moonlightkzทาง Microsoft ได้ปล่อย ระบบปฏิบัติการ Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 ออกมาให้อัปเดตกันได้แล้ว โดยในเวอร์ชันนี้ได้มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เข้ามามากมาย แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากผู้ใช้หลายคนที่ประสบปัญหาไม่สามารถอัปเดตเพื่อติดตั้งได้ โดยจะได้การแจ้งเตือนเป็นรหัสข้อผิดพลาด 0x80246019 หรือไม่ก็ 0x800f0806 เป็นต้น
หากกดอัปเดต Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 แล้วเจอปัญหาแบบนี้จะมีวิธีแก้อย่างไรบ้าง ? มาอ่านกัน
เริ่มต้นวิธีแรกด้วยการใช้เครื่องมือช่วยเหลือที่ Microsoft ใส่มาให้ใช้แก้ไขเวลาที่มีปัญหา นั่นก็คือ เครื่องมือ Windows Update Troubleshooter โดยสามารถเรียกใช้งานได้ด้วยขั้นตอนดังนี้
ระบบจะเริ่มทำการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาให้เราโดยอัตโนมัติ
ถ้าหากไฟล์ระบบของ ระบบปฏิบัติการ Windows เกิดความเสียหาย มันก็สามารถส่งผลให้เกิดปัญหาต่อ Windows Update ได้เช่นกัน เราสามารถสแกน และซ่อมแซมได้ด้วยการใช้คำสั่ง System File Checker ด้วยขั้นตอนดังนี้
โดย Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 จัดว่าเป็นเมเจอร์อัปเดตครั้งใหญ่ ทำให้ต้องการพื้นที่ว่างในการอัปเดตค่อนข้างเยอะ โดยในขณะที่อัปเดตไดร์ฟควรจะมีพื้นที่ว่างเหลืออย่างน้อย 64 GB หากไดร์ฟของเรามีพื้นที่เหลือไม่พอ ให้ย้ายไฟล์ไปเก็บไว้ที่อื่น และใช้เครื่องมือทำความสะอาดไดร์ฟเพื่อล้างไฟล์ขยะออกจากระบบ โดยมีขั้นตอนดังนี้
ในการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Windows นั้น จะมี Services หลายตัวที่เกี่ยวข้อง ให้เราเข้าไปตรวจสอบ Services ที่จำเป็นต่อการอัปเดตด้วยขั้นตอนดังนี้
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3-6 อีกครั้ง กับเมนู Background Intelligent Transfer Service, Cryptographic Service และ Windows Update services
สำหรับ .NET Framework 3.5 เป็นแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทาง Microsoft สร้างขึ้นมา มันเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งโดยปกติมันก็จะถูกเปิดใช้งานเอาไว้อยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่คาดคิดมันอาจจะถูกปิดเอาไว้ ซึ่งส่งผลให้ Windows ไม่สามารถอัปเดตได้ ดังนั้น ให้เราเข้าไปตรวจสอบสถานะการทำงานของ .NET Framework 3.5 ด้วยขั้นตอนดังนี้

ในการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Windows มันจะอาศัยส่วนประกอบ (Components) หลายส่วนร่วมกันทำงาน หากส่วนใดส่วนหนึ่งทำงานผิดปกติ ก็จะส่งผลต่อการอัปเดตได้เช่นกัน หากมีปัญหาในการอัปเดตก็ให้ลองรีเซ็ตส่วนประกอบเหล่านั้นดู ด้วยขั้นตอนดังนี้

การทำงานของ โปรแกรมแอนตี้ไวรัสแบบ บุคคลที่สาม (3rd-Party) บางค่าย ส่งผลต่อการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 ได้ ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ ด้วยการตั้งค่าปิดการทำงานของคุณสมบัติ Real-time Scanning ไปก่อน เมื่ออัปเดตเสร็จค่อยเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง
จากรายงานพบว่าปัญหามักจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน โปรแกรมแอนตี้ไวรัส AVG และ Avast ซึ่งอันที่จริงก็มีปัญหากับการทำงานของ ระบบปฏิบัติการ Windows มาตั้งแต่ Windows 10 แล้ว ใครที่ใช้ 2 ยี่ห้อนี้อยู่ แล้วพบปัญหาบ่อย อาจจะพิจารณาย้ายไปค่ายอื่นเลยก็ได้นะ
มีรายงานจากผู้ใช้บางรายที่ประสบปัญหาในการอัปเดต Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 ที่ระบุว่าสามารถแก้ไขได้ด้วยการปิดคุณสมบัติ Kernel DMA Protection ไปก่อนชั่วคราว
เราสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานของ Kernel DMA Protection ได้ด้วยขั้นตอนดังนี้
มาถึงท่าสุดท้าย แทนที่เราจะพยายามแก้ไข ระบบปฏิบัติการ Windows ให้สามารถอัปเดตผ่าน "แอป Settings " ได้ เราสามารถเลือกอัปเดตผ่าน "เครื่องมือ Installation Assistant" ได้เช่นกัน ด้วยขั้นตอนดังนี้
หวังว่าจะอัปเดต Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 กันได้เป็น ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร ? ในการอัปเดตครั้งนี้บ้าง ลองแบ่งปันความคิดเห็นกันได้นะ
                                        คำสำคัญ »
                                    | 
								 | 
							
							แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |