ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

Microsoft Hyper-V คืออะไร ? เปิดใช้งานอย่างไร ?

Microsoft Hyper-V คืออะไร ? เปิดใช้งานอย่างไร ?

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 37,421
เขียนโดย :
0 Microsoft+Hyper-V+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

Microsoft Hyper-V คืออะไร ? เปิดใช้งานอย่างไร ?

หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูกับชื่อของ ซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine Software หรือ VM Software) ชื่อดังอย่าง VMware, VirtualBox, Parallels, QEMU, Boot Camp และ KVM (Kernel Virtual Machine) กันมาบ้างไม่น้อย แต่นอกเหนือไปจาก VM Software ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว Hyper-V เองก็เป็น VM Software อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ข้อมูลเพิ่มเติม : VirtualBox, VMWare และ Hyper-V เลือกอะไรดี ?

Microsoft Hyper-V คืออะไร ? เปิดใช้งานอย่างไร ?
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-vector/programmer-working-isometric-style_4911004.htm

VM Software (Virtual Machine Software) คืออะไร ?
 

เนื้อหาภายในบทความ

Hyper-V คืออะไร ?

Hyper-V เป็น VM Software ของค่าย Microsoft (ตัว "V" ของ Hyper-V นั้นมาจากชื่อโค้ดเนมของโปรเจคที่ว่า "Viridian" หรือเฉดสีฟ้าเขียว ไม่ได้มาจากคำว่า "Hyper Virtual" อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจกันแต่อย่างใด) ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกบน ระบบปฏิบัติการ Windows Server ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจำลองการใช้งานอุปกรณ์เสมือนใน ระบบปฏิบัติการ Windows แบบ 32 บิต (x86) และ 64 บิต (x64) ได้อย่างสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น

โดยหลังจากที่เปิดให้ได้ใช้งานกันบน ระบบปฏิบัติการ Windows Server กว่า 4 ปี ทางบริษัทก็ได้เพิ่มฟังก์ชันนี้ให้ผู้ใช้งานตั้งแต่ "Windows 8" เป็นต้นไป ที่สเปกคอมแรงพอ (วิธีดูสเปกคอมพิวเตอร์) ก็สามารถเข้าไป "เปิดการทำงาน" ของระบบนี้เพื่อเชื่อมต่อและใช้งานอุปกรณ์ VM ได้ตามต้องการ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ระบบปฏิบัติการ Windows มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ? ตั้งแต่ Windows 1.0 ถึง Windows 11

Hyper-V คืออะไร ?
ภาพจาก : https://docs.microsoft.com/en-us/virtualization/hyper-v-on-windows/about/

ความต้องการของระบบ (System Requirement)

ก่อนที่จะไปถึงวิธีการเปิดใช้งาน Hyper-V นั้น เราน่าจะต้องมาดูในเรื่องของ "สเปก" คอมพิวเตอร์ที่รองรับการทำงานของ Hyper-V กันเสียก่อน โดยในเบื้องต้นในเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่าจะต้องใช้งาน CPUแบบ 64 บิต ที่รองรับเทคโนโลยี SLAT (Second Level Address Translation), VM Monitor Mode Extension (หรือ VT-c ของ หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU จากค่าย Intel) และมี หน่วยความจำ RAM ตั้งแต่ 4 GB. ขึ้นไป

แต่ทางที่ดีแนะนำใช้งาน RAM 8 GB. ขึ้นไปจะปลอดภัยกว่า เพราะจำนวน RAM ที่น้อยก็เสี่ยงต่อการ Overload ได้ง่าย

นอกจากนี้ ยังต้องใช้งานระบบปฏิบัติการที่รองรับการทำงานของ Hyper-V ได้อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าไปเช็คเวอร์ชันของ ระบบปฏิบัติการ Windows ได้ดังต่อไปนี้

  1. ไปที่ "เมนู Settings"
  2. จากนั้นกดเข้าไปที่ "ตัวเลือก System"
  3. เลือก "เมนู About"
  4. มองหา "Windows Specifications" กดเข้าไป
  5. จะมี "เมนู Edition" ที่ระบุเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ Windows ที่เราใช้งานอยู่ในตอนนี้

โดย Hyper-V จะรองรับการใช้งานเฉพาะบนระบบปฏิบัติการ Windows Pro, Enterprise, และ Education เท่านั้น 

System Requirement
ภาพจาก : https://www.makeuseof.com/windows-11-enable-hyper-v/

หากตรวจสอบแล้วพบว่าคอมพิวเตอร์ของเราใช้งาน Windows Home ก็สามารถอัปเกรดระบบได้ที่ Setting → Update and Security → Activation แล้วกดอัปเกรดเป็น Windows Pro (หรือเลือกรัน Bat Script เพื่อติดตั้ง Hyper-V บนคอมพิวเตอร์ก็ได้เช่นเดียวกัน)

วิธีการเปิดใช้งาน Hyper-V

ก่อนที่จะเปิดใช้งาน Hyper-V นั้น ผู้ใช้จะต้องเข้าไปเปิดการทำงานของ Hardware Virtualization บน BIOS ก่อนจึงจะสามารถเปิดการทำงานของ Hyper-V ได้

  1. กด "ปุ่ม Power" จากนั้นกด "ปุ่ม Esc" เพื่อเรียกใช้งาน Startup Menu (หากเปิดเครื่องอยู่ให้ปิดเครื่องก่อน)
  2. กด "ปุ่ม F10" เพื่อเข้าถึง BIOS Setup

วิธีการเปิดใช้งาน Hyper-V
ภาพจาก : https://www.makeuseof.com/windows-11-enable-hyper-v/

  1. กด "ปุ่ม ลูกศร" เลื่อนไปที่ "เมนู Configuration" จากนั้นเลื่อนลงมาที่ "Virtualization Technology" แล้วกด "ปุ่ม Enter" เพื่อเปิดการทำงาน (Enabled)

วิธีการเปิดใช้งาน Hyper-V
ภาพจาก : https://www.makeuseof.com/windows-11-enable-hyper-v/

  1. กด "ปุ่ม F10" เพื่อบันทึกการตั้งค่าแล้วออกไปยัง "เมนู BIOS" รอจนคอมพิวเตอร์ รีสตาร์ทเครื่องและปรับการตั้งค่าใหม่ก็จะสามารถเปิดการทำงานของ Hyper-V ได้แล้ว

เมื่อเปิด Hardware Virtualization เป็นที่เรียบร้อยก็สามารถเปิดใช้งาน Hyper-V ได้หลากหลายวิธี ดังนี้

1. เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Control Panel

  1. เปิด "Control Panel" ขึ้นมาแล้วไปที่ "เมนู Programs and Features" 

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Control Panel

  1. มองหา "เมนู Turn Windows features on or off" ที่แถบด้านซ้ายมือ เมื่อกดเข้าไปจะมี "หน้า Windows Features" ปรากฎขึ้นมา

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Control Panel

  1. คลิกที่ "Hyper-V" เพื่อเปิดใช้งาน และกด "เครื่องหมาย [ + ]" เพื่อเช็คช่อง "Hyper-V Management" และ "Hyper-V Platforms" แล้วกด "ปุ่ม OK" เพื่อบันทึกการตั้งค่า

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Control Panel
ภาพจาก : https://docs.microsoft.com/en-us/virtualization/hyper-v-on-windows/quick-start/enable-hyper-v

  1. รอให้ระบบดำเนินการเปลี่ยนค่าใหม่แล้วกด "ปุ่ม Restart Now" เพื่อทำการรีสตาร์ทเครื่อง
  2. เมื่อเครื่องทำการรีสตาร์ทเสร็จเรียบร้อย ก็จะสามารถค้นหา "Hyper-V" และกดที่ "Hyper-V Manager" เพื่อใช้งานอุปกรณ์เสมือนบนเครื่องได้

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Control Panel
ภาพจาก : https://www.nextofwindows.com/how-to-enable-configure-and-use-hyper-v-on-windows-10

2. เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Command Prompt

  1. เปิด "Command Prompt" ด้วยการกดไปที่ "โลโก้ Windows" แล้วพิมพ์คำว่า "cmd" ลงในช่องค้นหา จากนั้นคลิกที่ "Run as Administrator"

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Command Prompt

  1. พิมพ์คำสั่ง "DISM /Online /Enable-Feature /All /FeatureName:Microsoft-Hyper-V" แล้วกด "ปุ่ม Enter"
  2. รอให้ Deployment Image Servicing and Management ทำการเปิดใช้งาน Hyper-V จนเสร็จเรียบร้อยแล้วกด "ปุ่ม Restart" เครื่อง (กด Y เพื่อยืนยันการดำเนินการ)

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Command Prompt
ภาพจาก : https://www.makeuseof.com/windows-11-enable-hyper-v/

  1. เมื่อทำการรีสตาร์ทเครื่องเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถเรียกใช้งาน "Hyper-V Manager" เพื่อใช้งานอุปกรณ์เสมือนบนเครื่องได้

3. เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน PowerShell

  1. เรียกใช้ "Windows PowerShell" ขึ้นมาโดยกดโลโก้ Windows และพิมพ์คำว่า "powershell" ลงในช่องการค้นหาแล้วกด "Run as Administrator"

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Powershell

  1. พิมพ์คำสั่ง "Enable-WindowsOptionalFeature -Online -FeatureName Microsoft-Hyper-V -All" จากนั้นกด "ปุ่ม Enter"

เปิดใช้งาน Hyper-V ผ่าน Powershell
ภาพจาก : https://docs.microsoft.com/en-us/virtualization/hyper-v-on-windows/quick-start/enable-hyper-v

  1. PowerShell จะรัน cmdlet เพื่อเปิดใช้งาน Hyper-V เมื่อเปิดใช้งานเสร็จเรียบร้อยจะเด้งเตือนให้ทำการ รีสตาร์ทเครื่อง
  2. กด "ปุ่ม Y" เพื่อยืนยันการรีสตาร์ทเครื่อง จากนั้นก็จะสามารถเปิด "Hyper-V Manager" เพื่อใช้งานอุปกรณ์เสมือนได้แล้ว

วิธีการใช้งาน Hyper-V

  1. เปิด "Hyper-V Manager" ขึ้นมาแล้วคลิกขวาที่คอมพิวเตอร์หลัก จากนั้นกดที่ "Virtual Switch Manager" (หรือไปที่ "Action" แล้วเลือก "Virtual Switch Manager")

วิธีการใช้งาน Hyper-V
ภาพจาก : https://www.nextofwindows.com/how-to-enable-configure-and-use-hyper-v-on-windows-10

  1. เลือกประเภท Virtual Switch (External, Internal, Private โดยเลือก External เมื่อต้องการให้เครื่อง VM เข้าถึงเครือข่ายโดยตรง, Internal หากไม่ต้องการเข้าถึงเครือข่าย และเลือก Private เฉพาะการใช้งานบน Host เพียงเครื่องเดียว) และกดที่ "Create Virtual Switch"

วิธีการใช้งาน Hyper-V
ภาพจาก : https://www.nextofwindows.com/how-to-enable-configure-and-use-hyper-v-on-windows-10

  1. กด "Create" หรือ  "Import" เพื่อเลือกอุปกรณ์เสมือนที่ต้องการใช้งาน  

วิธีการใช้งาน Hyper-V
ภาพจาก : https://www.nextofwindows.com/how-to-enable-configure-and-use-hyper-v-on-windows-10 


ที่มา : www.makeuseof.com , en.wikipedia.org , docs.microsoft.com , docs.microsoft.com , www.nextofwindows.com , www.guru99.com

0 Microsoft+Hyper-V+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่..
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น