Werfault.exe คืออะไร ? และวิธีแก้ไขปัญหา Werfault.exe Error ใน Windows 10

Werfault.exe คืออะไร ?
และวิธีแก้ไขปัญหา Werfault.exe Error ใน Windows 10

หน้าต่าง "Werfault.exe Application Error" เป็นการแจ้งเตือนในระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่เกิดขึ้นเมื่อระบบไม่สามารถเปิดโปรแกรมได้สำเร็จ ปัญหามีได้จากหลายสาเหตุ ซึ่ง Werfault.exe ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุนั้น

โชคดีที่ Werfault.exe Application Error นั้นแก้ค่อนข้างง่ายนะครับ ถ้าเจอปัญหานี้จะต้องแก้อย่างไร มาลองอ่านวิธีการกันเลย

ภาพจาก https://answers.microsoft.com/en-us/windows/forum/windows_10-performance-winpc/werfaultexe-application-error-0xc0000005/f7313073-c2cc-47c1-aad8-29a6c5539e02?auth=1

Werfault.exe คือ อะไร ?

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Werfault.exe กันก่อนดีกว่า ว่ามันทำหน้าที่อะไร ?

สำหรับ ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ทำงานได้ โดยอาศัยความร่วมมือจากชุดโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ทำงานร่วมกัน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากในวงจรความสัมพันธ์นั้น จะมีบางตัวที่เกิดทำงานผิดพลาดขึ้นมา อาจจะเพราะบั๊ก หรือปัญหาอะไรก็ตามแต่

เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น Werfault.exe ใน Windows 10 จะทำหน้าที่รวบรวมรายงานข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพื่อส่งข้อมูลกลับไปให้ Microsoft

โดยรายงานที่ Werfault.exe ส่งไป จะช่วยให้ Microsoft สามารถตรวจสอบบัค และหาทางปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของระบบให้มีความเสถียรยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มันยังช่วยนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่คุณสามารถทดลองทำตามด้วยตนเองได้อีกด้วย

1. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

สำหรับวิธีแรกนี้ อันที่จริง ก็ไม่ใช่แค่ Werfault.exe Error หรอก ไม่ว่าคอมพิวเตอร์จะมีปัญหาอะไร วิธีแก้ปัญหาที่ง่าย และได้ผลดีที่สุด คือ การลงรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณดูก่อน ปัญหาหลายอย่างของ Windows สามารถแก้ได้ด้วยวิธีนี้เสมอ

2. อัปเดตไดร์เวอร์

ไดร์เวอร์มีปัญหาเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิด Werfault.exe Error ถ้า ไดร์เวอร์ (Driver) ของฮาร์ดแวร์ที่สำคัญอย่างเช่น การ์ดจอ ทำงานผิดพลาด มันสามารถทำให้ระบบทั้งหมดเกิดปัญหาขึ้นได้

ดังนั้น การอัปเดตไดร์เวอร์ใหม่ให้ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดที่มีจึงช่วยแก้ปัญหา Werfault.exe Error ได้

ให้เรากด "ปุ่ม Windows +i" เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า (Settings) ครับ แล้วหลังจากนั้น ให้คลิกที่ "เมนู Update & Security"

จากนั้นให้คลิกที่ "เมนู View Optional Updates" จะมีหัวข้อให้อัปเดตไดร์เวอร์ (Driver Updates) อยู่ คลิกเลือกอัปเดตให้หมด (คลิกทุกช่อง) แล้วคลิกที่ "ปุ่ม Download and Install"

ทั้งนี้เราสามารถอัปเดตด้วยตัวเองที่ละส่วนได้เช่นกัน อย่างการ์ดจอ สมมติว่าใช้ของ NVIDIA ก็สามารถเข้าไปอัปเดตเองผ่าน Geforce Experience ได้ เป็นต้น

3. อัปเดต Windows

ระบบปฏิบัติการ Windows จะได้รับการอัปเดตปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ โดย Microsoft จะปล่อยแพทช์อัปเดตเพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ออกมาทุกเดือน ถ้าหากเราไม่ได้อัปเดตแพทช์เหล่านี้เป็นประจำ ในที่สุดเราก็อาจจะเจอบั๊กเข้าสักวัน (แต่ก็ต้องยอมรับว่าบ่อยครั้งที่ "บัคใหม่" ก็มาพร้อมกับ Windows Update นี่แหละ)

