ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

วิธีแก้ไขปัญหา Microsoft Defender อัปเดตไม่ได้ (How to fix a failed Microsoft Defender Update ?)

วิธีแก้ไขปัญหา Microsoft Defender อัปเดตไม่ได้ (How to fix a failed Microsoft Defender Update ?)

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 5,664
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2+Microsoft+Defender+%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89+%28How+to+fix+a+failed+Microsoft+Defender+Update+%3F%29
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีแก้ไขปัญหา Microsoft Defender อัปเดตไม่ได้
(How to fix a failed Microsoft Defender Update ?)

Microsoft นั้นมักจะมีการปล่อยตัว แพทช์อัปเดต (Patch Update) สำหรับ ระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมอื่น ๆ ในเครือเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการอัปเดตจะเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ รวมทั้งการแก้ไข บัค (Bug) ต่าง ๆ ทว่า ผู้ใช้ก็มักจะประสบปัญหาเมื่อดาวน์โหลด (Download) มาติดตั้ง (Install) อยู่บ่อยครั้งเช่นกัน

บทความเกี่ยวกับ Microsoft อื่นๆ

มีหลายวิธีที่สามารถนำมาแก้ไขได้เวลาที่คุณมีปัญหาไม่สามารถอัปเดตระบบได้ แต่ถ้าโปรแกรมอัปเดตดันมีปัญหาซะเองล่ะ จะทำยังไงดี ? ในบทความนี้เราจะมาอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้การอัปเดตของ Microsoft Defender ไม่ทำงาน รวมถึงปัญหาที่ผู้ใช้งาน ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 มักพบเจอกัน ต่อด้วยขั้นตอนวิธีการแก้ไขปัญหาในรูปแบบต่าง ๆ ที่น่าจะช่วยคุณได้มากที่สุดกันค่ะ

เนื้อหาภายในบทความ

ทำความรู้จักกับ สาเหตุที่ทำให้การอัปเดตล้มเหลว (Understanding the causes behind a failed Microsoft Defender update)

ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่องการแก้ปัญหา สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างแรกคือ คุณควรทำความเข้าใจก่อนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไรในกรณีของแต่ละคน ซึ่งมักแตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากปัญหาที่ระบุด้านล่าง ตั้งแต่ปัญหาเดียวหรือมากกว่า 1 ปัญหาร่วมกัน ได้แก่

  • ส่วนประกอบในการอัปเดตที่ ระบบปฏิบัติการ Windows ต้องใช้ในการติดตั้งนั้นไม่ได้ทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่งไฟล์ (File) ส่วนประกอบที่ว่า อาจเกิดการพังหรือการดาวน์โหลดไฟล์เกิดข้อผิดพลาด ทำให้เกิดปัญหาขณะอัปเดต
  • มี โปรแกรมแอนตี้ไวรัส (Antivirus Software) ที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณอาจแทรกแซงการทำงานของการอัปเดต Windows Defender หรือหยุดการอัปเดตกลางทาง ไปจนถึงการขัดขวางไม่ให้เริ่มการอัปเดตเลยก็เป็นได้
  • ตัวระบบเองอาจกำลังเผชิญกับปัญหาไฟล์ล้มเหลวบางอย่าง หรือเกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่างตัวระบบกับตัวอัปเดต ซึ่งถ้าหากเป็นสาเหตุนี้แล้วล่ะก็ ในขณะที่ใช้งานเครื่องตามปกติ คุณกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่แอบสะสมอยู่ภายในมากกว่าหนึ่งอย่างแล้วล่ะ

1. ปิดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ในเครื่องก่อน
(Disable any Third-party Antivirus Software)

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ โปรแกรมแอนตี้ไวรัส จะไปขัดขวางการทำงานของ Microsoft Defender โดยเฉพาะในสถานการณ์นี้ที่คุณต้องการอัปเดตโปรแกรมของระบบ ซึ่งถ้าหากเป็นเคสนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือการไล่ปิดการทำงานของโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องไปเสียก่อน ซึ่งถ้าหากติดตั้งการอัปเดตเสร็จแล้ว ก็สามารถกลับมาเปิดใช้งานได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร

ปิดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ในเครื่องก่อน (Disable any Third-party Antivirus Software)
เครดิตภาพ : https://clean-my-pc.com/how-to-turn-off-avast-antivirus

ในการปิดการใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ หรือ บุคคลที่สาม (3rd-Party) สามารถทำได้โดยการ คลิกขวา ที่ "ไอคอนโปรแกรมแอนตี้ไวรัส" ที่ทาส์กบาร์ (Taskbar) แล้วคลิกเลือก "เมนู Disable → Disable until the next restart"

และถ้าหากคุณคิดว่า เจ้าโปรแกรมแอนตี้ไวรัสคือตัวการหลักที่คอยขัดขวางการอัปเดตแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลบการติดตั้งโปรแกรมนั้น ๆ ทิ้ง แล้วเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น ๆ ที่ไม่ไปขัดการทำงานของ Windows Defender จะดีกว่า

2. รีเซ็ตองค์ประกอบ Windows Update เสียใหม่
(Reset the Windows Update Components)

และอย่างที่เราบอกไปก่อนหน้าว่า มีบางกรณีที่ Windows Update ไม่สามารถทำงานได้ถ้าหากไฟล์อัปเดตนั้นเกิดการชำรุดเสียหาย

เพราะบรรดาส่วนประกอบต่าง ๆ ของตัวอัปเดตนั้น จำเป็นต่อการทำงานของระบบ ดังนั้น เราจึงต้องจัดการซ่อมแซมก่อนติดตั้งการอัปเดตล่าสุด โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การซ่อมแซมส่วนประกอบต่าง ๆ ให้เรียบร้อยโดยการรีเซ็ตให้มันกลับสู่ค่าเริ่มต้นใหม่เสียก่อน

  1. พิมพ์ "คำสั่ง cmd" ใน "ช่องค้นหาของ Windows" เมื่อรายการโปรแกรม Command Prompt ปรากฎขึ้น ให้คลิกขวาแล้วเลือก "เมนู Run as administrator"
  2. คลิก "ปุ่ม Yes" ใน "หน้าต่าง User Account Control"
  3. ในหน้าต่างใหม่ที่ปรากฎขึ้น ให้พิมพ์คำสั่งด้านล่าง แล้วกด "ปุ่ม Enter" เพื่อใช้งานคำสั่ง
net stop wuauserv
net stop cryptSvc
net stop bits
net stop msiserver
  1. เมื่อกระบวนการด้านบนเสร็จแล้ว ให้เราเริ่มต้นการทำงานของเซอร์วิสต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยคำสั่งด้านล่าง เป็นอันเสร็จ
net start wuauserv
net start cryptSvc
net start bits
net start msiserver

รีเซ็ตองค์ประกอบ Windows Update เสียใหม่ (Reset the Windows Update Components)
เครดิตภาพ : https://www.makeuseof.com/microsoft-defender-failed-update-fix/

3. รีสตาร์ท Microsoft Defender Service ใหม่
(Restart Microsoft Defender Service)

มีโอกาสเล็กน้อยที่ปัญหาจะเกิดจากเซอร์วิสของ Microsoft Defender เสียเอง ซึ่งในบางครั้งอาจจะแค่ค้างเล็กน้อย หรือไม่ก็ล้มเหลวในการอัปเดตไปเลย

ด้วยวิธีที่กำลังจะเอ่ยถึงต่อไปนี้ เราจะทำการรีสตาร์ทเซอร์วิสของ Microsoft Defender ขึ้นมา และตั้งค่าให้มันเริ่มทำงานพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการ Windows เมื่อเปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ ทำให้ระบบสามารถติดตั้งการอัปเดตได้ทันทีไม่มีปัญหากวนใจ

  1. กด "ปุ่ม Windows + R" เพื่อเปิด "หน้าต่าง Run" ขึ้นมา
  2. พิมพ์ "คำสั่ง services.msc" แล้วกด "ปุ่ม Enter"
  3. ในหน้าต่างต่อมาที่ปรากฎขึ้น "Microsoft Defender Antivirus" แล้วให้ "คลิกขวา"
  4. เลือก "เมนู Properties" จากรายการเมนูที่ปรากฎขึ้นมา

    รีสตาร์ท Microsoft Defender Service ใหม่ (Restart Microsoft Defender Service)
     
  5. ทีนี้ ให้กด "ปุ่ม Stop" รอสักครู่ก่อนกด "ปุ่ม Start" อีกครั้ง
  6. หลังจากที่ Service ทำการรีสตาร์ทขึ้นมาใหม่แล้ว ให้ "คลิกซ้าย" ที่ "กล่องเมนู Dropdown" เพื่อเลือกประเภทการเริ่มต้นการทำงาน แล้วเลือก "ตัวเลือก Automatic"
  7. คลิกที่ "ปุ่ม Apply → OK" เพื่อบันทึกการตั้งค่า

รีสตาร์ท Microsoft Defender Service ใหม่ (Restart Microsoft Defender Service)

จากนั้นให้ลองติดตั้งการอัปเดตที่ต้องการดูอีกรอบว่าติดตั้งได้แล้วหรือยัง

4. ติดตั้งการอัปเดตที่ต้องการ ด้วยตนเอง
(Manually Install the Targeted Update)

หากการติดตั้งการอัปเดตอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ ทาง Windows ก็มีตัวเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดตัวอัปเดตไปทำการติดตั้งได้เองเช่นเดียวกัน โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. ไปที่หน้า เว็บไซต์ Microsoft Update Catalog แล้วค้นหาการอัปเดตที่ต้องการ
  2. คลิกที่ "ปุ่ม Download" แล้วรอจน เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของเราดาวน์โหลดเสร็จสิ้น จากนั้น ให้เปิด "ตัวอัปเดต" ขึ้นมา
  3. เมื่ออัปเดตเสร็จเรียบร้อย ให้ไปที่ "ไดเรกทอรี C:\ProgramData\Microsoft\Windows Defender\Platform" เพื่อหาเวอร์ชันของ Windows Security จากนั้น ให้จดเวอร์ชันของแพลตฟอร์ม (Platform) เอาไว้
  4. พิมพ์ "คำสั่ง cmd" ใน "ช่องค้นหาของ Windows" เมื่อรายการโปรแกรม Command Prompt ปรากฏขึ้น ให้ "คลิกขวา" แล้วเลือก "เมนู Run as administrator"
  5. พิมพ์คำสั่งด้านล่าง แล้วแทนที่คำว่า "platformnumber" ด้วยเลขเวอร์ชัน (Version number) ที่จดมาเมื่อครู่

cd C:\ProgramData\Microsoft\Windows Defender\Platform\platformnumber

  1. จากนั้น ให้พิมพ์คำสั่งด้านล่างลงไป (แทนที่ platformnumber ด้วยเลขเวอร์ชันเหมือนเดิม)

C:\ProgramData\Microsoft\Windows Defender\Platform\platformnumber>MpCmdRun -SignatureUpdate

เมื่อคำสั่งประมวลผลเสร็จสิ้น ลองเช็คการอัปเดตดูอีกครั้ง จะพบว่าระบบได้ทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว


ที่มา : www.makeuseof.com

0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2+Microsoft+Defender+%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89+%28How+to+fix+a+failed+Microsoft+Defender+Update+%3F%29
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น