Tablet กับ eReader คืออะไร ? และอุปกรณ์ชนิดไหนอ่าน eBook ได้ดีกว่ากัน ?

แท็บเล็ต (Tablet) กับอีรีดเดอร์ (eReader) อะไรอ่านอีบุ๊ก (eBook) ได้ดีกว่ากัน ?

สำหรับอุปกรณ์ แท็บเล็ต (Tablet) ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความอเนกประสงค์ ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไประหว่าง สมาร์ทโฟน (Smartphone) และ คอมพิวเตอร์ PC ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางความสามารถมากมายที่ Tablet ทำได้ การใช้มันเป็นอุปกรณ์สำหรับอ่านอีบุ๊กน่าจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนนิยมใช้กัน

ซึ่งในส่วนของการอ่านอีบุ๊กนี้ นอกจาก Tablet แล้ว มันก็ยังมีอีกทางเลือกก็คือ เครื่องอีรีดเดอร์ (eReader) อุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่ออ่านหนังสืออีบุ๊กโดยเฉพาะ

ถ้าต้องเลือกซื้ออย่างใด อย่างหนึ่ง จะเลือกซื้ออุปกรณ์ประเภทไหนดี ? ระหว่างเครื่อง Tablet กับเครื่อง eReader มาหาคำตอบกันในบทความนี้

แท็บเล็ต คืออะไร ?
(What is Tablet ?)

แท็บเล็ต (Tablet) เป็นอุปกรณ์ที่เราสามารถมองว่ามันเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กชนิดหนึ่ง โดยมันเล็กกว่าเครื่องโน้ตบุ๊ก แต่ก็มีขนาดที่ใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน มันถูกออกแบบโดยผสมผสานข้อดีของสมาทโฟน กับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน 

มันมีหน้าจอแสดงผล, แบตเตอรี่, กล้องดิจิทัล และมีระบบปฏิบัติการในตัว สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มได้ เพื่อเพิ่มความสามารถให้ใช้งานได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ สำหรับระบบปฏิบัติการที่ใช้ใน Tablet ก็มีอยู่หลายตัว เช่น iPadOS, Android, Windows, Fire OS ฯลฯ

ทั้งนี้ ด้วยความที่ Tablet นั้นมีเป้าหมายในการใช้งานแบบพกพาเป็นหลัก หน้าจอของมันจึงเป็นแบบสัมผัสเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม โดยไม่จำเป็นต้องใช้ เมาส์ (Mouse) หรือ คีย์บอร์ด (Keyboard) ใช้เพียงแค่ปลายนิ้ว หรือ ปากกาสไตลัส (Stylus Pen) ก็สามารถใช้ทำงานได้ แต่มันก็รองรับการเชื่อมต่อเมาส์ และคีย์บอร์ดแบบไร้สายได้เช่นกัน

ภาพจาก : https://www.apple.com/th/ipad-pro/

ข้อดี และข้อเสียของแท็บเล็ต (Tablet)

อีรีดเดอร์ คืออะไร ?
(What is eReader ?)

อีรีดเดอร์ (eReader) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ eBook โดยเฉพาะ หน้าตาของเครื่อง eReader มักจะคลายคลึงกับเครื่อง Tablet แต่จุดแตกต่างที่สำคัญคือมักจะใช้ หน้าจอแบบ E-Ink ในการแสดงผล แทนที่จะใช้ หน้าจอ LCD เหมือนกับ Tablet

หน้าจอ E-Ink เป็นฮาร์ดแวร์สำคัญที่แยกมันออกจากเครื่อง Tablet ก็ว่าได้ โดยหน้าจอ E-Ink มีความคมชัดมาก ทำให้ตัวอักษรมีความชัดเจนอ่านง่าย, ประหยัดพลังงานทำให้สามารถใช้อ่านหนังสือได้อย่างยาวนานถึงหลักอาทิตย์เลยทีเดียว, สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแท้จะอยู่ท่ามกลางแดดจ้า และการแสดงผลคล้ายกับกระดาษจริง

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของหน้าจอ E-Ink คือมีอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอที่ต่ำมาก ทำให้ไม่เหมาะกับการแสดงภาพเคลื่อนไหว และส่วนใหญ่ก็เป็นจอแบบขาวดำ แม้จะมีเทคโนโลยี E-Ink แบบสีออกมาแล้ว แต่ความคมชัดก็ยังต่ำอยู่ และสีก็ไม่ได้สดใส ทำให้การใช้งาน eReader จำกัดที่การอ่านหนังสือเป็นหลัก แม้มันจะมีเครื่อง eReader ที่เป็น ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android OS) สามารถใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ หรือชม YouTube ได้ แต่ประสบการณ์ที่ได้รับจัดว่าเลวร้ายมาก

โดย eReader ส่วนใหญ่ จะสามารถเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต (Internet) ผ่าน Wi-Fi ได้ เพื่อใช้ในการดาวน์โหลดหนังสือลงในเครื่อง หรือยืมหนังสือจากห้องสมุดออนไลน์มาอ่าน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่รองรับ Cellular เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ช่วยให้อ่านหนังสือได้นานที่สุด เท่าที่เครื่องจะทำได้

ภาพจาก : https://shop.boox.com/products/tabminic

ข้อดี และข้อเสียของ เครื่อง eReader

ความแตกต่างระหว่างแท็บเล็ต กับอีรีดเดอร์
(What is the difference between Tablet and eReader ?)

ถึงแม้ว่าเครื่อง Tablet และ eReader จะมีคุณสมบัติในการทำงานที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาดิจิทัลได้เหมือนกัน แต่มันก็มีข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบอยู่ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน

ประเภทของหน้าจอ

สำหรับเครื่อง eReader ที่ใช้หน้าจอ E-Ink ที่จำลองการแสดงผลให้เหมือนกับหมึกบนกระดาษธรรมดา มันช่วยถนอมสายตาจากการอ่านต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

ในขณะที่หน้าจอของเครื่อง Tablet นั้นจะเป็นจอ LCD หรือ OLED ที่มีสีสันสดใส และการตอบสนองที่รวดเร็ว จึงสามารถตอบโจทย์การรับชมเนื้อหามัลติมีเดียได้ดีกว่า แต่ด้วยความสว่างของหน้าจอประเภทนี้ ทำให้การอ่านหนังสือต่อเนื่องบนหน้าจอประเภทนี้ เป็นภาระต่อสายตามากกว่าจอแบบ E-Ink

แบตเตอรี่

แม้ความจุของแบตเตอรี่ในเครื่อง Tablet และ eReader จะใกล้เคียงกัน แต่หน้าจอแบบ E-Ink นั้นไม่ต้องใช้ไฟ Backlight ในการแสดงผล แถมยังใช้พลังงานในการทำงานต่ำ ทำให้ใช้อ่านหนังสือได้อย่างยาวนาน อย่างเครื่องอีรีดเดอร์ Kindle ของ Amazon นั้น อ่านได้เป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องชาร์จเลยด้วยซ้ำ แม้แต่อีรีดเดอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ก็ยังอยู่ได้ 2-3 วัน

ซึ่งถ้าเป็นเครื่อง Tablet จะใช้งานต่อเนื่องได้เพียงวัน หรือสองวัน แบตเตอรี่ก็หมด ต้องชาร์จแล้ว

ขนาดความจำ

เนื่องจาก eReader ทำมาเพื่อการอ่านโดยเฉพาะ ซึ่งไฟล์หนังสือเล่มหนึ่งนั้นมีขนาดที่เล็กมากแค่เพียงไม่กี่ MB เท่านั้น เพื่อลดต้นทุนจากค่าของ หน้าจอ E-Ink ที่มีราคาแพง ทำให้ความจุของเครื่องอีรีดเดอร์ให้มาไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ 32 - 64 GB. เท่านั้น ในขณะที่เครื่อง Tablet นั้นมักจะเริ่มต้นที่ 128 GB. ไปจนถึง 2 TB. กันเลยทีเดียว

น้ำหนัก

เครื่อง eReader ส่วนใหญ่จะทำมาน้ำหนักเบากว่าเครื่อง Tablet มาก ทำให้ง่ายต่อการถือเพื่ออ่านหนังสืออย่างยาวนานได้โดยไม่รู้สึกเมื่อย ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับคนที่มีนิสัยอ่านยาว ๆ เราสามารถถือเครื่องอีรีดเดอร์อ่านมือเดียวได้อย่างยาวนาน หลายรุ่นมีปุ่มเปลี่ยนหน้ามาให้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการอ่านด้วยการถือเพียงมือเดียว

ประสบการณ์ในการอ่าน

เครื่อง eReader จะให้ความสำคัญในการอ่านเป็นหลัก มันไม่มีแอปพลิเคชัน และการแจ้งเตือน ที่สามารถขัดจังหวะในการอ่านเหมือนกับเครื่อง Tablet ในขณะที่ Tablet นั้นก็ยังเต็มไปด้วยแอปพลิเคชันมากมาย ที่จะคอยเข้ามารบกวนสมาธิคุณ ให้ว่อกแว่กจากการอ่านหนังสือได้

แอปพลิเคชัน

หากคุณใช้งานเครื่อง eReader ที่ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ Android เช่น Kindle หรือ Kobo มันจะมีแอปพลิเคชันให้ใช้งานได้จำกัดมาก ในขณะที่ถ้าเป็นเครื่อง Tablet คุณสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันได้แทบไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนที่คุณมี

การใช้งานอินเทอร์เน็ต

เครื่อง Tablet สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ แทบไม่ต่างจากการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ คุณสามารถเล่น เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser), รับ-ส่งอีเมล (Email) หรือสตรีมวิดีโอ (Video Streaming) ได้ ในขณะที่เครื่อง eReader นั้นทำได้จำกัด และทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากปัญหาของหน้าจอที่อัตรารีเฟรชเรทต่ำมาก ทำให้การแสดงวิดีโอ หรือการเลื่อนหน้าจอของเว็บเบราว์เซอร์ทำได้แย่มาก ภาพจะดูเหมือนกระตุกตลอดเวลา

ตารางเปรียบเทียบระหว่างแท็บเล็ต กับอีรีดเดอร์
(Tablet and eReader Comparison Table)

เลือกซื้ออะไรดีระหว่างแท็บเล็ต กับอีรีดเดอร์ ?
(Which one should we buy between Tablet and eReader ?)

เป็นคำตอบที่ตอบได้ค่อนข้างยาก หากคุณต้องการอ่านหนังสือเป็นหลัก แน่นอนว่า เครื่อง eReader ที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะย่อมทำได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีของ E-Ink ในปัจจุบันนี้ ทำให้มันยังเหมาะกับการอ่านหนังสือประเภท "ข้อความ (Text)" เป็นหลัก

หากคุณอ่านการ์ตูนด้วย หรืออ่านมังฮวาที่เป็นเว็บตูน ที่ต้องสไลด์หน้าจอในแนวตั้งอ่านผ่านเว็บเบราว์เซอร์ กรณีนี้ เครื่อง Tablet จะทำได้ดีกว่ามาก ดังนั้นจะเลือกซื้ออุปกรณ์ไหนมาใช้งาน ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ในการอ่านของคุณมากกว่า

โดยส่วนตัวแล้ว สองสิ่งนี้แทนกันไม่ได้ หากเป็นไปได้ ก็ใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการซื้อทั้งเครื่อง Tablet กับเครื่อง eReader อย่างไรก็ตาม หากมีงบจำกัด ซื้อได้เพียงเครื่องเดียว ผู้เขียนมองว่า Tablet เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากเรื่องการถนอมสายตาในการอ่านต่อเนื่องนาน ๆ

นอกจากนี้แล้ว เครื่อง Tablet ยังสามารถทำงานได้ครอบคลุมทุกด้าน เทียบกับสิ่งที่ได้ต่อราคาแล้ว Tablet ก็ยังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ได้จำกัดแค่การอ่าน "Text" เป็นหลักเหมือนกับเครื่อง eReader นั่นเอง