ไหน ๆ ก่อนหน้านี้ เราก็ทำบทความสอนใช้ ChatGPT ใน Google Sheets ไปแล้ว ซึ่งส่วนขยายในบทความนั้นมันสามารถนำมาใช้ร่วมกับ Google Docs ได้ด้วย เพื่อให้สาระครบถ้วน ในบทความนี้ก็เลยอยากจะมาแนะนำการใช้งานส่วนขยาย GPT for Sheets and Docs บน Google Docs กัน
โดยการใช้ ChatGPT บน Google Docs โดยตรง ก็เพื่อความง่ายในการทำงาน ไม่ต้องวุ่นวายกับการสลับหน้าต่างไปมา จะต้องทำอย่างไร ? แล้วมันทำอะไรได้บ้าง ? มาศึกษาข้อมูลกัน
ถึงแม้ว่าทาง OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT จะไม่ได้พัฒนาส่วนขยายสำหรับใช้งานร่วมกับ Spreadsheet แต่เราก็สามารถใช้งานมันบน Google Docs ได้ ด้วยการใช้ ส่วนขยายบุคคลที่สาม (3rd-Party Extension) ที่ทางผู้พัฒนา Talarian ได้สร้างขึ้นมาช่วยให้เราสามารถใช้งาน ChatGPT บน Google Docs ได้ โดยมันมีชื่อว่า "GPT for Sheets and Docs"
โดยการติดตั้งส่วนขยายนี้ก็ค่อนข้างง่าย ไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ด้านเทคนิคอะไรให้มากนัก เพียงแต่ เราต้องเอา OpenAI API key มาใส่ในส่วนขยายก่อนเท่านั้นเอง ซึ่งขั้นตอนนี้ทำอย่างไร ? เราจะมาเริ่มติดตั้งกันไปทีละขั้นตอนกัน
ในการเพิ่มส่วนขยาย GPT for Sheets and Docs ให้ Google Docs ให้เราเริ่มจาก
ตอนนี้ส่วนขยาย GPT for Sheets and Docs ก็ถูกเพิ่มเข้ากับบัญชี Google Docs ของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่การจะใช้งานฟังก์ชันของ ChatGPT ได้ เราจะต้องนำ OpenAI API Key มาเปิดใช้งานส่วนขยายให้เรียบร้อยเสียก่อน
การสร้าง OpenAI API Key นั้นค่อนข้างง่าย โดยมีขั้นตอนดังนี้
เท่านี้ เราก็สามารถใช้งาน ChatGPT บน Google Docs ได้แล้ว
การใช้งานส่วนขยาย GPT for Sheets and Docs บน Google Docs ให้เราเริ่มต้นด้วยการคลิกที่ "เมนู ส่วนขยาย" จะเห็นว่ามี "เมนู GPT for Sheets and Docs" เพิ่มขึ้นมาแล้ว คลิกที่เมนูดังกล่าว แล้วเลือก "เมนู Launch sidebar"
จะมีหน้าต่างสำหรับป้อนคำสั่งให้ GPT ปรากฏขึ้นมาที่ด้านข้าง ดังภาพด้านล่างนี้
ส่วนขยาย GPT for Sheets and Docs บน Google Docs จะมีตัวเลือกให้ใช้งานอยู่ 5 รูปแบบ ประกอบไปด้วย
อย่างไรก็ตาม 4 เครื่องมือแรก ที่ถูกเตรียมไว้ให้ล่วงหน้า เวลาที่มันทำงาน มันจะสร้างเนื้อหาตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ แต่เราสามารถเรียกใช้คำสั่งเหล่านั้น แต่ตอบเป็นภาษาไทยได้ด้วยการใช้ตัวเลือก "Write custom prompt" แทน
ถ้าเราร่าง Blog หรือบทความอะไรสักอย่าง แล้วรู้สึกว่าเนื้อหามันอ่านแล้วให้ความรู้สึกไม่ตรงกับความต้องการเช่น เครียดไป, เศร้าไป หรือตลกเกินไป เราสามารถใช้ "ตัวเลือก Change the tone to" เพื่อเปลี่ยนโทนของเนื้อหาได้ เราทดสอบด้วยการเปลี่ยนเรื่องที่ค่อนข้างเศร้า ให้เป็นเรื่องที่อบอุ่นหัวใจแทน ผลงานที่ได้ ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม
คำสั่งนี้ยังทำงานกับภาษาไทยได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก คงต้องรอให้มันฝึกภาษาไทยมากขึ้นอีกหน่อย
แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษล่ะก็ไม่มีปัญหา หากต้องติดต่อลูกค้าเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ติดต่อซัพพลายเออร์ที่อยู่ต่างประเทศ จะใช้มันเป็นเครื่องมือช่วยในการตรวจสอบแกรมม่า และคำผิดก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
ถ้าไม่มีอ่านบทความยาว ๆ ต้องการแค่ใจความสำคัญคร่าว ๆ เราสามารถสั่งให้ ChatGPT สรุปเนื้อหาให้เราได้อย่างรวดเร็ว
ความสามารถในการแปลภาษาของ ChatGPT ทำออกมาได้ค่อนข้างธรรมชาติกว่า Google Translate พอสมควร การที่แปลได้โดยตรงใน Google Docs มันก็ช่วยการแปลงานง่ายขึ้นเยอะ
ตัวเลือกสุดท้าย และน่าจะเป็นตัวเลือกที่เราน่าจะใช้งานมันบ่อยที่สุดด้วย ถ้าหากเราไม่รู้จะเริ่มต้นงานอย่างไร ? ก็สามารถ บอกโจทย์ให้ ChatGPT ช่วยร่างขึ้นมาจากศูนย์เลยก็ยังได้ ซึ่งก็ทำได้หลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น
ยังมีอีกหลายอย่างที่เราสามารถประยุกต์ใช้งานได้อีก แต่คงยาวมากถ้าจะยกตัวอย่างมาให้ครบถ้วน ยังไงใครที่ต้องทำเอกสารเป็นประจำ ก็ลองไปใช้งานกันดูนะ น่าจะทำงานง่ายขึ้นกว่าเดิมพอสมควร
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |