ถ้าหากย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ตอนที่ Apple เปิดตัว iPhone 4 สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) ชายผู้ให้กำเนิด iPhone ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า "No one would want to buy a phone with a big screen" (ไม่มีใครอยากจะซื้อโทรศัพท์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่หรอก)
แต่ในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) Samsung ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล หรือซีรีส์ "Galaxy Note" ออกมา พร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5.3 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มากสำหรับสมาร์ทโฟนในยุคนั้น นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับ S Pen สไตลัสขนาดเล็กในตัว ไว้ให้ผู้ใช้สามารถถขีดเขียน, จดบันทึก หรือวาดรูปได้อีกด้วย
ภาพจาก : https://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-note20/
Samsung Galaxy Note ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มันได้รับการต้อนรับจากผู้ใช้อย่างอบอุ่น และสร้างกระแสให้หลายค่ายพยายามพัฒนาสมาร์ทโฟนจอใหญ่ออกมาแข่งขันในตลาดมากมาย แต่ในปัจจุบันนี้ ขนาดหน้าจออันใหญ่โตของ Galaxy Note ที่ไม่ใช่จุดขายสำคัญอีกต่อไป เพราะสมาร์ทโฟนจอใหญ่กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำให้จุดขายของ Galaxy Note เหลือเพียงแค่ปากกา S Pen อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่คุณสมบัติที่ทุกคนต้องการใช้ ส่งผลให้มีคนสนใจ Galaxy Note ลดลงเรื่อย ๆ จนในสุดทาง Samsung ก็ยุติซีรีส์ Note ไปอย่างเงียบ ๆ โดยมีรุ่นสุดท้ายเป็น Galaxy Note 20 และ Note 20 Ultra ที่ออกมาในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
แต่ปัญหาด้านยอดขาย คือเหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ทาง Samsung ปิดตำนาน Note จริง ๆ เหรอ ลองมาวิเคราะห์กันสักหน่อย
ที่ผ่านมา ทาง Samsung ได้เปิดตัว Galaxy Note รุ่นใหม่เป็นประจำทุกปี มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่เปิดตัวรุ่นแรกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) แม้ว่าในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) จะเคยสะดุดไปบ้าง จากปัญหา Galaxy Note 7 เกิดข้อผิดพลาดด้านการออกแบบ ทำให้เกิด ปัญหาแบตเตอรี่ระเบิด จนต้องหยุดวางจำหน่ายไปอย่างรวดเร็ว แต่ในปีถัดมา ทาง Samsung ก็ยังคงเปิดตัว Galaxy Note 8 ตามปกติ
แม้ว่า Galaxy Note จะมีฮาร์ดแวร์ที่ยอดเยี่ยม จัดสเปกมาแบบเรือธง (Flagship) มีการอัปเกรดทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ใหม่ทุกปี แต่ความสนใจจากผู้บริโภคกลับลดลงเรื่อย ๆ
เราลองมาพิจารณายอดขายของ Galaxy Note ที่ผ่านมากัน
แต่หลังจากนั้น ยอดขายของ Galaxy Note ก็เริ่มลดลงทุกปี ในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) Samsung ขาย Galaxy Note ไปได้ประมาณแค่ 12,700,000 เครื่อง และในปีถัดมาก็ลดลงเหลือเพียง 9,700,000 เครื่อง
การที่ยอดขายของ Galaxy Note ลดลงนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะขนาดหน้าจอที่ใหญ่โตของมันเป็นเรื่องสุดธรรมดาของสมาร์ทโฟนยุคนี้ ส่วนปากกา S Pen นั้น ก็มีแอปพลิเคชันให้ใช้งานบน Galaxy S ได้เช่นกัน แม้มันจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างก็ตาม
