สามารถเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณได้
คำว่า "Digital Asset" หากแปลเป็นไทยคือ "สินทรัพย์ดิจิทัล" แต่ถ้าจะให้อธิบายออกมาให้ง่ายที่สุด ก็คือ "สิ่งที่มีมูลค่าและเราสามารถเป็นเจ้าของได้ แต่ไม่สามารถแตะต้องได้ทางกายภาพ" สิ่งเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นในระบบดิจิทัล และเก็บไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ แล็ปท็อป หรือ อุปกรณ์เก็บข้อมูลต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นนอกเหนือจาก Cryptocurrency แล้วอะไรก็ตามที่เข้าข่าย ก็สามารถจัดเป็น "สินทรัพย์ดิจิทัล" ได้ เพียงแค่ก่อนหน้านี้เราอาจมองว่ามันไม่ได้มีมูลค่าเหมือน Cryptocurrency ที่เป็นกระแสนิยม
แม้ว่าเนื้อหาบางอย่างจะมีการตีพิมพ์เป็นหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์ แต่ข้อมูลต่าง ๆ ที่จัดเก็บอยู่ในรูปแบบของดิจิทัล เช่น ไฟล์เอกสารเวิร์ด (Word Document File), ไฟล์แผ่นตารางทำการ หรือ ไฟล์สเปรดชีต (Spreadsheet File) และ ไฟล์การนำเสนองาน (Presentation File) และนอกจากนี้ก็ยังรวมไปถึง หนังสือออนไลน์ (e-Book) หนังสือเสียง (Audiobook) และบริการรูปแบบ Information Product อื่น ๆ
ในขณะที่เว็บไซต์และสื่อมีเดียต่าง ๆ ที่ต้องเสียเงินชำระก่อนจะเข้าถึงเนื้อหาเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น นิยายจากเว็บไซต์ Dek-d.com, หนังสือออนไลน์ที่วางขายในแพลตฟอร์มของ Ookbee หรือแม้แต่ หนังสือเสียงใน Spotify สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็น สินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทหนึ่ง เช่นกัน
เมื่อถูกสร้างและถูกใช้งานในระบบดิจิทัลแน่นอนว่า ซอฟต์แวร์ (Software) และ แอปพลิเคชัน (Application) ก็คือ สินทรัพย์ดิจิทัล อย่างหนึ่งเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ซอฟต์แวร์เกม ซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจ ซอฟต์แวร์สำหรับสื่อมีเดีย และอื่น ๆ เราสามารถมีสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของได้จากการซื้อขาย หรือ บางทีก็อาจจะฟรีด้วยซ้ำ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ซอฟต์แวร์ (Software) แอปพลิเคชัน (Application) และ โปรแกรม (Program) ต่างกันอย่างไร ?
หากคุณใช้ โปรแกรม CAD (Computer Aided Design) เพื่อออกแบบโมเดลสามมิติ (3D Model) ออกแบบสถาปัตยกรรม หรือออกแบบภาพ เป็นต้น งานออกแบบเหล่านั้นนอกจากจะกลายเป็นทรัพย์สินทางปัญญาแล้วก็ยังเป็น สินทรัพย์ดิจิทัลชิ้นหนึ่งเช่นกัน
เว็บไซต์ (Website) และ ชื่อโดเมน (Domain Name) ถือเป็น "สินทรัพย์ดิจิทัล" ประเภทหนึ่งที่มีมูลค่าสูงพอสมควร มีการซื้อขายกันเป็นหลักล้านจนถึงหมื่นล้านบาท ยิ่งหากเว็บไซต์ใด มีคอนเทนต์ มียอดทราฟิกและยอดการคลิกรับชมสูง ก็สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมาจากคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทำให้มูลค่าของเว็บไซต์เหล่านั้นก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย
อย่างที่ทราบกันดีหลังจากตลาดบล็อกเชน (Blockchain) ได้เติบโตและมีผู้ให้ความสนใจทั้งกลุ่มธุรกิจและนักลงทุนต่าง ๆ ชื่อของ Cryptocurrency ก็กลายมาเป็นทอร์กออฟเดอะทาวน์ เป็นสินทรัพย์ประเภท "เงิน" ในโลกของดิจิทัลที่ถูกนำมาแลกเปลี่ยน หรือใช้ทำธุรกรรมกันบนโลกออนไลน์ได้ กระทั่งในเรื่องของการลงทุน
คริปโตเคอร์เรนซี ประกอบด้วยกลุ่มเหรียญจำพวก Bitcoin หรือ Ethereum ที่พัฒนาจากบล็อกเชนของตัวเองและนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง
ข้อมูลเพิ่มเติม : Bitcoin คืออะไร ? Bitcoin Cash คืออะไร ? และต่างกันอย่างไร ?
คริปโตโทเคน ก็จะคล้าย ๆ กับ Cryptocurrency แต่ต่างตรงที่ไม่ได้มีบล็อกเชนเป็นของตัวเอง มักสร้างขึ้นเพื่อใช้กำหนดสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขบางอย่างที่ผู้ครอบครองจะได้จากองค์กรหรือคนที่สร้างโทเคนเหล่านั้น เช่น สิทธิในการร่วมลงทุน (Investment Token) และได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจของผู้สร้างโทเคน หรือ สิทธิในการซื้อขายสินค้าและบริการพิเศษต่าง ๆ (Utility Token) เป็นต้น โดยเหรียญเหล่านั้นองค์กรหรือผู้สร้างก็จะขายเพื่อแลกกับเหรียญคริปโตหลักอย่างพวก Bitcoin นั่นเอง
ในขณะที่ NFT (Non Fungible Tokens) คือ โทเคนดิจิทัล (Digital Token) ที่สร้างขึ้นใน Blockchain และเปลี่ยนให้เป็นผลงาน ศิลปะ, รูปภาพ, เพลง, วิดีโอ และ วัตถุต่าง ๆ กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่แยกออกมาจากตัวตนในโลกความเป็นจริง ผลงานหรือวัตถุแต่ละชิ้นที่เป็น NFT มีรหัสประจำตัว และ ข้อมูลเมตาที่ไม่ซ้ำกัน กล่าวคือมันมีความพิเศษของตัวมันเอง ทำให้ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ ผู้ถือครอง Token ของผลงานเหล่านั้น คือผู้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของผลงานแต่เพียงผู้เดียว
Entertainment & Media (สื่อบันเทิง และสื่อบันทึกต่าง ๆ) เช่น รูปภาพ, วิดีโอ, ภาพยนตร์, ดนตรี และภาพเคลื่อนไหว
ภาพจาก https://www.airnfts.com/nft/music-nft
ข้อมูลเพิ่มเติม : Metaverse คืออะไร ?
แม้ทุกวันนี้คำว่า "สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset)" มักจะถูกใช้ในการกล่าวถึงการลงทุนเกี่ยวกับ Cryptocurrency หรือ NFT เป็นส่วนใหญ่ แต่จากตัวอย่างที่กล่าวมา พบว่าเราสามารถนิยามคำว่า สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ได้หลายอย่างเลยทีเดียว เพราะสิ่งที่เราครอบครองอยู่ในระบบดิจิทัลทุกอย่างล้วนมีมูลค่าในตัวมันเองและมันก็คือสิ่งที่ใช้เรียกว่า "สินทรัพย์ดิจิทัล" ได้เหมือนกัน
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |