รวม 8 ทักษะที่จำเป็นสำหรับงานสาย IT ในปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567)

แนะนำ 8 ทักษะที่จำเป็นสำหรับงานสาย IT ในปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567)

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน สำหรับพวกเราทุกคนเป็นอย่างมาก ทุกคนเชื่อไหม ? จากผลสำรวจจาก We Are Social ที่สำรวจผู้ใช้งานที่เข้าถึง อินเทอร์เน็ต (Internet) ในประเทศไทยในปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) มีจำนวนถึง 61.21 ล้านคน หรือคิดเป็น 85.3% จากประชากรทั้งหมดซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของระบบอินเทอร์เน็ตต่อคนไทยเป็นอย่างมาก การเสพข้อมูล IT เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมออนไลน์ที่มีความสำคัญ และมีเม็ดเงินไหลเวียนสูงจึงเป็นงานในฝันของใครหลาย ๆ คนนั่นเอง ดังนั้นในบทความนี้ผมจะมาแนะนำ 8 สกิลทักษะความสามารถที่จำเป็นสำหรับสายงานด้าน IT เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดสายงาน IT

8 ทักษะไอที ที่สร้างรายได้สูง ปี 2024

จากการสำรวจของ ManpowerGroup's Employment ในไตรมาสที่ 2 ของปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567) ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการจ้างงานที่ลดลง ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ผลการสำรวจเผยให้เห็นถึงแนวโน้มการจ้างงานสุทธิที่ชี้ให้เห็นถึงความตั้งใจในการจ้างงานของนายจ้างที่ลดลง 2% ต่อปีเป็น +22% และ 4% ในทุกไตรมาส  แต่อย่างไรก็ตามความต้องการในการจ้างงานที่จำเป็นจะต้องมีทักษะทางไอทีก็ยังเป็นที่ต้องการสูงอยู่ดีครับ ดังนั้นสกิลทักษะทางไอทีที่จำเป็นต้องมีอะไรบ้าง ? เรามาเข้าประเด็นหลักกันเลย

ที่มาของภาพ : https://www.techopedia.com/top-10-tech-skills-to-learn-in-2024-to-make-a-six-figure-salary

1. Cybersecurity

ปัจจุบันนี้ ภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์กำลังอยู่ในช่วงที่เป็นขาขึ้นเลยทีเดียว ทำให้ทักษะ และความรู้ทางด้านนี้เป็นสิ่งสำคัญในการหาบุคลากรสำหรับหน่วยงานต่าง ๆ เลย เพราะต้องใช้ผู้ที่มีทักษะทางด้าน Cybersecurity ปกป้องข้อมูลที่มีความสำคัญ และมีมูลค่าสูงนั่นเอง

สำหรับนักพัฒนาด้าน Cybersecurity แน่นอนว่าเป็นงานที่มั่นคง และสามารถต่อยอดได้ไกลเนื่องมาจากการที่งานสายนี้นั้นเปิดกว้าง และมีเส้นทางให้เดินหลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามความรู้ทางด้าน IT ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานสายนี้เลย เพราะจำเป็นจะต้องมีความเข้าใจถึงพื้นฐานในการเชื่อมต่อกันของส่วนต่าง ๆ ในระบบนั่นเอง

ที่มาของภาพ: https://www.tccd.edu/magazine/volume-06/issue-02/cybersecurity

แนวทางการเรียนรู้

1. เข้าใจพื้นฐานของความปลอดภัยเครือข่าย (Network Security) รวมถึงการถ่ายโอนข้อมูล และ โปรโตคอลเครือข่าย (Network Protocol) ต่าง ๆ
2. ต้องทำให้ตนเองคุ้นชินกับระบบปฏิบัติการต่าง ๆ และ เครื่องเสมือน (Virtual Machine) เป็นต้น
3. ศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของ ระบบตรวจจับการบุกรุก (Intrusion Detection Systems) ระบบป้องกันการบุกรุก (Intrusion Prevention Systems) เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) และการเข้าถึงระยะไกล (Remote Access)
4. ความรู้ในด้านการควบคุมความปลอดภัย (Security Control) เฟรมเวิร์ก (Framework) เช่น NIST
5. พัฒนาความสามารถในด้านการเขียนสคริปต์ลักษณะอัตโนมัติ (Automate Scripts)
6. เข้าใจหลักการการจัดการความเสี่ยง มีความสามารถในการแก้ปัญหา และร่วมงานกับผู้อื่น

2. Cloud Computing

อีกหนึ่งทักษะที่ควรค่าแก่การเรียนนั่นก็คือ ทักษะทาง คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ซึ่งการทำคลาวด์เนี่ย คือการให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต  งมีประโยชน์หลายประการเลยเช่น สามารถมีสเกลขนาดที่ไม่จำกัด, มีความยืดหยุ่น และสามารถลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี ด้วยการขยายตัว และการใช้งานที่มากขึ้นในทุกวัน ๆ ทำให้ความต้องการบุคลากรในสายงานนี้สูง โดยต้องการตำแหน่งแอดมินระบบคลาวด์ และวิศวกรระบบคลาวด์ เป็นหลัก

