แป้นพิมพ์ หรือคีย์บอร์ด (Keyboard) จัดว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่มีเมาส์คุณยังพอใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ หากฝึกฝนหน่อยไม่ใช้เลยก็ยังได้ แต่อย่างน้อย ๆ ยังไงคุณก็ต้องมีคีย์บอร์ด สำหรับมนุษย์ในยุคนี้ที่งานส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่งานใช้แรงงาน ส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น
คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยไปนัก หากจะกล่าวว่าในเวลาหนึ่งวันนั้น มือของคุณสัมผัสกับคีย์บอร์ดมากกว่ามือของคนที่คุณรักเสียอีก ดังนั้นการเลือกหาคีย์บอร์ดคุณภาพดีมาใช้งาน จึงเหมือนเป็นการให้ความสุข และถนอมมือของเราให้ได้สัมผัสกับสิ่งดี ๆ ใช่ไหมล่ะ ?
คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ก็มีหลากรุ่น หลายสไตล์ มี รูปแบบของคีย์บอร์ด (Keyboard Layout) หลายรูปแบบให้เลือกซื้อ แต่ในบทความนี้เราอยากมาป้ายยาคุณสมบัติหนึ่งที่มีอยู่ในคีย์บอร์ด นั่นก็คือ "Hot-Swappable" คุณสมบัตินี้คืออะไร ? ทำไมมีแล้วดี ในบทความนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง
แมคคานิคอลคีย์บอร์ดนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในกลุ่มเกมเมอร์, โปรแกรมเมอร์ หรือคนที่ต้องใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์อย่างยาวนานเป็นประจำ สิ่งที่ดีที่สุดของแมคคานิคอลคีย์บอร์ดคือ มีสวิตช์ให้เลือกใช้หลายรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากกว่า ช่วยให้ความรู้สึกในการพิมพ์มีความถูกจริตมากขึ้น เพราะแต่ละคนย่อมมีความมีความชอบไม่เหมือนกัน
หากเราแบ่งประเภทของแมคคานิคอลคีย์บอร์ดด้วยประเภทของ Printed Circuit Board (PCB) จะมีวางจำหน่ายอยู่ 2 รูปแบบ คือ
ภาพจาก : https://drop.com/buy/drop-alt-high-profile-barebones-keyboard?defaultSelectionIds=965862
เป็นสวิตช์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ Hot-Swappable Mechanical Keyboard โดยเฉพาะ โดยจะมีอยู่หลายแบบ หลายดีไซน์ให้เลือกซื้อมาก ๆ ออกแบบมาให้สามารถถอดได้ง่าย ๆ ด้วย "ที่ดึงสวิตช์" แบบมาตรฐานทั่วไป
ทั้งนี้ ถ้าเป็นคนนอกวงการอาจจะสับสนกับ คีย์แคป (Keycap) อันนั้นเป็นฝาปุ่มที่ต้องเชื่อมต่อกับสวิตช์อีกทีนะ ซึ่งปกติจะขายแยกกัน โดยตัวสวิตช์อาจจะแถมคีย์แคปมาให้ด้วย แต่ถ้าซื้อคีย์แคปก็จะได้แค่คีย์แคปไม่มีแถมสวิตช์มาให้
อย่างที่เราได้อธิบายไปแล้วในข้างต้นว่า Hot-Swappable Switch นั้นตัวสวิตช์สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย ต่างจากคีย์บอร์ดแบบ Membrane ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนเสียง และสัมผัสในการพิมพ์ได้ หรือถ้าเป็นแมคคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ Soldered Switch นั้น คุณต้องอาศัยทักษะในการงัดแงะ และบัดกรีในการเปลี่ยนสวิตช์
แต่ถ้าเป็นคีย์บอร์ดที่รองรับ Hot-Swappable Switch ผู้ใช้แค่ใช้ "ที่ดึงสวิตช์" ที่มักจะแถมให้มาพร้อมกับคีย์บอร์ดอยู่แล้ว ดึงสวิตช์ตัวเดิมออก แล้วนำสวิตช์ตัวใหม่มาเสียบ ออกแรงกดเล็กน้อย ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่ต้องระวังอยู่เหมือนกันในการเลือกซื้อสวิตช์มาเปลี่ยน โดยสวิตช์จะมีอยู่ 2 แบบ 3 ขา และแบบ 5 ขา ซึ่งสวิตช์แบบ 5 ขา นั้นเอาจริงก็สามารถดัดแปลงตัดขาที่เกินมาเพื่อให้ใช้งานกับคีย์บอร์ดแบบ 3 ขา ได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยมทำเท่าไหร่นัก และสวิตช์บางตัวอาจจะมีความหนาของก้าน (Stem) ที่ไม่พอดีกับรูของ Hot-Swappable Mechanical Keyboard บางรุ่น ดังนั้น ก่อนซื้อสวิตช์ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนจากเว็บผู้ผลิต หรือตามเว็บบอร์ดของคนเล่นคีย์บอร์ด
ภาพจาก : https://www.dareu.com/category/keyboard/Full-Keyboard-RGB-A104WIRED/
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของ Hot-Swappable Mechanical Keyboard คือ สามารถเลือกใช้สวิตช์แบบผสมได้ด้วย ตามปกติแล้ว ถ้าซื้อแมคคานิคอลคีย์บอร์ดแบบธรรมดามา ตามปกติผู้ผลิตจะเลือกใช้สวิตช์ชนิดเดียวกันทั้งหมด แต่สำหรับ Hot-Swappable Mechanical Keyboard หากคุณต้องการที่จะผสมสวิตช์ เช่น ให้ "ปุ่ม WSAD" ที่มักใช้ในการเล่นเกมเป็น สวิตช์แบบ Tactile แล้วที่เหลือเป็น สวิตช์แบบ Linear ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ
โดยปกติแล้ว คีย์บอร์ดไม่ใช่อุปกรณ์ที่เสียง่ายสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันมักจะ "เอ๋อ" เป็นบางปุ่ม โดยอาจจะกดไม่ได้ หรือกดยากอยู่สักปุ่มสองปุ่ม แต่ปัญหาคือคีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์ที่ถ้าพังไปสักปุ่ม มันก็จะทำให้การใช้งานยุ่งยากขึ้นกว่าเดิมมาก หรือใช้ไม่ได้เลย
ถ้าเป็นคีย์บอร์ดแบบ Membrane มันซ่อมแทบไม่ได้อยู่แล้ว มีทางเดียวคือต้องซื้อใหม่ หากเป็นคีย์บอร์ดที่ไม่รองรับ Hot-Swappable ก็ต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำ หรือหากคุณมีทักษะช่าง พอทำบัดกรีเป็นก็อาจจะซ่อมเองได้ แต่ปัญหาก็คือการหาอะไหล่ให้ได้ด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย หรือไม่มีวางจำหน่ายด้วยซ้ำ
แต่ถ้าคุณใช้คีย์บอร์ดแบบ Hot-Swappable ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย แค่ถอด Keycap ออก เอาที่ดึงสวิตช์มาถอดสวิตช์ที่เสียออก แล้วเอา Hot-Swappable Switch ที่หาซื้อได้อย่างง่ายดายมาเสียบได้เลย ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้แรงเพียงเล็กน้อย และเวลาอีกไม่เกิน 2 นาทีก็เสร็จ นอกจากนี้ ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการซื้อคีย์บอร์ดใหม่ทั้งอันอีกด้วย
Keycap จะมีมาตรฐานเชื่อมต่อกับตัวสวิตช์ที่เป็นมาตรฐานอยู่ ซึ่งคีย์บอร์ดแบบ Hot-Swappable Mechanical Keyboard นั้น ตัวสวิตช์ก็รองรับ Keycap ดังกล่าวได้
ซึ่งบทบาทของ Keycap นั้น สามารถเปลี่ยนความรู้สึกในการสัมผัส, เสียงพิมพ์ และความรู้สึกในการใช้งานคีย์บอร์ดได้ ซึ่งในเมื่อเราสามารถเปลี่ยนได้ทั้งสวิตช์ และคีย์แคป ดังนั้น ถ้าใช้งานไปแล้วเริ่มเบื่อ แทนที่จะเสียเงินซื้อคีย์บอร์ดอันใหม่ ก็แค่ซื้อสวิตช์ และคีย์แคปมาเปลี่ยน เท่านี้ก็เหมือนได้คีย์บอร์ดใหม่มาใช้งานแล้ว ซึ่งประหยัดเงินกว่าซื้อคีย์บอร์ดใหม่ทั้งอัน
ภาพจาก : https://www.ebay.com/itm/255958027632?chn=ps&mkevt=1&mkcid=28
สำหรับคนที่มีความเป็นตัวเองสูง คงไม่ชอบการใช้สินค้าที่ถูกผลิตขึ้นมาแบบแมส ที่ใคร ๆ ก็ใช้กัน ซึ่ง คีย์บอร์ดแบบ Hot-Swappable Mechanical Keyboard ให้อิสระในการปรับแต่งค่อนข้างมาก คุณสามารถสร้างคีย์บอร์ดที่ไม่ซ้ำใครขึ้นมาใช้ แถมยังได้สัมผัสที่คุณภาพสูง ตรงใจอีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว แต่ก็ต้องระวังเรื่องเงินไว้บ้าง เพราะวงการนี้เงินไหลออกจากกระเป๋าง่ายมากเลยล่ะ
ภาพจาก : https://hirosarts.com/green-koi-artisan-keycap/
ใครสนใจ เห็นแล้วชอบ ก็ลองไปหาซื้อกันดูนะครับ ราคาเริ่มต้นหากเป็นคีย์บอร์ดของจีนก็ไม่แพงเท่าไหร่นัก แต่จะไปแพงที่พวกของแต่งอย่างสวิตช์ หรือคีย์แคปเสียมากกว่า
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |