ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

วิธีสำรองข้อมูล ทั้งแบบ Offline และ Online มีอะไรบ้าง ? เลือกสำรองด้วยวิธีไหนดี ?

วิธีสำรองข้อมูล ทั้งแบบ Offline และ Online มีอะไรบ้าง ? เลือกสำรองด้วยวิธีไหนดี ?
ภาพจาก : freepik.com (upklyak)
เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 9,192
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5+%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A+Offline+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Online+%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87+%3F+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5+%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีสำรองข้อมูลมีอะไรบ้าง ? ทั้งแบบ Offline และ Online
(What are the Data Backup Techniques ?)

เมื่อคนเราใช้งานข้อมูลดิจิทัลกันมากขึ้น ไม่ว่าจะผ่านมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือระบบออนไลน์ใด ๆ ก็ตาม สิ่งที่ตามมาก็คือ การสำรองข้อมูล เพราะข้อมูลที่ต้องใช้งานใน 1 วันนั้นมีเยอะมาก ๆ และถ้าวันไหนอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ เกิดพังจนข้อมูลหาย หรือนึกอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่ขึ้นมา แล้วจะใช้งานข้อมูลเก่า ๆ ต่อไปยังไง จึงทำให้การสำรองข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ นั่นเอง

บทความเกี่ยวกับ Backup อื่นๆ

ฉะนั้น เนื้อหาทั้งหมดในบทความนี้ จึงเป็นวิธีการสำรองข้อมูลที่ควรรู้ และหมั่นสำรองข้อมูลอยู่สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ข้อมูลหายหรือพังที่สายเกินแก้ และนี่เป็นวิธีการที่ง่ายกว่า การกู้ข้อมูล (Data Recovery) กลับคืนมามาก ๆ

เนื้อหาภายในบทความ

วิธีการสำรองข้อมูล แบ่งออกเป็นกี่แบบ ?

สำหรับ วิธีการสำรองข้อมูล หากจำแนกง่าย ๆ ให้จำแนกตามช่องทางที่ใช้สำรองข้อมูล จะแบ่งได้ดังนี้

  1. การสำรองข้อมูลด้วยฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์บันทึกต่าง ๆ ในแบบ Offline
  2. การสำรองข้อมูลด้วยพื้นที่จัดเก็บแบบ Online

แต่ถ้าแบ่งตามรูปแบบการสำรองข้อมูลพื้นฐาน จะแบ่งได้ดังนี้

  1. การสำรองข้อมูลทั้งหมด (Full Backup)
  2. การสำรองข้อมูลส่วนเพิ่ม (Incremental Backup)
  3. การสำรองข้อมูลเฉพาะส่วนที่แตกต่าง (Differential Backup)

ข้อมูลเพิ่มเติม : การสำรองข้อมูลแบบ Full Backup / Incremental Backup / Differential Backup คืออะไร ? แตกต่างกันอย่างไร ?

วิธีการสำรองข้อมูลด้วแบบ Offline (ผ่านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์)

วิธีการสำรองข้อมูลแบบ Offline ก็คือวิธีที่เราคุ้นเคยกันมานาน อย่างการใช้อุปกรณ์บันทึกข้อมูลอื่น ๆ เช่น  ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk), ฮาร์ดดิสก์แบบพกพา (External Harddisk), แฟลชไดรฟ์ (Flash Drive), การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) ฯลฯ เสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ มือถือ เพื่อโอนถ่ายข้อมูลมาไว้ในอุปกรณ์เหล่านี้

นี่เป็นวิธีสำรองข้อมูลที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคย เพราะทุกคนน่าจะรู้จักแฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดดิสก์กันอยู่แล้ว เสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ปุ๊บ ย้ายได้ปั๊บ เพียงแค่คัดลอก (Copy) และวาง (Paste) ไฟล์ แต่อุปกรณ์บางชนิด เช่น เมโมรี่การ์ด ฮาร์ดดิสก์ ต้องดูข้อมูลการอ่านเขียนข้อมูลร่วมด้วย ยิ่งอ่านเขียนได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะใช้เวลาโอนถ่ายน้อยยิ่งขึ้น

