ในทุกวันนี้ โน้ตบุ๊ก (Notebook) หรือ แล็ปท็อป (Laptop) ถือเป็นอีกหนึ่ง อุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกเหนือจากที่มันจะเป็นเครื่องมือที่สะดวกแล้ว มันยังสามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่าง ใช้ทำงาน เรียน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ทำได้แทบจะทุกกิจกรรมในชีวิตเราเลย และยิ่งเราใช้งานโน้ตบุ๊กมากขึ้นเท่าไหร่ ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเราก็ยิ่งมีเยอะมากขึ้นเท่านั้น
ส่วนราคานั้นก็ไม่ใช่ถูก ๆ โน้ตบุ๊กสมัยนี้มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน ทำให้ตัวเครื่องนั้นตกเป็นเป้าหมายของโจรได้ง่าย ๆ ถ้าหากเราโดยขโมยไปนอกจากจะเสียของมีค่าแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องอันตรายต่อข้อมูลที่อยู่ภายในนั้นได้ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม : แนะนำโน้ตบุ๊กน่าซื้อใช้ล่าสุด โดยทีมงานไทยแวร์ (Latest Recommended Notebooks by Thaiware Team)
และเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในบทความนี้จะพาไปแนะนำ วิธีดูแลความปลอดภัยการใช้งานโน้ตบุ๊ก, วิธีดูแลความเป็นส่วนตัวบนโน้ตบุ๊ก และ วิธีป้องกันการถูกขโมยและความเสียหายกับโน้ตบุ๊ก เพื่อให้คุณใช้งานโน้ตบุ๊กที่คุณรักได้อย่างปลอดภัย อยู่คู่กับเราได้นานมากขึ้น
สิ่งแรกของความปลอดภัยที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ การตั้งให้เครื่องใส่ รหัสผ่าน (Password) ถ้าหากเราไม่ใส่รหัสผ่านเครื่องของเรา คนร้ายที่จ้องเล่นงาน หรือ คนรอบตัวเราไม่ว่าใครก็สามารถเปิดและเข้ามาเอาข้อมูลของเราไปได้ทุกเมื่อ
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://superuser.com/questions/1217298/how-can-i-take-screenshots-of-the-windows-10-login-screen
แค่ตั้งรหัสผ่านอย่างเดียวไม่พอ ถ้าจะให้ดีควรตั้งรหัสผ่านที่เดาได้ยาก ห้ามตั้งอะไรง่าย ๆ อย่าง วันเดือนปีเกิด, ชื่อสัตว์เลี้ยง, หรือ ชื่อคนใกล้ตัวเรา การตั้งรหัสผ่านที่ดี ควรมี ตัวอักษรพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่, ตัวเลข, ตัวอักขระพิเศษ ผสมกันอยู่ จะทำให้เดาหรือเจาะเข้าเครื่องของเราได้ยากขึ้น
แค่เราเดินแว้บหายไปเข้าห้องน้ำ เครื่องก็เข้าสู่โหมดพักหน้าจอ (Screensaver) ใครผ่านไป ผ่านมา แค่ขยับเมาส์นิดเดียวเครื่องก็เข้าสู่หน้าจอเดสก์ท็อปทันที โดยไม่ต้องใส่รหัสใด ๆ เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เครื่องเรามีโหมดพักหน้าจอเฉย ๆ ควรตั้งค่าให้เครื่องเรียกใช้รหัสผ่านทุกครั้งที่หมดเวลาพักหน้าจอ ดีกว่าปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาใช้งานโน้ตบุ๊กเราเวลาที่เราไม่อยู่
วิธีตั้งค่า ให้ค้นหาคำว่า "Screen Saver Settings" และ เลือกระยะเวลาตั้งพักหน้าจอ จากนั้น ติ๊ก "ช่อง On resume, display logon screen" จากนั้นกดที่ "ปุ่ม OK" เพียงเท่านี้ เมื่อเครื่องหมดเวลาพักจอ พอขยับเมาส์ เครื่องก็จะเข้าสู่หน้าจอ Logon ให้ใส่รหัสผ่านทุกครั้ง
การใส่รหัสผ่านเข้าเครื่องเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถปกป้องข้อมูลที่อยู่ภายในได้ เพราะแค่คนขโมยดึงเอาฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลภายในออก ไปเสียบเครื่องใหม่ก็สามารถดูข้อมูลทั้งหมดได้แล้ว
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://answers.microsoft.com
วิธีที่จะทำให้ข้อมูลภายในปลอดภัยก็คือ การเข้ารหัส (Encrypt) ข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ สำหรับผู้ใช้ Windows 10 และ 11 เบื้องต้นให้เราเช็คว่าโน้ตบุ๊กที่เราใช้รองรับฟังก์ชัน Device Encryption หรือ BitLocker หรือไม่ ถ้าพบว่าเครื่องรองรับก็เข้าไปเปิดใช้ได้ สามารถเช็คได้ที่การตั้งค่า
นอกจากนี้เรายังสามารถดาวน์โหลด โปรแกรมเข้ารหัส (Encryption Software) รูปแบบอื่น ๆ มาป้องกันข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ เอกสารที่สำคัญได้อีกด้วย
ข้อมูลที่เก็บอยู่บนโน้ตบุ๊กของเรานั้นมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเสี่ยงจากการติดไวรัส โดนขโมยไฟล์ เผลอลบไฟล์ หรือ เครื่องพัง ทำให้ไฟล์งานที่มีทั้งหมดหายไปได้ในพริบตา ทางเดียวที่จะป้องกันเหตุการณ์นี้ได้ ก็คือ การสำรองข้อมูล (Backup) ในปัจจุบันก็มีให้เลือก สำรองข้อมูลแบบออฟไลน์และออนไลน์ เผื่อเหตุฉุกเฉินไม่คาดฝัน อย่างน้อยก็ยังมีข้อมูลที่เราสำรองไว้อยู่
ขอบคุณรูปภาพจาก : freepik.com / rawpixel.com
ทางที่ดีเราควรสำรองข้อมูลเป็นประจำอยู่เสมอ ตั้งเวลาสำรองข้อมูล ทุกวัน ทุกสัปดาห์ หลังทำงานเสร็จ ถ้าหากวันไหนเราลืมสำรองข้อมูล วันนั้นเราอาจจะต้องเสียใจในภายหลัง เพราะข้อมูลที่เราต้องการอาจจะไม่มีอยู่แล้วก็ได้
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://isnews.stir.ac.uk/2020/06/22/keeping-your-windows-10-device-up-to-date/
การ อัปเดต (Update) ระบบและซอฟต์แวร์ให้ใหม่อยู่เสมอ จะเป็นวิธีที่ช่วยให้เครื่องของเรานั้นปลอดภัยจากไวรัสและมัลแวร์ได้ หากระบบมีช่องโหว่หรือมีบัคที่ทำให้ข้อมูลของเราถูกเจาะได้ การอัปเดตนี้จะช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นถูกแก้ไข เสียเวลาตั้งค่าให้ระบบคอยอัปเดตอัตโนมัติเวลาที่เราไม่ใช้งาน พอเปิดขึ้นมาใหม่ก็ใช้งานได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลปัญหาจุกจิกในภายหลัง
ไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถจู่โจมคุณได้ทุกเมื่อ มันแฝงอยู่ทุกที่ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์ หากเราโดนไวรัสเล่นงาน ข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่บนนั้นอาจเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นไม่ควรลืมที่จะติดตั้ง โปรแกรมสแกนไวรัส ไว้บนเครื่องเอาไว้ป้องกันและกำจัดไวรัสที่จะเข้ามาวุ่นวายได้
แต่สำหรับใครที่ดาวน์โหลดแบบฟรีมาใช้งานแล้วไม่ถูกใจ ฟีเจอร์พื้นฐานที่มี ไม่ครบแบบที่ต้องการ ก็สามารถหาซื้อ โปรแกรมแอนตี้ไวรัสลิขสิทธิ์แท้ มาลองใช้ได้เช่นกัน เพราะส่วนใหญ่แบบที่เสียเงินซื้อจะมีคุณสมบัติป้องกันไวรัสได้มากกว่า ทั้งตอนท่องเว็บไซต์ ดาวน์โหลดข้อมูล ก็มีระบบสแกนแบบ Real-time ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้นได้ ดีกว่าใช้แบบไม่มีอะไรมากั้นเลย
เรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy) นั้นสำคัญมาก ๆ ยิ่งในโลกของยุคดิจิทัลแบบนี้ เราทุกคนยิ่งต้องระวังการใช้งานให้มากๆ สำหรับโน้ตบุ๊กที่เราใช้อยู่ทุกวัน นอกจากใช้งานตามปกติ มันก็มีหลายวิธีที่จะช่วยเสริมความปลอดภัยของความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้นได้นะ จะมีอะไรมาดูกัน
ขณะที่เราใช้งานโน้ตบุ๊กอยู่ บนโต๊ะทำงานในออฟฟิศ, นั่งร้านกาแฟ, ห้องสมุด, หรือสวนสาธารณะ เราอาจจะถูกคนรอบข้างขโมยข้อมูลได้ง่าย ๆ โดยไม่ทันระวังตัว ไม่ใช่จากการโจมตีจากทางอินเทอร์เน็ต แต่เป็นการแอบดูหน้าจอเราขณะที่เรากรอกข้อมูล หากเราเผลอ ข้อมูลส่วนตัว หรือ รหัสผ่านก็อาจจะถูกขโมยไปได้โดยง่าย
แก้ได้ด้วยวิธีการ "ติดฟิลม์หน้าจอกันคนมอง (Privacy Filter)" ตัวฟิลม์นี้จะช่วยลดและจำกัดมุมในการมอง ให้ไม่สามารถมองจากมุมอื่น ๆ ได้ หากจะใช้งานต้องมองที่จอตรง ๆ เท่านั้น ลองหาซื้อตามท้องตลาดมาดู อาจจะช่วยให้เรานั่งใช้งานได้สบายใจมากขึ้น
โน้ตบุ๊กส่วนใหญ่นั้นมีกล้องเว็บแคมติดมาให้ด้วย บางคนอาจจะไม่เคยใช้งานมันเลย แต่รู้ไหมว่ากล้องที่อยู่ตรงหน้าของเราเนี่ยแหละ แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนให้มันกลายเป็นกล้องที่ใช้แอบดู (Spy) ขณะที่เราทำอะไรอยู่หน้าจอได้ตลอดเวลาได้
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://betanews.com/2020/07/10/webcam-hackers-apple-cover/
ทางที่ดี เวลาที่เราไม่ใช้งาน "ควรหาเทป หรือกระดาษ ตัดมาแปะไว้ที่เลนส์กล้องเว็บแคม" ปิดไว้เลยดีที่สุด ทีนี้ถึงแม้ใครจะแอบเปิดกล้อง ต่อให้เป็นแฮกเกอร์ฝีมือดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถเห็นเราที่หน้าจอได้อีกแล้ว
ข้อมูลในตัวเครื่องเราสามารถดูแลด้วยตัวเองให้ปลอดภัยได้ แต่สำหรับข้อมูลบนโลกออนไลน์ ขณะที่เราใช้อินเทอร์เน็ตการดูแลอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้ โดยการเปิด เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) ในการท่องเว็บ ทุกครั้ง
โดย VPN ย่อมาจากคำว่า "Virtual Private Network" มันเป็นระบบเครือข่ายเสมือน ที่จะช่วยซ่อนกิจกรรมการทำงานต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตได้ ป้องกันการสอดส่องข้อมูล และยังช่วยปิด หมายเลขที่อยู่ไอพี (IP Address) จริงที่ใช้งานอยู่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวและการใช้งานท่องเว็บบนโลกอินเทอร์เน็ตของคุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม : VPN คืออะไร ? การมุด VPN ทำงานยังไง และ ทำอะไรได้บ้าง ?
ถ้าเรื่องงบไม่ใช่ปัญหา ลองหากุญแจ USB Security Key มาใช้ดู มันเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยเสริมความปลอดภัยขึ้นอีกขั้นสำหรับการเข้ายืนยันตัวตน ใช้ร่วมกับ การยืนยันตนแบบสองปัจจัย (2-Factor Authentication หรือ 2FA) นั่นเอง
ขอบคุณรูปภาพจาก : kipuhealth.com
ยกตัวอย่างเวลาเราจะเข้าใช้งาน ลงชื่อเข้าใช้, เข้าอีเมล์, บัญชีโซเชียลต่าง ๆ เราสามารถใช้เจ้ากุญแจนี้ ในการกดยืนยันรหัสผ่านตัวตนของเราได้ ใช้แทนการยืนยันรหัสด้วยข้อความสั้น (SMS) หรือ 2FA บนมือถือแบบเดิม ทำให้กุญแจนี้ใช้ป้องกันการแฮก และการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในระบบได้เป็นอย่างดี ควรมีติดไว้สักอัน
นอกจากความปลอดภัยด้านข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่เราต้องระวัง ยังมีเรื่องความปลอดภัยที่เกิดขึ้นโดยตรงกับตัวเครื่องโน้ตบุ๊กแสนรักของเราได้ ลองมาดูวิธีการป้องกันแบบต่าง ๆ กัน
ถ้าคุณใช้งานโน้ตบุ๊กในที่ไม่เป็นส่วนตัวอยู่บ่อย ๆ อย่างในนั่งทำงานในออฟฟิศที่มีหลายแผนก แชร์พื้นที่ร่วมกัน แต่อยากได้ความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ลองหาสายป้องกันการขโมยโน้ตบุ๊กมาติดตั้งดู ซึ่งมาตรฐานที่ติดตั้งมากับโน้ตบุ๊กในตลาดจะเป็นของ พอร์ต Kensington Lock มีหลายแบบให้เลือกใช้ ซึ่งอาจจะป้องกันไม่ได้ 100% แต่ก็ช่วยป้องกันการเกิดโจรกรรมได้ในระดับนึง ทำให้การขโมยยุ่งยากขึ้น ช่วยถ่วงเวลาการถูกขโมยในเวลาที่เราไม่อยู่ใกล้ตัวเครื่อง
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.kensington.com
โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ สมัยนี้จะมีฟังก์ชัน GPS ติดมาให้กับตัวเครื่อง ลองค้นหาใน ตัวเลือกตั้งค่า (Settings) และเปิดการใช้งานโหมดติดตามผ่าน GPS (Find my Device) ดู หากเครื่องถูกขโมยไป เราสามารถกดตรวจสอบที่อยู่ล่าสุดของโน้ตบุ๊กได้ และถ้าหากเราตามหาไม่เจอ ก็สามารถสั่งให้เครื่องล็อกและลบข้อมูลภายในได้หากจำเป็นโดยฟังก์ชันนี้มีทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS
ขอบคุณรูปภาพจาก : gearupwindows.com
วิธีการจะคล้าย ๆ กับเปิด GPS ที่ตัวเครื่อง แต่สำหรับใครที่ไม่มีฟังก์ชันนั้น อาจจะลองใช้วิธีซื้ออุปกรณ์ติดตามตัว (Tracking Device) มาติดไว้กับตัวเครื่อง หรือ ซ่อนไว้ในกระเป๋าโน้ตบุ๊กแทน ก็อาจจะเป็นไอเดียที่ไม่เลว ช่วยให้เราตามหาเครื่องเราได้ รู้ได้ว่าเครื่องของเราอยู่ที่ไหน เพิ่มโอกาสให้เราตามหาเครื่องเจอก่อนที่จะหายเข้ากลีบเมฆ ซึ่งบางรุ่นจะมีระบบแจ้งเตือนและส่งเสียง หากมีคนขโมยโน้ตบุ๊กและอยู่ห่างจากเราออกไป เราก็จะรู้ได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.thetileapp.com
หากเราอยู่บ้านอาจมองข้ามข้อนี้ไปก็ได้ แต่ถ้าเราออกเดินทางอยู่บ่อย ๆ และซุ่มซ่ามทำของหล่นง่าย ลองใช้วิธีบ้าน ๆ การป้องกันตัวเครื่องที่ได้ผลดีที่สุด คือ การใส่เคสป้องกัน ลองหาเคสที่สามารถปกป้องรอบตัวเครื่องของเรา กันกระแทกความเสียหายที่เกิดกับเครื่องได้ เมื่อเครื่องหล่น แถมช่วยปกป้องรอยขีดข่วน ให้เครื่องดูสวยเหมือนใหม่ได้ด้วย ส่วนใครที่ไม่ชอบใส่เคส ก็สามารถใช้กระเป๋ากันกระแทกมาใส่โน้ตบุ๊กของตัวเองได้
หากเกิดเหตุโจรกรรม เคสหรือกระเป๋ากันกระแทกก็ยังสามารถช่วยเราได้ในกรณีที่โจรวิ่งราวทำของเราตกและหยิบวิ่งหนีไป อย่างน้อยตัวเครื่องก็อาจจะไม่เสียหายมาก ดีกว่าตกลงพื้นแล้วจอแตกเครื่องพังทันที
|
It was just an ordinary day. |