เคยได้ยินศัพท์อย่าง Reboot , Restart, Reset และ Shutdown กันไหม ? แน่นอนว่าหลายคนคุ้นเคยกับคำเหล่านี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะใน ระบบปฏิบัติการ Windows ที่เราใช้กับคอมพิวเตอร์ เรามักจะได้ยินคำเหล่านี้เสมอ คุณเคยสงสัยไหมว่ามันมีความหมายแตกต่างกันอย่างไร ? บทความนี้เราจะมาอธิบายและลองเปรียบเทียบให้ผู้อ่านกัน
การรีบูต (Reboot) หมายถึง การเริ่มระบบใหม่อีกครั้ง เรียกง่าย ๆ ก็คือ การปิดเปิดคอมพิวเตอร์ใหม่นั่นเอง เพราะคำว่า บูต (Boot) นั้นหมายถึงการเปิดเครื่องที่มาจากคำว่า "Boot System" ซึ่งจุดประสงค์ของการ Reboot ส่วนใหญ่เป็นวิธีการแก้ปัญหาคอขวดที่เกิดจากความผิดพลาดในระบบ เช่น เวลาโปรแกรมค้าง เครืองค้าง การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่เสถียร คอมช้า และอื่น ๆ มันเป็นวิธีแก้เบื้องต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณ ลบล้างความผิดพลาดและเริ่มระบบใหม่ให้ทำงานได้ตามปกติ โดยการ Reboot สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Soft Reboot และ Hard Reboot
การทำ Soft Reboot หรือเรียกอีกอย่างว่า Warm Reboot หมายถึงการที่คุณใช้ "คำสั่ง Alt + Ctrl + Delete" เพื่อเรียกใช้การ Reboot ระบบตามปกติบน Windows หรือสามารถเรียกใช้ "คำสั่ง Restart" ได้ในกรณีที่เครื่องมีอาการค้างของโปรแกรม หรือ คอมพิวเตอร์ไม่สามารถควบคุมได้
โดยผู้ที่คิดค้น Soft Reboot นั้นมีชื่อว่า David Bradley หรือหัวหน้าทีมวิศวกรที่พัฒนาคอมพิวเตอร์ และ ROM-BIOS ของ IBM
นอกจากนี้จุดที่สำคัญอีกอย่างคือ การ Restart ยังหมายถึงการ Reboot ระบบโดยที่คอมพิวเตอร์ยังมีไฟอยู่ในระบบและไม่ได้ปิดการทำงานไป
Hard Reboot หรือเรียกอีกอย่างว่า Cold Reboot ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ มันคือการที่คุณปิดเครื่องด้วย "ปุ่ม Power" โดยกดค้างเอาไว้ เพื่อบังคับให้ระบบทุกอย่างในคอมพิวเตอร์หยุดทำงานแบบทันที และหลังจากนั้นให้รอ 10 วินาทีโดยประมาณ แล้วเปิดเครื่องกลับมาทำงานตามปกติ
กรณีการทำ Hard Reboot มักเกิดขึ้นในเฉพาะที่คอมพิวเตอร์ค้างโดยสมบูรณ์ และผู้ใช้งานไม่สามารถใช้ "คำสั่ง Alt + Ctrl + Delete" เพื่อ Reboot ระบบได้นั่นเอง ซึ่งในการทำ Hard Reboot จะแตกต่างกับการ Soft Reboot อีกอย่างคือเป็นการ Reboot ระบบแบบตัดไฟทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ แบบไม่หลงเหลือไฟเลี้ยงฮาร์ดแวร์ใด ๆ เลย
หลายคนน่าจะมีคำถามนี้อยู่ในใจว่า ระหว่าง รีสตาร์ท (Restart) และ รีบูต (Reboot) ต่างกันตรงไหน ? เพราะตามหลักแล้ว ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นเดียวกัน แต่คนมักจะเรียกไม่เหมือนกัน
จุดที่ใช้อธิบายเรื่องนี้ง่าย ๆ คือ การเรียกทั้ง 2 แบบนั้นถูกต้องหมด เพราะ รีสตาร์ท ก็คือคำสั่งของระบบปฏิบัติการ Windows ที่ใช้สั่งการ Reboot ระบบ และช่วยเคลียร์การทำงานทุกอย่าง ก่อนที่จะเริ่ม Reboot ใหม่ พูดง่าย ๆ ก็คือความหมายเหมือนกัน
หลังจากที่ เรารู้แล้วว่า รีบูต (Reboot) กับ รีสตาร์ท (Restart) นั้นเหมือนกัน คราวนี้มาดูว่า ชัตดาวน์ (Shutdown) เหมือนกับ Reboot ด้วยหรือไม่ ?
ในความหมายของชัตดาวน์ ก็คือการที่ระบบนั้นปิดเครื่องโดยสมบูรณ์ (แต่ยังมีไฟหล่อเลี้ยงอยู่บ้าง) โดยเวลาเรียกใช้คำสั่ง Shutdown บน Windows มันจะสร้างไฟล์ โหมดจำศีล (Hibernation Mode) ในระบบเพื่อรอเรียกใช้งานเพื่อให้สามารถบูทเปิดระบบได้เร็วขึ้นเวลาที่คุณกลับมาใช้งานเครื่องอีกครั้ง
ในขณะที่การรีสตาร์ทหรือการ Reboot นั้นคือการกำจัดกระบวนการทั้งหมดที่ทำงานในคอมพิวเตอร์ และเคลียร์ RAM รวมถึงเคลียร์ หน่วยความจำแคช (Cache) ใน หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) เพื่อเริ่มต้นการทำงานใหม่ดังนั้นประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์แฮงค์ ก็จะต่างกัน
ประเด็นนี้ ทำให้แน่ใจได้ว่าถ้าเครื่องมีปัญหาในการทำงาน คุณควรใช้คำสั่ง Restart จะดีกว่าการใช้คำสั่ง Shutdown
มาถึงเรื่องของการ Reset ซึ่งความหมายของมันจะแตกต่าง Reboot อย่างสิ้นเชิง เพราะที่กล่าวมาหมายถึงการเริ่มต้นระบบใหม่โดยไม่เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใด ๆ ในขณะที่การ Reset จะหมายถึงการเปลี่ยนการตั้งค่าในคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย และมันจะเปลี่ยนเป็นค่าเริ่มต้นเหมือนตอนที่คุณซื้ออุปกรณ์มาใช้ครั้งแรก เรียกอีกชื่อว่า การรีเซ็ตค่าโรงงาน (Factory Reset) นั่นเอง
ดังนั้นหากคอมพิวเตอร์ของคุณมีปัญหาร้ายแรงและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการ Reboot หรือ Restart ทางเลือกในการซีเซ็ต ระบบปฏิบัติการ Windows ให้กลับมาเป็นค่าเริ่มต้นคือทางเลือกที่ควรทำ แต่ขอแนะนำว่าหากคุณจะ Reset ระบบให้ทำการสำรองข้อมูลและไฟล์สำคัญในเครื่องให้เรียบร้อยก่อน เพราะระบบจะทำการติดตั้ง Windows ใหม่
ภาพจาก https://www.minitool.com/news/windows-Reboot-vs-reset-vs-restart-009.html
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |
ความคิดเห็นที่ 1
14 มกราคม 2566 18:39:35
|
||
GUEST |
จะฮาร์ดรีเซ็ตยังไง
รีสตาร์ทเมื่อค้างหรือไม่ตอบสนองการทำงาน
|
|