ข้อดี

  • ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการสำรอง โอนถ่ายข้อมูล
  • ขั้นตอนการย้ายข้อมูลค่อนข้างง่าย
    เพียงเชื่อมต่ออุปกรณ์หลักเข้ากับอุปกรณ์เก็บข้อมูล
  • ผู้อื่นไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ หากไม่มีอุปกรณ์บันทึกข้อมูลของเรา
  • หากอุปกรณ์บันทึกข้อมูลขัดข้อง ยังมีโอกาสกู้ข้อมูลคืนมาได้ (แล้วแต่กรณี)
  • มีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย

ข้อสังเกต

  • มีโอกาสที่ข้อมูลเสียหายจากไวรัส แรนซัมแวร์ และตัวอุปกรณ์ขัดข้องจากภายใน
  • หากอุปกรณ์มีความจุสูงเท่าไร ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
  • ใช้เวลานานในการสำรอง หากโอนถ่ายข้อมูลจำนวนมาก ๆ

 

วิธีการสำรองข้อมูลด้วยฮาร์ดแวร์ แบบ Offline

ภาพจาก : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Kingston_USB_flash_drive.jpg

วิธีการสำรองข้อมูลด้วยฮาร์ดแวร์ แบบ Offline

ภาพจาก : https://www.flickr.com/photos/30478819@N08/27977626628

วิธีการสำรองข้อมูลแบบ Online (ผ่านเครือข่าย และ ระบบคลาวด์)

ส่วน วิธีการสำรองข้อมูลแบบ Online แน่นอนว่าต้องมีเรื่องอินเทอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งการสำรองข้อมูลออนไลน์ มีทั้งการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ เช่น เซิร์ฟเวอร์สำรองข้อมูลเครือข่าย (Network Attached Server)

ข้อมูลเพิ่มเติม : Cloud Computing คืออะไร ? มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ? และ มีข้อดีข้อเสีย อย่างไร ?

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังรวมไปถึง ระบบออนไลน์อื่น ๆ เช่น System Backup ของคอมพิวเตอร์, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) อย่างที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยก็เช่น บริการ Google Drive, บริการ OneDrive จาก Microsoft, บริการ Dropbox ฯลฯ แต่การสำรองข้อมูลออนไลน์ไม่ได้จำกัดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีวิธีอื่น ๆ ที่เข้าข่ายเช่นกัน

วิธีการสำรองข้อมูลแบบ Online

นอกจากนี้ การสำรองข้อมูลออนไลน์ ยังเป็นวิธีที่นิยมใช้กับองค์กรที่มีคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอทีหลายสิบ หลายร้อยเครื่อง ไปจนถึงข้อมูลสำคัญจำนวนมาก ซึ่งการสำรองข้อมูลระดับองค์กร ใช้ทั้งเซิร์ฟเวอร์ข้อมูลเครือข่าย ไปจนถึงการสร้างระบบคลาวด์ส่วนตัว (Private Cloud) เพื่อเก็บข้อมูลภายในองค์กรนั้น ๆ โดยเฉพาะ ก็จะได้ในเรื่องของความปลอดภัยเข้ามาด้วย

และถ้าหากใครที่เคยย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ ถ้ามือถือทั้งสองเครื่องใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกัน สามารถย้ายข้อมูลบทสนทนาใน แอปพลิเคชัน LINE ไปยังเครื่องใหม่ได้ ไม่มีปัญหาแชทหาย เพียงแต่ว่า ผู้ใช้จะต้องเชื่อมบัญชี LINE เข้ากับอีเมล เมื่อเปิดใช้งานมือถือเครื่องใหม่ปุ๊บ ให้ลงทะเบียนด้วยอีเมลเดิม ระบบ LINE ก็จะทำการกู้คืนบทสนทนา (Restore Conversation) ที่สำรองไว้มายังมือถือใหม่ได้โดยทันที

ข้อดี

  • สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำรองไว้ได้ง่าย รวมถึงการแชร์ให้ผู้อื่น
  • สามารถเปิดได้จากอุปกรณ์ใด ๆ ก็ได้ที่รองรับ
  • ใช้งานฟรี สำหรับเวอร์ชันเริ่มต้น
  • ราคาเริ่มต้นไม่แพงจนเกินไป (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการด้วย)
  • ผู้ให้บริการมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

ข้อสังเกต

  • เวอร์ชันฟรีมีพื้นที่ให้จำกัด
  • หากต้องการพื้นที่จำนวนมาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

 

การสำรองข้อมูลแบบ Offline vs Online แบบไหนดีกว่ากัน ?

ขึ้นชื่อว่าการสำรองข้อมูล ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะทำ หากจะถามว่าวิธีการแบบไหนดีกว่ากัน นั่นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนอุปกรณ์ ปริมาณ ความสำคัญของข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งทางที่ดีที่สุดก็คือ การสำรองข้อมูลทั้งแบบ Offline และ Online ควบคู่กันไป อย่างผู้ใช้ทั่วไป ส่วนใหญ่มีคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คสำหรับทำงาน มือถือ 1 เครื่องเป็นหลัก วิธีการสำรองข้อมูลที่เหมาะสมมีดังนี้

  • ย้ายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และมือถือไว้ในฮาร์ดดิสก์พกพา
  • สำรองข้อมูลไว้ในบริการคลาวด์ เช่น Google Drive, OneDrive

จะเห็นว่า ใช้ทั้งวิธี Offline และ Online ควบคู่กันไป เนื่องจากวิธีสำรองข้อมูลทั้งสองแบบมีข้อจำกัดที่ต่างกัน เมื่อสำรองข้อมูลไว้บนคลาวด์ ก็จะนำมาใช้งานหรือแชร์ต่อให้ผู้อื่นได้ง่าย แต่ถ้าสำรองข้อมูลแบบออฟไลน์ ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

ส่วนระบบสำรองข้อมูลในองค์กรนั้น ใช้ทั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ พื้นที่คลาวด์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างระบบภายในองค์กรร่วมกัน เพื่อทำการย้ายข้อมูลจากอุปกรณ์ทั้งหมดไปยังอุปกรณ์บันทึกข้อมูล ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันอันตรายจากข้อมูลเสียหายได้เป็นอย่างดี

การสำรองข้อมูลจำเป็นอย่างไร ?

แม้ การสำรองข้อมูล จะเป็นสิ่งจำเป็นแค่ไหน แต่หลายคนก็ละเลยในการอัปเดตข้อมูลที่มีอยู่ หากวันไหนที่เจอเหตุการณ์ข้อมูลเสียหายแล้วไม่มีไฟล์สำรอง วันนั้นจะทราบเลยว่าข้อมูลที่เคยมีนั้น มีค่ามากแค่ไหน การสำรองข้อมูลจึงเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันปัญหาได้เป็นอย่างดี

นอกจากปัญหาภายในอุปกรณ์ ไวรัส มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) แล้ว เหตุการณ์อันตรายที่อาจเกิดกับข้อมูลสำคัญของคุณยังมีอีกมากมาย เช่น อุปกรณ์ทำงานสูญหาย ถูกไฟไหม้ น้ำท่วม ไม่สามารถซ่อมหรือกู้ข้อมูลได้, หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่แล้วข้อมูลเก่า ๆ ไม่ตามมาด้วย หากสำรองข้อมูลไว้ในอุปกรณ์บันทึก หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ร่วมด้วย ปัญหาเหล่านี้ก็จะทุเลาลงหรือหมดไป

อ่านเพิ่มเติม : วิธีการกู้ข้อมูลมีกี่วิธี ? อาการแบบไหนควรส่ง ศูนย์กู้ข้อมูล ? (What are the Data Recovery Techniques ?)

แล้วควรสำรองข้อมูลบ่อยแค่ไหน ? เอาเป็นว่า ถ้านึกขึ้นได้เมื่อไหร่ ก็ควรจะสำรองข้อมูลเมื่อนั้น หรืออย่างน้อย ๆ เดือนละ 1 ครั้งก็ยังดี อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าข้อมูลจะไม่สูญหาย ยิ่งสำรองไว้หลาย ๆ ทาง ก็ยิ่งได้ความอุ่นใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด ยังไงการสำรองข้อมูลก็เป็นเรื่องสำคัญและควรหมั่นทำให้เคยชิน


ที่มา : www.novabackup.com , nordlocker.com , www.cioreview.com , www.ubackup.com

0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5+%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A+Offline+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Online+%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87+%3F+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5+%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น