เมื่อเข้าสู่ ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ทางบริษัท Samsung ได้ตัดสินใจไม่เปิดตัว Galaxy Note 21 เหมือนอย่างเคย เนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ที่เกิดขึ้นกับบริษัทหลายแห่งทั่วโลก แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปิดตัว Galaxy Note รุ่นใหม่ แต่ทาง Samsung ก็ยังคงผลิต Galaxy Note 20 ไปจนถึงช่วงสิ้นปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่ยังมีอยู่ของลูกค้า จากรายงานของสื่อ ได้มีการระบุว่า Galaxy Note 20 มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 3,200,000 เครื่อง โดยยอดขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
ในที่สุด ณ งาน Mobile World Congress 2022 คุณ Roh Tae-Moon หัวหน้าทีมพัฒนาสมาร์ทโฟนของบริษัท Samsung ก็ได้ออกมายืนยันว่าการเดินทางของ Galaxy Note ได้จบลงแล้วอย่างเป็นทางการ
แม้ว่าทาง Samsung จะปิดตัวซีรีส์ Galaxy Note แล้วอย่างเป็นทางการ แต่ Galaxy S22 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) นั้น พูดตามตรงแล้ว มันก็คือ Note 22 Ultra นั่นเอง เพราะคุณสมบัติ และประสบการณ์ในการใช้งานที่ผู้ใช้จะได้รับจาก Galaxy S22 Ultra นั้นเหมือนกับ Galaxy Note ทุกประการ และคาดว่าทาง Samsung จะเลือกแนวทางนี้ต่อไปในอนาคต ไม่แยกสายการผลิตระหว่าง "ซีรีส์ S" และ "ซีรีส์ Note" ต่อไปอีกแล้ว
Galaxy S22 Ultra
ภาพจาก : https://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s/galaxy-s22-ultra-green-512gb-sm-s908ezghthl/buy/
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Samsung ตัดสินใจยกเลิกการทำซีรีส์ Galaxy Note ที่อยู่มาอย่างยาวนาน เพราะทาง Samsung เชื่อมั่นว่าสมาร์ทโฟนจอพับ (Foldable Devices) คืออนาคตที่แท้จริง ซึ่งยอดขายของ Galaxy Z Fold และ Galaxy Z Flip ก็มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกอย่าง ราคาของสมาร์ทโฟนจอพับนั้นสูงกว่าจอปกติมาก แน่นอนสินค้ายิ่งแพง ส่วนแบ่งกำไรก็ยิ่งเยอะ
Galaxy Z Flip
ภาพจาก : https://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-z-flip3-5g/
Roh Tae-Moon หัวหน้าทีมพัฒนาสมาร์ทโฟนของบริษัท Samsung ได้ออกมาระบุในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ว่าในปีที่ผ่านมาทางบริษัทได้ขาย สมาร์ทโฟนจอพับ (Foldable Devices) ไปได้มากกว่า 10,000,000 เครื่องทั่วโลก ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงกว่ายอดขายของ Galaxy Note ในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เสียอีก
แทนที่จะมีเรือธงหลายซีรีส์ ทางบริษัทได้วางแผนที่จะให้ช่วงครึ่งปีแรกเป็นเวลาที่ Galaxy S ได้เฉิดฉาย ส่วนสมาร์ทโฟนจอพับจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสสาม เพื่อแสดงนวัตกรรมของบริษัท
ความจริงแล้ว การที่ Samsung นำ Galaxy S และ Galaxy Note มารวมกันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ในยุคที่สมาร์ทโฟนนั้นเริ่ม "ตัน" แทบจะไม่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาเป็นจุดขายได้แล้ว ในช่วงไม่กี่ปีมานี้สมาร์ทโฟนก็เพียงแค่อัปเกรดสเปก และความคมชัดของกล้องเท่านั้นเอง หน้าจอที่ใหญ่โต และ S Pen ไม่ใช่จุดขายที่น่าสนใจอีกต่อไป
การรวมไลน์สินค้าเพื่อลดภาระในการพัฒนา แล้วเอาทรัพยากรที่เหลือไปทุ่มเทให้กับอนาคตอย่าง Galaxy Fold จึงเป็นทางเลือกที่ดูมีอนาคตกว่ามาก
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |
ความคิดเห็นที่ 1
22 สิงหาคม 2565 11:12:42
|
||
ขอบคุณครับ
|
||