ขั้นตอนการทำจะคล้ายคลึงกับการให้ Windows อัปเดตไดร์เวอร์ให้เราอัตโนมัติ

ให้เรากด "ปุ่ม Windows +i" เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า (Settings) เช่นเคยครับ แล้วคลิกที่ "เมนู Update & Security" คลิกที่ "ปุ่ม Check for Updates"

4. สแกนมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์

อีกวิธีหนึ่งคือการสแกน มัลแวร์ (Malware) เพราะมัลแวร์ เป็นสิ่งที่สามารถทำให้ไฟล์ในระบบคอมพิวเตอร์มีปัญหาได้ หลายครั้งที่ไฟล์เกิดความเสียหาย ไม่สามารถใช้งาน ทำให้โปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้ไฟล์ดังกล่าวในการทำงานไม่สามารถทำงานได้ ส่งผลให้โปรแกรมล่ม จนเกิด Werfault.exe Error ขึ้นมานั่นเอง

สำหรับการสแกนหาไวรัส ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงิน ซื้อโปรแกรมแอนตี้ไวรัส มาใช้ก็ได้นะ เพราะใน Windows ก็มีระบบแอนตี้ไวรัสที่ใช้งานได้ดีอยู่แล้ว เรียกใช้งานได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

ให้เรากด "ปุ่ม Windows +i" เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า (Settings) ครับ แล้วคลิกที่ "เมนู Update & Security" แล้วหลังจากนั้น เราก็จะเข้าสู่หน้า Windows Update ให้มองที่แผงเมนูด้านซ้าย คลิกเลือก "เมนู Windows Security" แล้วคลิก "เมนู Virus & Threat Protection"

คลิก "เมนู Scan Options" แล้วเลือกที่ "ตัวเลือก Full Scan" แล้วตามด้วยกด "ปุ่ม Scan Now" เพื่อเริ่มทำการสแกน  

5. ใช้คำสั่ง SFC Scan

ในระบบปฏิบัติการ Windows จะมีเครื่องมือ System File Checker (SFC.exe) ให้ใช้ตรวจสอบว่ามีไฟล์ระบบเสียหาย ที่จำเป็นต้องซ่อมแซมอยู่หรือเปล่า ซึ่งการที่ไฟล์ระบบมีความเสียหายก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจอปัญหา Werfault.exe Error ได้เช่นกัน

โดยให้เราคลิกขวาที่ "ปุ่ม Start" แล้วเลือก Windows Powershell (Admin) พิมพ์คำสั่ง "sfc /scannow" ลงไปแล้วกด "ปุ่ม Enter" บนแป้นพิมพ์

การสแกนอาจจะใช้เวลาหลายนาที ให้เรารออย่างใจเย็นอย่าเพิ่งปิดหน้าต่าง Windows Powershell (Admin) ไปเสียก่อนล่ะ

6. ปิดการทำงานของ Werfault.exe

ถ้าลองมาหลายท่า แล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น เราอาจจะลองปิดการทำงาน Werfault.exe ดูก็ได้ แต่อยากให้เลือกใช้วิธีนี้เป็นหนทางสุดท้ายนะครับ เนื่องจาก Windows จำเป็นต้องใช้ Werfault.exe ในการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นจาก โปรแกรมบุคคลที่สาม (3rd-Party Software) หากเราปิดมันไป จะทำให้ทาง Microsoft ไม่รับทราบถึงปัญหา ไม่สามารถหาทางแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้

หากเข้าใจแล้ว แต่ยังยืนยันที่จะปิดอยู่ดี ให้กด "ปุ่มชุด Windows+R" แล้วพิมพ์ลงไปในหน้าต่าง Run ว่า "services.msc " แล้วกด "ปุ่ม Enter" แล้วจะมีหน้าต่าง Services ถูกเปิดขึ้นมา เราจะเห็นรายการ Services ของ Windows เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ให้เลื่อนหา "เมนูย่อย Windows Error Reporting Service"

คลิกขวาที่ Windows Error Reporting Service แล้วเลือก Properties ตรง "ช่อง Startup Type" ให้เลือก "เมนู Disable" แล้วก็คลิกที่ "ปุ่ม Apply" เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

ถึงบรรทัดนี้ก็หวังว่า ใครที่เจอปัญหา Werfault.exe Error อยู่ จะสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้วนะ หากว่ายังไม่ได้ ก็คงจะต้องลองติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows ใหม่อีกครั้งแทนแล้วล่ะครับ