ผู้ที่มีความสามารถด้านนี้ สามารถทำงานได้ในหลายอุตสาหกรรมเลยทีเดียว ทั้งด้านเทคโนโลยี, การเงิน, บริการทางสุขภาพ และอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้น การมีความรู้ในสายงานด้านนี้จะเพิ่มโอกาสการทำงานของคุณอย่างเห็นได้ชัดเลย

ที่มาของภาพ : https://pandorafms.com/blog/cloud-computing/

แนวทางการเรียนรู้

1. ศึกษาพื้นฐานของระบบคลาวด์
2. ศึกษาการนำคลาวด์ไปใช้ในระบบอัตโนมัติ
3. ทำความรู้จัก Management Tools
4. ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ Active Directory
5. รู้จักการสังเกตการณ์ (Monitor), การบันทึก ข้อมูล Log และการทำการแก้ไข (Remediation)

3. Data Science และ Data Analytic

โลกของเราในปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หลาย ๆ องค์กรมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจในข้อมูลของบริษัทอย่างลึกซึ้ง นี่ถึงเป็นสาเหตุให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และนักวิเคราะห์ข้อมูลเป็นส่วนสำคัญเลยในลักษณะงานแบบนี้เลย

นักวิเคราะห์ข้อมูลจะใช้ทักษะในการจัดการข้อมูลแล้วนำมาแสดงผลให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ซึ่งช่วยให้การบริหาร และจัดการทิศทางขององค์กรเป็นไปตามแนวทางที่ควร ซึ่งยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น การที่นักวิเคราะห์ข้อมูลนำเอาข้อมูลสถิติที่จัดเก็บได้นำมาแสดงผลให้เห็นถึงแนวโน้มผ่านตาราง, กราฟ หรือแผนภูมิ ก็จะเป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพสูงเลยทีเดียว

แนวทางการเรียนรู้

1. ศึกษาเครื่องมือที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลหลาย ๆ ประเภท
2. ศึกษาเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในสายงานนี้เช่น Microsoft Excel , Power BI , Tableau , Python และ ApacheSpark เป็นต้น
3. ศึกษาประเภทของข้อมูลที่จะใช้กับเครื่องมือแต่ละเครื่องมือ
4. โดยสายงานนี้อาจจำเป็นต้องมีความรู้สูงในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์, วิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือที่เกี่ยวข้อง

4. Robotic Process Automation (RPA)

ทักษะทาง Robotic Process Automation (RPA) คือการโปรแกรมหุ่นยนต์ให้มาทำหน้าที่แทนทรัพยากรมนุษย์ในงานที่มีความซับซ้อนนั่นเอง ซึ่งการมีทักษะทางในการใช้เครื่องมือ และออกแบบโปรเซสทาง RPA จะทำให้เราสามารถเป็นบุคลากรที่มีค่าขององค์กรได้เลย เพราะว่าองค์กรเองก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับปรุงกิจการให้มีประสิทธิภาพสูง และลดข้อผิดพลาดจากการทำงานนั่น

ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยในการลดต้นทุน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ไม่ว่าเราจะทำงานในวงการ การเงิน สุขภาพ หรือการผลิต ทักษะด้าน RPA ก็ยังสามารถที่จะต่อยอดไประหว่างกันได้ ดังนั้น RPA จึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญนั่นเอง

ที่มาของภาพ : https://sp-automation.co.uk/whats-the-difference-between-automation-and-robotics/

แนวทางการเรียนรู้

1. ทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการลงเรียนคอร์สออนไลน์ โดยศึกษาการใช้งานเครื่องมือทาง RPA และการนำไปประยุกต์ใช้กับระบบอัตโนมัติ
2. ศึกษาจากการทำงานจริง โดยมองหาโอกาสจากการปฏิบัติงานจริง ๆ จากที่ทำงาน ซึ่งจะทำให้พัฒนาได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว

5. Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) 

ต้องยอมรับเลยว่า เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) กับ เทคโนโลยี Machine Learning (ML) เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนในการ ปฏิวัติอุตสาหกรรมมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน และการรักษาสุขภาพ การที่เรามีทักษะที่ดีในการทำ Machine Lerning มีความรู้เกี่ยวกับการประมวลผลภาษา และการวิเคราะห์ข้อมูล จะส่งผลให้เราเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงาน

ในทางการแพทย์นั้น AI และ ML แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม มันสามารถที่จะรวบรวมข้อมูลทางการแพทย์ได้มากให้ผลลัพธ์เป็นความรวดเร็วในการรักษา และการวินิจฉัยอาการที่แม่นยำสูงทำให้ทักษะความรู้ทางด้านนี้เป็นสิ่งสำคัญและน่าสนใจมาก ๆ

แนวทางการเรียนรู้

1. ศึกษาผ่านทางช่องทางออนไลน์ คอร์สเรียน AI และ ML
2. เรียนผ่านสถานศึกษา หรือลงเรียนคอร์สที่ให้ความรู้ในด้าน AI และ ML

6. Blockchain

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังเหล่าสกุลเงินออนไลน์ Cryptocurrency อย่าง บิทคอยน์ (Bitcoin) ก็คือ Blockchain ซึ่งการที่เรามีทักษะ และความรู้ในการนำเอา Blockchain ไปประยุกต์ใช้นั้นจะทำให้เราได้เปรียบเป็นอย่างมาก

โดยเจ้า Blockchain ทำงานโดยการกระจายหลักฐานของการโอนถ่ายข้อมูลทางธุรกรรม หรือเงินออกจากศูนย์กลางนั่นเอง ซึ่งต่างจากการโอนถ่ายแบบปกติที่ต้องผ่านส่วนกลางแต่หลักการของ Blockchain คือการทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องสามารถเห็นหลักฐานการโอนถ่ายทางธุรกรรมได้ทำให้สามารถตรวจสอบยืนยัน และบันทึกข้อมูลการถ่ายโอนธุรกรรมได้ทุกเมื่อนั่นเอง

ดังนั้นระบบ Blockchain จึงกลายเป็นระบบที่มีความปลอดภัยโดยธรรมชาติเลย เพราะความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมใด ๆ จะต้องได้รับความเห็นพร้อมกันจากเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ด้วย

ที่มาของภาพ : https://www.openaccessgovernment.org/use-of-blockchain/76270/

แนวทางการเรียนรู้

1. ต้องทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของ Blockchain ซึ่งรวมถึงแนวคิดต่าง ๆ เช่น การเข้ารหัส Consensus โปรโตคอลของ Blockchain เป็นต้น
2. ต้องทำให้ตัวเองคุ้นชินกับวงการ Blockchain ทั้งในส่วนของการพัฒนาระบบ เครื่องมือ และแพลตฟอร์มที่ใช้
3. ต้องเข้าใจความต่างของแต่ละประเภท และเลือกใช้งานได้ถูกต้อง

7. User Experience (UX) Design

การออกแบบการใช้งานของระบบ หรือซอฟต์แวร์ให้มีการตอบสนองต่อการใช้งานของผู้ใช้ ให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ และความประทับใจจากการใช้งานให้สูงที่สุด ตามความต้องการ วัตถุประสงค์ และพฤติกรรมการใช้งาน เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ

ดังนั้น การมอบ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (User Experience - UX) ที่ดีจะส่งผลโดยตรงกับฐานลูกค้า และความภักดีต่อแบรนด์ของลูกค้านั่นเอง ดังนั้นแล้ว การมีทักษะทางด้านการทำ UX ที่ทำให้ลูกค้าพอใจจึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญสำหรับงานทาง IT เลย

ที่มาของภาพ : https://mondo.com/insights/ux-designers-job-description-salary-career-path/

แนวทางการศึกษา

1. ศึกษาจากการเข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีการเปิดสอนในเรื่องของการออกแบบ UX ให้ได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้งานมากที่สุด
2. ลงเรียนคอร์สหรือค่ายที่เน้นในการสอนออกแบบ UX และให้เคล็ดลับทักษะต่าง ๆ ในการออกแบบเพื่อให้ได้ UX ที่มีประสิทธิภาพ

8. Digital Marketing

มาถึงทักษะสุดท้ายกันแล้ว ต้องยอมรับเลยว่า การทำ การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) นั้นเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ ทักษะที่จำเป็นทางด้านนี้ก็เช่น SEO (Serch Engine Optimization) นั่นเอง การสร้างโฆษณาทำ Pay Per Click ต่างล้วนจำเป็นจะต้องมีความรู้ทางด้านไอที

ด้วยการเติบโตทางโซเชียลมีเดียหลาย ๆ ธุรกิจจะต้องปรับตัวนำเสนอกลยุทธ์ต่าง ๆ ออกมาเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท ส่งผลให้ความรู้ทักษะทางด้าน Digital Marketing เป็นอีกหนึ่งทักษะที่นำมาไว้บนลิสต์ในบทความนี้เลย

แนวทางการเรียนรู้

1. เรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนของการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าจากฐานข้อมูล ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือเช่น Google Ads หรือ Google Analytics ช่วยวิเคราะห์ได้
2. นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือการตลาดผ่านอีเมล เช่น HubSpot, Sendinblue เป็นต้น
3. พัฒนาตนเองให้เชี่ยวชาญในด้านการใช้คีย์เวิร์ดให้สอดคล้องกับ SEO เป็นต้น

 บทสรุป

อนาคตของสายการทำงานมีแนวโน้มไปในทางงานที่จะต้องใช้ทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ดังนั้นการฝึกฝนทักษะทางไอทีให้มีความคุ้นชิน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่ออาชีพในอนาคตของทุกคนเลย

โดยทักษะที่ยกมาทั้งหมดนี้ไม่ได้เพียงแต่จะทำให้เราเป็นผู้ที่มีคุณค่าต่อองค์กร แต่ยังจะสามารถช่วยเปิดกว้างโอกาส และความก้าวหน้าในการทำงานอีกด้วย