หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หากต้องการประกอบคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมแบบที่เรียกว่า "คอมเทพ" การจัดสเปกโดยเลือกใช้การ์ดจอหลายตัว (Multi-GPU) ด้วย SLI หรือ CrossFire X เป็นเรื่องที่เกมเมอร์หลายคนวาดฝัน แต่ในปัจจุบันนี้ แทบไม่มีใครเอ่ยถึงมันอีกแล้ว
ด้วยขุมพลังของการ์ดจอในยุคนี้ ไม่ว่าจะจาก NVIDIA หรือ AMD การใช้การ์ดจอหลายตัวน่าจะทำให้เราได้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกสูงยิ่งกว่าในอดีตเสียอีก แต่ทำไมกลับไม่ค่อยมีใครพูดถึงมันเลย ในบทความนี้เราจะมาหาเหตุผลกัน
ภาพจาก : https://flic.kr/p/QcN1qf
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกมเมอร์เลิกที่จะให้ความสนใจในการใช้งานใช้การ์ดจอหลายตัวมาจาก "ราคา" ยกตัวอย่างเช่น การ์ดจอระดับเรือธงของ NVIDIA รุ่น RTX 3090 ขณะนี้ (3 มี.ค. 2565) แค่ใบเดียวราคาก็เฉียดหนึ่งแสนบาทแล้ว หรือของ AMD อย่างรุ่น RX 6900 XT ก็ประมาณ 60,000 บาท
หากต้องการทำ Dual GPUs ใช้การ์ดจอ 2 การ์ด จะมีเกมเมอร์สักกี่เปอร์เซ็นต์ที่สามารถจ่ายเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ไหว ซึ่งราคาดังกล่าวยังไม่รวม หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), แผงวงจรหลัก (Mainboard), ระบบระบายความร้อน, พาวเวอร์ซัพพลาย (PSU) รุ่นใหญ่ ฯลฯ ที่ต้องเป็นรุ่นระดับสูงด้วยเช่นกัน รวม ๆ แล้วอย่างน้อยต้องใช้เงินประมาณ 200,000 - 300,000 บาท เลยทีเดียว
นอกจากค่าคอมพิวเตอร์แล้ว สเปกระดับนี้จำเป็นต้องใช้ ความละเอียดหน้าจอแสดงผลแบบ 4K ที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงด้วย ราคาของหน้าจอคอมพิวเตอร์ระดับนี้ก็ไม่ได้ถูกเช่นกัน
ต่อให้คุณเลือกใช้เคสคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่จะหาได้ก็ตาม หากมีการ์ดจอมากกว่าหนึ่งตัว ความร้อนที่เกิดขึ้นภายในเคสคอมพิวเตอร์ก็จะสูงมาก อย่าลืมว่าเมื่อใช้การ์ดจอหลายตัว เพราะ หน่วยประมวลผลกราฟอก (GPU) ที่จะมาทำงานร่วมก็ต้องเป็นระดับสูงด้วยเช่นกัน เพราะความร้อนที่เกิดจากการ์ดจอซึ่งก็มีอย่างน้อย 2 ตัว รวมกับความร้อนที่เกิดจาก CPU จะอยู่ระดับสูง จะทำให้อุณหภูมิภายในเคสสูงจนระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air Cooling System) จะไม่สามารถรับมือไหวนั่นเอง
ซึ่งถ้าหากคุณไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ก็จะเผชิญกับปัญหา การลดความเร็วในการทำงานอัตโนมัติ เมื่อความร้อนของชิปสูงเกินไป เพื่อป้องกันความเสียหาย (Thermal Throttling)
นั่นหมายความว่า คุณจำเป็นต้องใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือของเหลว (Water or Liquid Cooling System) เท่านั้น ซึ่งก็มีอยู่ 2 รูปแบบให้เลือกใช้ คือ ชุดน้ำระบบปิด (AIO Water Cooling) และ ชุดน้ำระบบเปิด (Custom Water Cooling)
ในกรณีที่เลือกใช้ AIO Water Cooling คุณจะต้องใช้มันอย่างน้อยถึง 3 ตัว เพื่อประกบซีพียู 1 ตัว และการ์ดจออีก 2 ตัว แต่ปัญหาคือ AIO Water Cooling ขนาดของมันก็ไม่ได้เล็ก แค่เพียงตัวเดียวส่วนใหญ่ก็ใช้เต็มพื้นที่แล้ว แล้วนี่เราจะต้องติดตั้งถึง 3 ตัว เคสทั่วไปที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาดหายากมากที่จะรองรับการติดตั้งได้ตามโจทย์ นอกเสียจากว่าคุณจะสั่งทำเคสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแบบ Custom เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ทางเลือกที่ดีที่สุดเลยตกไปอยู่ที่ Custom Water Cooling แต่ปัญหาที่ตามมา คือการใช้ชุดน้ำระบบเปิดมีความยุ่งยากทั้งการติดตั้ง และการดูแลรักษาที่ต้องอาศัยความรู้ความชำนาญ ราคาก็ค่อนข้างสูงด้วย
ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=utMV52k0quo
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือต่อให้ Custom Water Cooling แล้วก็ตาม แต่เคสคอมพิวเตอร์ก็จะยังแผ่รังสีความร้อนออกมานอกตัวเคสอยู่ดี หากไม่ได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ภายในห้องแอร์ ก็น่าจะมีเหงื่อตกกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือความต้องการด้านพลังงาน เพราะการ์ดจอระดับเรือธงที่นิยมนำมาทำ SLI หรือ CrossFireX นั้น เฉพาะตัวการ์ดอย่างเดียวก็ต้องการ PSU อย่างต่ำ 300 วัตต์แล้ว อย่าง RTX 3090 ก็ต้องการ 350 วัตต์ (Watts) ต่อการ์ดจอ 2 ใบ ก็ใช้ไปแล้ว 700 วัตต์
แต่ถ้าสมมติว่าใช้ร่วมกับซีพียู Intel i9-12900 ที่ใช้ 240 วัตต์ เมื่อรวมกับฮาร์ดแวร์ส่วนอื่น ๆ แล้ว เท่ากับว่าคุณต้องใช้ PSU ที่มีกำลังขั้นต่ำอย่างน้อย 1,300 วัตต์ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร
Toughpower DPS G RGB 1500W Titanium ราคาประมาณ 23,000 บาท
ภาพจาก : https://th.thermaltake.com/toughpower-dps-g-rgb-1500w-titanium.html
นอกจากนี้ อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าก็จะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าต่อเดือนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
การที่เกมเมอร์จะสามารถดึงประโยชน์จากการใช้คอมพิวเตอร์ที่มี Multi-GPU ได้นั้น เกมที่ต้องการเล่นจะต้องรองรับการทำงานของ Multi-GPU ด้วย ต่อให้คุณมีการ์ดจอ RX 6900 XT ต่อไว้ถึง 4 ใบ แต่หากเกมที่คุณไม่สนับสนุนเทคโนโลยี CrossFireX หรือ SLI ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างจากการใช้การ์ดจอใบเดียว
ในอดีต การ์ดจอนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพสูงพอที่จะรันเกมระดับ AAA ได้อย่างราบรื่น จึงไม่น่าแปลกใจที่นักพัฒนาจะสร้างเกมของตนให้รองรับเทคโนโลยี Multi-GPU แต่ว่าการ์ดจอสมัยนี้อย่าง RTX 3090 และ RX 6900 XT ก็สามารถรับมือกับเกมระดับ AAA ที่ความละเอียด 4K@60FPS ได้อย่างสบาย ๆ นั่นเป็นเหตุผลให้ การทำ Multi-GPU นั้นไม่คุ้มค่าอีกต่อไป
ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือการที่การ์ดจอตระกูล RTX 30 ของ NVIDIA เหลือเพียงรุ่น RTX 3090 เท่านั้นที่ยังรองรับ SLI แต่ก็ยุติการอัปเดตโปรไฟล์สำหรับเกมให้แล้ว ปล่อยให้ตกเป็นเรื่องของผู้พัฒนาเกมที่ต้องทำเอง ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะ การ์ดจอตระกูล RTX 30 นั้นมีประสิทธิภาพที่สูงมาก มีคนเอา RTX 2080 Ti สองตัวมาต่อ SLI มาเทียบกับการใช้ RTX 3090 ใบเดียว ประสิทธิภาพก็ใกล้เคียงกันมาก แต่ประหยัดกว่ามาก ทั้งค่าไฟ และค่าการ์ดจอ (ราคาในสถานการณ์ปกติ) รวมไปถึงประเด็นที่ว่าเป็นประสิทธิภาพที่สามารถใช้งานได้กับทุกเกม
คลิปจากช่อง https://www.youtube.com/channel/UCueyCLPsCxjk1ZwtAmu6Gvw
เมื่อผู้ผลิตการ์ดจอไม่สนใจ, นักพัฒนาเกมก็ไม่สนใจ และกลุ่มผู้ใช้งานที่มีกำลังซื้อไหวก็มีอยู่อย่างน้อยนิด จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำให้ปัจจุบันนี้ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงการจัดสเปกคอมแบบ Multi-GPU เหมือนในอดีต
จากหลายเหตุผลที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ว่าการ์ดจอในปัจจุบันนี้แรงจนไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอ 2 ใบ (หรือมากกว่านั้น) เพื่อเล่นเกมที่การตั้งระดับคุณภาพสูงสุด (Ultra) แล้ว ดังนั้น ต่อให้คุณพร้อมจ่ายเงินจัดสเปกคอมระดับนี้มาใช้งาน คุณก็แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันอยู่ดี หรือที่สำนวนฝรั่งจะเรียกว่า "Overkill" สำนวนไทยก็น่าจะเรียกว่า "ขี่ช้างจับตั๊กแตน"
ไหนจะปัญหาจากผู้พัฒนาเกมที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สร้างเกมมาให้รองรับการใช้ Multi-GPU มีเพียงเกมระดับ AAA ไม่กี่ค่ายเท่านั้นที่ยังใส่มาให้ และเชื่อว่าในอนาคตก็น่าจะมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เพราะความแรงของการ์ดจอก็สูงขึ้นแบบก้าวกระโดดแทบทุกปี ลองจินตนาการว่า RTX 4090 มีความแรงใกล้เคียงกับ RTX 3090 ต่อ SLI จะมีเกมไหนกันที่ต้องการสเปกสูงขนาดนั้น
หากต้องการประกอบคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมเป็นหลัก เรียนตามตรงว่า ณ ปัจจุบันนี้ไม่มีเหตุผลอันควรที่จะเลือกประกอบคอมพิวเตอร์แบบ Multi-GPU นอกเสียจากว่ารวยจนเหลือใช้ ลงทุนสูง ค่าไฟแพงไม่ได้สะกิดขนหน้าแข้งเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานด้านกราฟิกเป็นหลัก เช่น การตัดต่อวิดีโอ หรือเรนเดอร์งานกราฟิกขนาดใหญ่ ค่อยน่าพิจารณาการใช้ Multi-GPU
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |