ปัญหายอดฮิตที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแทบทุกคนน่าจะเคยเจอก็น่าจะหนีไม่พ้นปัญหา "พื้นที่ไม่พอใช้" จนไม่สามารถที่จะอัปเดตหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ลงเครื่องได้ ทำให้บางคนต้องลบรูปเก่า ๆ หรือแอปพลิเคชันเกมสุดโปรดทิ้งไปอย่างน่าเสียดายเพื่อเคลียร์พื้นที่ให้กับแอปพลิเคชันที่มีความ "จำเป็น" มากกว่า แต่สำหรับใครที่ต้องการจะเก็บความทรงจำ (และแอปพลิเคชันโปรด) เอาไว้ก็สามารถที่จะ เคลียร์ข้อมูล (Clear Data) เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานบนสมาร์ทโฟนของเราได้ ดังต่อไปนี้
ในส่วนของแอปพลิเคชันบางตัวที่ "ติดมากับเครื่อง" แต่ไม่ได้ใช้งาน (หรือใช้งานไม่บ่อย) และไม่สามารถที่จะถอนการติดตั้ง (Uninstall) ออกไปได้นั้น เราสามารถเลือกกด "ปิดการใช้งาน" (Disable) แอปพลิเคชันนั้น ๆ เพื่อปิดการทำงานและเพิ่มพื้นที่ภายในเครื่องได้
หากต้องการเปิดการทำงานของแอปพลิเคชันที่ได้ Disable ไปก็สามารถแตะที่ "ปุ่มเปิดการใช้งาน" (Enable) เพื่อกู้ชีพแอปพลิเคชันนั้น ๆ ได้เลย
วิธีง่าย ๆ ในการเรียกพื้นที่บนมือถือคืนมาก็ได้แก่การ "ลบประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์ (Clear Browsing Site Data)" บน เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากเว็บเบราว์เซอร์ที่มาติดเครื่อง หรือ เว็บเบราว์เซอร์อื่น ๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเติมอย่าง Google Chrome หรือ Mozilla Firefox (แต่ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการลบประวัติการใช้งานเว็บไซต์บน Google Chrome เท่านั้น)
โดยสำหรับที่กล่าวมานี้ เราสามารถเลือกลบได้ทั้งการใช้งานทั้ง ข้อมูลแคช (Cache Data), ข้อมูลคุ้กกี้ (Cookie Data) รวมไปถึง ประวัติการค้นหา (Browsing History) ในระบบ
|
|
ภาพจาก : https://www.avast.com/c-clear-cache-android
ภาพจาก : https://www.avast.com/c-clear-cache-android
ภาพจาก : https://www.avast.com/c-clear-cache-android
ภาพจาก : https://www.avast.com/c-clear-cache-android
การกำหนดช่วงเวลาในการลบข้อมูลที่ต้องการนั้นอาจพิจารณาจากความถี่ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ผ่าน Google Chrome เพราะเมื่อกดลบข้อมูลออกไปจะต้องทำการล็อกอินเข้าใช้งานใหม่ หรืออาจใช้เวลาโหลดหน้าเว็บนานกว่าเดิม (แต่หากเลือกลบ Cache ก็สามารถลบทิ้งได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานในอนาคต)
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการลบข้อมูลสำคัญ ๆ ออกจากเครื่อง เพราะข้อมูล Cache บนมือถือนั้นก็คล้ายกับ แคชชองซีพียู (CPU Cache) บนคอมพิวเตอร์ที่จะมีการเก็บข้อมูลที่เรียกใช้งานบ่อย ๆ เอาไว้ "เผื่อเรียก" เพื่อประหยัดเวลาในการเข้าถึงข้อมูลนั้น ๆ แถมบน ระบบปฏิบัติการ Android ก็ยังมีระบบบริหารจัดการแคช (Cache Management) บนเครื่องที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถ "ลบ Cache" บนแอปพลิเคชันต่าง ๆ ออกไปได้ง่าย ๆ ดังนี้
แต่การลบ Cache ทิ้งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในเครื่องของเราได้เพียง "เล็กน้อย" เท่านั้น เพราะข้อมูล Cache มักมีขนาดเล็กเนื่องจากเป็นข้อมูลที่ไม่ได้มีความจำเป็นต่อตัวเครื่อง แต่ข้อดีคือผู้ใช้สามารถที่จะกดลบ Cache ได้ "ทุกแอปพลิเคชัน" โดยไม่สูญเสียข้อมูลใด ๆ ภายในเครื่องเลยแม้แต่น้อย
ถ้ากดเคลียร์ Cache แล้วพื้นที่ภายในเครื่องยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานก็สามารถกด "เคลียร์ข้อมูล" ที่อยู่ภายในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานบนเครื่องเพิ่มได้ แต่การกดลบข้อมูล บนแอปพลิเคชันนั้นจะทำการลบประวัติการใช้งาน "ทั้งหมด" ออกไป ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการดาวน์โหลด, ข้อมูลการใช้งานเดิม, ข้อมูลรหัสผ่าน, ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Login Data) และข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งจะคล้ายการติดตั้งแอปพลิเคชันลงเครื่องใหม่เลย
ทั้งนี้ แอปพลิเคชันที่ใช้งานเป็นประจำจะมีข้อมูล (Data) ภายในเครื่องมากกว่าแอปพลิเคชันที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เช่น แอป LINE จะมีการเก็บข้อมูลการแชทเอาไว้เป็นจำนวนมาก และหากทำการ Clear Data ก็จะไม่สามารถดูข้อความแชทเก่า ๆ ได้ จึงควร สำรองข้อมูล (Backup Data) ที่มีความสำคัญหรือหลีกเลี่ยงการลบข้อมูลบนแอปพลิเคชันที่จำรหัสผ่านไม่ได้หรือแอปพลิเคชันที่มีข้อมูลที่จำเป็นจะต้องเรียกใช้งานอยู่บ่อย ๆ
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |